ตอนที่ 711 ภารกิจที่ไม่มีทางเป็นไปได้
ในคลับแห่งหนึ่ง
ชายสองคนกำลังกินข้าวด้วยกัน
ชายหนึ่งคนในนั้นตักอาหารเข้าปาก กระซิบเสียงเบา “เทียนเหมิน พวกเราทำแบบนี้ไม่ค่อยดีหรือเปล่า?”
“ผมเองก็ไม่อยากทำแบบนี้หรอก”
ชายฝั่งตรงข้ามเอ่ย “แต่ที่ปู้ลั่วให้ก็เยอะจริงๆ เป็นเงื่อนไขที่พวกเราปฏิเสธไม่ได้…”
ใช่แล้ว
สองคนนี้ก็คือเทียนเหมินและเยี่ยเซินเฉิน นักเขียนการ์ตูนระดับเทพซึ่งได้รับเชิญจากเว็บไซต์ใหม่เหลียนเหมิง
แน่นอนว่านี่คือนามปากกาของเขา
และพวกเขาชอบเรียกกันด้วยนามปากกาเมื่อสนทนากันส่วนตัว
“แค่พวกเราทำแบบนี้ ต่อไปชื่อเสียงคงไม่ดีสักเท่าไหร่แล้ว ทำให้พวกเราเหมือนกับสายลับในธุรกิจ เหลียนเหมิงยังต้องได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง หานจี้เหม่ยที่ไว้วางใจพวกเรายิ่งต้องแบกรับความรับผิดชอบที่ปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาดอีก”
ท้ายที่สุดแล้วก็ยังมีพันธนาการทางจรรยาบรรณอยู่
อย่างไรก็ตาม เยี่ยเซินเฉินกังวลกับปัญหาเรื่องชื่อเสียงมากกว่า
เทียนเหมินเอ่ยเสียงเรียบ “สำหรับนักวาดการ์ตูนแล้ว ผลงานชื่อรากฐานของอาชีพ ถ้าผลงานของเราดีพอ ชื่อเสียงย่อมไม่ได้รับผลกระทบมากนัก ถ้าผลงานแย่เกินไป ต่อให้ชื่อเสียงดีแค่ไหนก็ไม่มีข้าวกิน ส่วนหานจี้เหม่ย พูดได้แค่ว่าเธอใส่ใจกับเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลมากเกินไป มีสไตล์การทำงานที่นุ่มนวลเกินไป เป็นเรื่องปกติที่จะเสียเปรียบเมื่อเจอกับคู่ต่อสู้อย่างหลิงคงที่ทำทุกวิถีทางที่เป็นไปได้ ถ้าเธอได้เรียนรู้จากประสบการณ์ในครั้งนี้ ในอนาคตคงเสียเปรียบน้อยลง นี่ไม่ใช่เรื่องที่เลวร้ายกับเธอไปซะทีเดียว”
เยี่ยเซินเฉินพยักหน้า
คล้ายกับว่าจะเป็นเช่นนั้น
พวกเขาทรยศต่อความไว้วางใจของหานจี้เหม่ย
แต่หากกล่าวว่าชื่อเสียงจะส่งผลต่ออนาคตของพวกเขาคงไม่ถึงขั้นนั้น นักเขียนการ์ตูนเป็นเพียงเบื้องหลัง ไม่ใช่นักแสดงหน้าเวที ผู้ผลิตผลงานที่นิสัยไม่ดีมีถมเถไป
แค่โดนด่าสักยกหนึ่งแล้วก็ผ่านไป
ตราบใดที่ผลงานดี ผู้อ่านไม่มีทางสนใจเรื่องไร้สาระเกี่ยวกับการแข่งขันทางธุรกิจหรอก
“กลัวก็แต่ว่าหลิงคงข้ามแม่น้ำได้แล้วจะรื้อสะพานทิ้ง…”
“สัญญาที่หลิงคงมอบให้พวกเรามีค่าปรับสูงลิบถ้าผิดสัญญา และค่าปรับของทางเหลียนเหมิง เขาก็ระบุในสัญญาแล้วว่าจะช่วยพวกเราจ่าย เพราะฉะนั้นเขาไม่มีทางข้ามแม่น้ำแล้วรื้อสะพานทิ้งหรอก ถ้าเขายอมรื้อสะพานของพวกเราโดยจ่ายค่าปรับแพงแสนสาหัสแบบนั้นจริง ต่อไปเขาไปดึงคนจากบริษัทอื่น คงไม่มีใครเชื่อเขาอีกแล้วล่ะ”
เทียนเหมินไม่ได้กังวลเรื่องนี้
หลิงคงรู้กฎพื้นฐานในการแข่งขันทางธุรกิจ
ที่เขาและเยี่ยเซินเฉินเข้าร่วมกับเหลียนเหมิน ก็เพราะต้องการใช้สิ่งนี้เพื่อข่มขู่ในการเจรจาเงื่อนไขกับปู้ลั่ว
ตอนนี้บรรลุเป้าหมายแล้ว
เวลานี้ไม่มีอะไรมากไปกว่านกที่ดีย่อมหากิ่งไม้เกาะ เขาเสียสละชื่อเสียงเพียงเล็กน้อยเพื่อแลกกับผลประโยชน์มหาศาล
เขาทำสิ่งที่เขาคิดว่าเป็นทางเลือกที่ถูกต้อง
เยี่ยเซินเฉินพยักหน้าอย่างจริงจัง “ทำได้แค่ขอโทษอิ่งจือกับเหลียนเหมิงแล้ว คนเรายอมตายเพราะทรัพย์ นกยอมตายเพราะอาหาร ไม่มีเหตุผลให้เราปล่อยเงื่อนไขที่ดีขนาดนี้ของปู้ลั่วทิ้งไปเพียงเพื่อเหลียนเหมิง ถึงยังไงตอนนั้นพวกเราออกจากปู้ลั่วแล้วเข้าร่วมกับเหลียนเหมิง ก็เพื่อให้ปู้ลั่วมอบสัญญาที่ดีกว่านี้ให้ ตอนนี้ถึงแม้วิธีการจะไม่ได้ดูดีสักเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยเราก็ได้รับสัญญาที่ใฝ่ฝันจากปู้ลั่ว…”
พูดมาถึงตรงนี้
จู่ๆ เยี่ยเซินเฉินก็เอ่ยขึ้น “เทียนเหมิน คุณว่าครั้งนี้เหลียนเหมิงยังพอมีหวังที่จะต่อสู้กับปู้ลั่วไหม”
“เหอะ”
เทียนเหมินส่งเสียงหัวเราะซึ่งไม่อาจล่วงรู้ความหมาย
หลายวินาทีผ่านไป เยี่ยเซินเฉินจึงหัวเราะตาม
ทั้งสองยกแก้วสุราขึ้นชนกันเบาๆ ก่อนจะจิบหนึ่งคำ
ทั้งหมดนี้ปราศจากบทสนทนา
ต่อให้พวกเขาทั้งสองจะร่วมมือกับอิ่งจือ เดิมทีก็ไม่สามารถเป็นคู่ต่อสู้ของปู้ลั่วได้อยู่แล้ว
ถ้าหากเหลียนเหมิงเป็นเว็บไซต์ที่สามารถพึ่งพาอาศัยได้จริง ทำไมพวกเขาต้องกระเสือกกระสนกลับไปยังปู้ลั่วแม้ว่าชื่อเสียงจะเสียหายด้วยล่ะ?
จรรยาบรรณใครๆ ก็มี
เพียงแต่สูงต่ำไม่เท่ากัน
……
เว็บไซต์ใหม่เหลียนเหมิง
ผู้อ่านค้นหาซ้ำแล้วซ้ำอีก แต่กลับไม่พบผลงานของเยี่ยเซินเฉินและเทียนเหมิน
แรกเริ่มทุกคนคิดว่าเป็นเพียงความผิดพลาดทางเทคนิค จึงไม่ได้ก่อให้เกิดปัญหามากนัก
ทว่าเมื่อทุกคนเห็นยอดนักสืบฉู่อวี๋ทุ่มอัปเดตอย่างจัดหนักจัดเต็ม แต่ยังไม่เห็นผลงานของทั้งสองคน ในที่สุดก็มีคนสังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติ
‘เทียนเหมินและเยี่ยเซินเฉินทำไมยังไม่เคลื่อนไหว?’
‘เว็บไซต์ใหม่ก็เปิดตัวมาครึ่งชั่วโมงแล้วนะ!’
‘พวกเขาทั้งสองคงไม่ได้หนีไปหรอกนะ?’
‘เทคนอ่านไปแล้วว่างั้น?’
‘ถ้าหนีไปจริงๆ พวกเขาสองคนไม่ได้เทคนอ่านหรอก แต่เทเหลียนเหมิงต่างหากล่ะ!’
‘น่าจะมีความผิดพลาดแหละ เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับเว็บไซต์ที่เพิ่งสร้าง’
‘ปัญหาน่าจะไม่ร้ายแรงขนาดนั้น บางทีพวกเราอาจจะคิดมากไป รอดูไปก่อน’
‘…’
ชาวเน็ตเริ่มสงสัยขึ้นมา
ขณะนั้นเอง
จู่ๆ บนหน้าเว็บก็มีความคิดเห็นหนึ่งปรากฏขึ้น!
‘ให้ตายเถอะ! เกิดเรื่องใหญ่แล้ว! ทุกคนรีบไปดูที่ปู้ลั่วประกาศเร็ว!’
ปู้ลั่ว?
ชาวเน็ตตกตะลึง ทันใดนั้นต่างคนต่างกดเปิดปู้ลั่ว
ทันใดนั้น ข้อความประกาศหนึ่งก็ปรากฏแก่สายตาของทุกคน!
[ผลงานใหม่ของเทียนเหมินเยี่ยเซินเฉินจะเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในปู้ลั่วเพียงแห่งเดียว ยินดีต้อนรับอาจารย์ทั้งสองกลับบ้าน!!!]
พรึบๆๆ!
ทุกคนต่างงุนงง!
อะไรกัน?
เจ้าสองคนนี้หนีกลับไปปู้ลั่ว?
‘รอเก้อเลย’
‘ผมไปอ่านการ์ตูนที่ปู้ลั่วดีกว่า’
‘สองคนนี้ยังมีจรรยาบรรณในวิชาชีพอยู่หรือเปล่า ตอนแรกบอกว่าเจรจาสัญญากับปู้ลั่วล้มเหลวถึงมาที่เหลียนเหมิงไม่ใช่เหรอ เหลียนเหมิงถูกเจ้าสองคนนี้แกงหม้อใหญ่เลย!’
‘สองคนนี้เล่นบ้าอะไรเนี่ย!’
ทุกคนต่างตกตะลึงกับข่าวนี้!
แฟนคลับของอิ่งจือพากันก่นด่า!
‘ก็แค่เปลี่ยนงานปกติเท่านั้นเอง!’
มีแฟนคลับของเทียนเหมินและเยี่ยเซินเฉินแก้ต่าง
แฟนคลับของอิ่งจือกลับเดือดดาลยิ่งกว่าเดิม
‘แน่นอนว่าการเปลี่ยนงานไม่ใช่ปัญหา แต่พวกคุณทำแบบนี้ตอนที่เหลียนเหมิงเพิ่งเปิดตัวเว็บไซต์ มันคนละเรื่องกันแล้ว เหลียนเหมิงกับสองคนนี้ไม่ได้มีความโกรธแค้นกันมาก่อน ทำไมต้องใจร้ายขนาดนี้ด้วย!’
แฟนคลับของเทียนเหมