Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน นิยาย บท 710

สรุปบท ตอนที่ 710 ผมจัดการเอง: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

ตอน ตอนที่ 710 ผมจัดการเอง จาก Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 710 ผมจัดการเอง คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายการเงิน Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ตอนที่ 710 ผมจัดการเอง

ใช่แล้ว!

ทุกคนล้วนถูกนักเรียนประถมแห่งความตายตบหน้า!

เสียงตบหน้าดังเพี้ยะๆ ดังสนั่น!

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่รู้สึกกระอักกระอ่วนที่สุดไม่ใช่บรรดาชาวเน็ตซึ่งเคลือบแคลงสงสัยในการ์ตูนเรื่องใหม่ของอิ่งจือ

เนื่องจากการตบฉาดใหญ่ที่ดังสนั่นที่สุด นั้นไปกระทบลงบนใบหน้าของปู้ลั่วการ์ตูนเต็มแรง!

‘ปู้ลั่วเอน็จอนาถจริงๆ !’

‘ทีนี้เว็บไซต์ใหม่ก็มีความหวังแล้ว!’

‘นักเรียนประถมแห่งความตายดังขนาดนี้ หลังจากนี้จะต้องเรียกความนิยมมาให้เว็บไซต์ใหม่ที่ชื่อเหลียนเหมิงได้มหาศาลแน่นอน!’

‘เว็บไซต์ใหม่มีนักเรียนประถมแห่งความตายประจำการอยู่ บวกกับผลงานของเยี่ยเซินเฉินกับเทียนเหมิน เหลียนเหมิงได้ติดปีกบินแน่ๆ !’

‘ถ้าเว็บไซต์ใหม่นี้ติดปีกบินจริงๆ ปู้ลั่วต้องโมโหจนกระอักเลือดแน่ๆ !’

‘นักเขียนการ์ตูนสามคนไม่เพียงพอให้เหลียนเหมิงติดปีกบินหรอก แต่อย่างน้อยอิ่งจือก็สร้างแรงกระตุ้นขึ้นมาแล้ว ทันทีที่เว็บไซต์ใหม่ออกมาจะต้องส่งผลกระทบต่อการปริมาณการเข้าชมของปู้ลั่วการ์ตูนอย่างแน่นอน’

‘ตอนนี้ฉันสนใจเว็บไซต์ใหม่ที่ชื่อเหลียนเหมิงนี้มากเลย!’

‘ถึงจะทำเพื่อนักเรียนประถมแห่งความตาย พวกเราก็จะไปสนับสนุนที่เว็บไซต์ใหม่’

‘…’

เหลียนเหมิง เว็บไซต์การ์ตูนซึ่งไม่ค่อยมีแนวโน้มที่ดีในตอนแรก ในเวลานี้กลับได้รับการยอมรับมากขึ้นอย่างต่อเนื่องจากนักเรียนประถมแห่งความตาย ถึงขั้นที่มีคนตั้งตารอวันเปิดตัวเว็บไซต์การ์ตูนใหม่นี้ด้วยซ้ำ!

หลายวันหลังจากนั้น

หลินเยวียนไม่ได้เล่นเกมทิ้งทุ่นระเบิดอีกต่อไป

เขาอัปเดตยอดนักสืบฉู่อวี๋อย่างต่อเนื่องด้วยอัตราความเร็วหนึ่งตอนต่อวัน เพื่อรวบรวมกระแสสำหรับเว็บไซต์ใหม่

อัปเดตช้าเกินไป?

เห็นชัดๆ ว่าผมอัปเดตไปตั้งเยอะแล้ว!

เพราะการ์ตูนส่วนมากจะอัปเดตตอนใหม่เพียงสัปดาห์ละหนึ่งตอน

ในวันแรกจัดหนักจัดเต็มไปมากขนาดนั้นก็เพราะหลินเยวียนมีต้นฉบับสำรองมากพอ ทั้งยังต้องการปั่นกระแสให้นักเรียนประถมแห่งความตายโดนด่วนที่สุด

ตอนนี้การ์ตูนโด่งดังแล้ว

ต้นฉบับที่สำรองไว้ก็ใกล้จะหมดลงแล้ว

หลินเยวียนจำเป็นต้องรวบรวมต้นฉบับบางส่วนอีกครั้ง

ในวันแรกของการเปิดเว็บไซต์ เขาต้องกระหน่ำอัปเดตเพื่อดึงดูดความนิยม

และขณะที่หลินเยวียนกำลังเตรียมการอย่างเงียบเชียบ

วันเปิดเว็บไซต์เหลียนเหมิงก็ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ

ในสตูดิโอของอิ่งจือ

จินมู่เอ่ยขึ้น “พรุ่งนี้ตอนเที่ยงตรง เว็บไซต์จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ คุณเตรียมตัวหรือยังครับ”

หลินเยวียนพยักหน้า

จินมู่กล่าวกลั้วหัวเราะ “นักเรียนประถมแห่ง แค่กยอดนักสืบฉู่อวี๋มีกระแสขึ้นมาแล้ว ตอนนี้คนที่ควรกังวลไม่ใช่คุณอีกต่อไป แต่คือเทียนเหมินกับเยี่ยเซินเฉิน ว่าผลงานใหม่ของพวกเขาจะติดปีกบินได้ไหม”

“น่าจะไม่มีปัญหา”

หลินเยวียนเคยอ่านการ์ตูนของทั้งสองแล้ว

สองคนนี้ล้วนเป็นนักเขียนการ์ตูนระดับเทพ เคยมีประสบการณ์ในการสร้างสรรค์การ์ตูนมามากกว่าหนึ่งเรื่อง และอัตราความผิดพลาดต่ำมาก

แน่นอน

ถ้าหากผิดพลาดขึ้นมา หลินเยวียนก็มีแผนสำรอง

ยอดนักสืบฉู่อวี๋โด่งดังจริงๆ และความนิยมอย่างต่อเนื่องนี้ไม่มีทางแย่ไปกว่าในโลกเดิมได้

อย่างไรก็ตาม หลินเยวียนเข้าใจดี

ว่าการพึ่งพาการ์ตูนเพียงเรื่องเดียว ไม่สามารถแบกรับเว็บไซต์ทั้งหมดได้

ต่อให้สามารถแบกรับได้ แต่ก็ไม่เพียงพอนักเมื่อเผชิญกับคู่ต่อสู้อย่างปู้ลั่ว

ถึงอย่างไรทั่วทั้งวงการการ์ตูน นักวาดการ์ตูนระดับสูงและระดับกลางล้วนเป็นคนของปู้ลั่วการ์ตูน

ต่อให้ไม่แข่งกันที่คุณภาพ แต่แข่งกันที่ปริมาณ ก็ยังนับว่าน่าสะพรึงกลัวมาก

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ทางฝั่งปู้ลั่วการ์ตูนมีการ์ตูนคุณภาพดีอยู่มากมาย

“หวังว่าจะไม่มีอะไรผิดพลาด”

จินมู่ตระหนักดีถึงภยันตรายที่อาจเกิดขึ้นในช่วงเวลาแห่งความสงบสุข

เขาไม่ได้คิดว่าเหลียนเหมิงชนะแล้วเพียงเพราะนักเรียนประถมแห่งความตายตบหน้าปู้ลั่วฉาดใหญ่

พูดอย่างเป็นกลาง

ยังมีหนทางอีกยาวไกลให้เหลียนเหมิงก้าวเดิน

ถึงอย่างไรปู้ลั่วการ์ตูนพัฒนามาเป็นระยะเวลานานกว่า

ในสถานการณ์ปกติ เหลียนเหมิงไม่มีทางลัดให้แซงหน้าพวกเขาได้

“โชคดีที่อิ่งจือได้พิสูจน์ตัวเองเต็มที่อีกครั้งหนึ่ง อย่างน้อยช่องว่างระหว่างตัวตนนี้กับเซี่ยนอวี๋ฉู่ขวงจึงไม่ใหญ่เหมือนแต่ก่อน”

จินมู่สะท้อนใจ

หลินเยวียนคลี่ยิ้ม

ความสะท้อนใจของจินมู่ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ ในแง่สถานะและอิทธิพลของทั้งสามตัวตน ปัจจุบันนี้อิ่งจือยังไม่มีทางเทียบกับฉู่ขวงและเซี่ยนอวี๋ได้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออิ่งจือรามือจากวงการไปเกือบหนึ่งปี

ระยะห่างของตัวตนนี้และอีกสองตัวตนจึงยิ่งกว้างขึ้นไปอีก

กว้างกว่าช่องว่างระหว่างเหลียนเหมิงซึ่งกำลังจะเปิดตัวและปู้ลั่วเสียอีก

แต่ถึงอย่างนั้น ทั้งสามคนก็คือตัวเขาเอง ดังนั้นหลินเยวียนจึงไม่ได้ใส่ใจมากนัก

อืม

จริงๆ ก็ใส่ใจอยู่นิดหน่อย

……

วันรุ่งขึ้น

เหลียนเหมิงกำลังจะเปิดตัว!

อิ่งจือโพสต์ข้อความ ‘เมื่อเว็บไซต์ใหม่เปิดตัวยอดนักสืบฉู่อวี๋ จะอัปเดตแบบจัดหนักเล็กน้อย’

ความถี่ในการโพสต์ข้อความของอิ่งจือนั้นสูงมากในระยะนี้

เมื่อชาวเน็ตรู้ข่าวนี้ จึงเกิดความกระตือรือร้นขึ้นมา!

ในขณะเดียวกัน

ทางบล็อกก็ยังช่วยโปรโมตแบบนับถอยหลัง เพื่อดึงดูดความสนใจเพิ่มขึ้น

‘จะเปิดตัวแล้ว!’

‘ฟังดูเหมือนจะเปิดศึกเลย!’

‘ฮ่าๆๆๆ เข้าใจได้อยู่นะ!’

‘เหลียนเหมิงมุ่งเป้าไปที่ปู้ลั่วการ์ตูน เว็บไซต์การ์ตูนทั้งสองฝั่งต้องสู้กันขึ้นมาแน่เลย!’

‘เหลียนเหมิงสู้ไม่ได้หรอก’

‘ถึงจะสู้ไม่ได้ แต่เทียนเหมินกับเยี่ยเซินเฉินก็ออกโรงด้วย บวกกับเรื่องนักเรียนประถมแห่งความตาย ฉันว่าพวกเขายังพอสู้ได้!’

‘เห็นด้วย’

‘ไม่ใช่แค่เพื่ออ่านนักเรียนประถมแห่งความตาย ผมยังตั้งตารอผลงานใหม่ของเทียนเหมินกับเยี่ยเซินเฉินด้วย!’

‘…’

หลินเยวียนไม่ได้พูดอะไรตั้งแต่ต้นจนจบ

ไม่มีใครรู้ว่าหลินเยวียนกำลังคิดอะไรอยู่ในขณะนี้

หลังจากนั้นไม่นาน

เหลียนเหมิงก็เปิดตัวอย่างเป็นทางการ

แต่เมื่อผู้ใช้จำนวนมากหลั่งไหลเข้ามา ทุกคนกลับเห็นยอดนักสืบฉู่อวี๋เพียงเรื่องเดียว และผลงานใหม่ซึ่งเผยแพร่โดยนักเขียนซึ่งไม่เป็นที่รู้จัก

เทียนเหมินล่ะ?

เยี่ยเซินเฉินล่ะ?

นี่คือนักเขียนการ์ตูนสองคนที่ใครหลายคนตั้งตารอ แต่ทุกคนพยายามสอดส่องบนแถบค้นหาของเว็บไซต์อยู่นานโข แต่กลับไม่เห็นร่องรอยของเทียนเหมินและเยี่ยเซินเฉิน ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงผลงานของพวกเขา

ผ่านไปอีกสักพัก

โทรศัพท์ของจินมู่ก็ดังขึ้นอีกครั้ง

เขามองดูหน้าอินเทอร์เฟซที่ว่างเปล่าบนเว็บไซต์ใหม่ มือกดรับสายอย่างหมดอาลัยตายอยาก คล้ายกับคาดเดาได้ล่วงหน้าแล้วว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไร

“ไม่มีหวังแล้วค่ะ”

นี่คือประโยคแรกของหานจี้เหม่ย “ในที่สุดก็โทรศัพท์หาเยี่ยเซินเฉินกับเทียนเหมินติดแล้ว แต่พวกเขาบอกว่าหลังจากนี้จะขอยกเลิกสัญญากับเว็บไซต์เรา ฉันคุ้นเคยกับหลิงคงดี นี่คือวิธีการของเขา…”

“ไอ้เวรตะไลเอ๊ย!”

จินมู่พ่นคำพรุสวาทซึ่งมีไม่บ่อยครั้งนัก เส้นเลือดข้างขมับปูดโปนอย่างเห็นได้ชัด!

ทว่าหานจี้เหม่ยกลับไม่โมโหอีกต่อไป เธอเพียงถอนหายใจ “พวกเขาคือองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดในแผนการของเรา เว็บไซต์ใหม่เหมือนแผ่นฟ้าที่จำเป็นต้องให้อาจารย์อิ่งจือ เทียนเหมิน และเยี่ยเซินเฉินประคับประคองไว้ ถ้าไม่มีพวกเขาสองคน เราก็เหมือนดินแดนล่มสลายไปครึ่งหนึ่ง ตนนี้ทั้งเว็บไซต์มีแค่การ์ตูนของอาจารย์อิ่งจือที่เรียกยอดการเข้าชม ยังไม่พอค่ะ ยังไม่พอเลย…”

จินมู่ใบหน้าซีดเผือด

การทรยศของเทียนเหมินกับเยี่ยเซินเฉินส่งผลให้เกิดผลกระทบที่หนักหน่วง นอกจากนั้นยังรุนแรงจนอาจถึงแก่ชีวิต ตำแหน่งที่ว่างทั้งสองแห่งนั้นไม่มีทางเติมเต็มได้เลย!

ท่ามกลางความพร่าเบลอ

มือซึ่งถือโทรศัพท์ของเขากำแน่น จนข้อกระดูกเปลี่ยนเป็นสีขาวจางๆ ดวงตาของเขาเริ่มแดงก่ำ

ทันใดนั้น

หลินเยวียนยื่นมือออกไปหยิบโทรศัพท์มือถือของจินมู่

จินมู่ผงะถอยตามสัญชาตญาณ จากนั้นก็ไม่ได้ขัดขืนอีก เพียงแต่ก้มหน้ายืนอยู่กับที่เงียบๆ

โทรศัพท์มือถือมาอยู่ในมือของหลินเยวียน

หลินเยวียนเอ่ยขึ้นเป็นครั้งแรก และกระซิบกับหานจี้เหม่ยซึ่งอยู่ปลายสาย “หลุมที่ว่าใหญ่ กลบไปให้หมดก็สิ้นเรื่อง”

ทุกสิ่งหยุดชะงักฉับพลัน

หลินเยวียนพูดต่อ เสียงของเขายังคงแผ่วเขา “ถ้าเรื่องเดียวไม่พอก็สองเรื่อง สองเรื่องไม่พอก็สามเรื่อง สามเรื่องไม่พอก็…”

“หัวหน้าครับ!”

“อาจารย์อิ่งจือ!”

จินมู่และหานจี้เหม่ยซึ่งอยู่ปลายสายเอ่ยขัดจังหวะของหลินเยวียน พวกเขานึกอยากปลอบใจหลินเยวียน แต่กลับไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไร

“ไม่เป็นไรครับ”

หลินเยวียนเอ่ยอย่างยิ้มแย้ม

เสียงของเขาสงบเหลือเกิน แต่ถึงกระนั้นไม่ว่าจะเป็นจินมู่ซึ่งอยู่ด้านข้าง หรือหานจี้เหม่ยซึ่งอยู่ปลายสาย กลับฟังออกถึงความโกรธขั้นสุดซึ่งเก็บซ่อนไว้ภายใต้ความสงบนี้ได้

หลินเยวียนโมโหแล้ว!

เมื่อสัมผัสได้ถึงอารมณ์ภายใต้ความสงบนี้ ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด จู่ๆ จินมู่และหานจี้เหม่ยถึงรู้สึกเย็นวาบอย่างบอกไม่ถูก ไม่มีใครกล้าพูดต่อสักพักหนึ่ง

“ผมจัดการเอง”

รอยยิ้มของหลินเยวียนหายไปแล้ว

ถ้าหลียนเหมิงจะล้มสักหนึ่งเฟิน ผมจะเติมไปหนึ่งชุ่น ถ้าจะล้มสักหนึ่งฉื่อ ผมจะเติมไปอีกหนึ่งจั้ง ต่อให้ดินแดนล่มสลายไปครึ่งหนึ่งแล้วอย่างไร?

ผืนฟ้าผืนนี้ ผมจะพยุงไว้เอง!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน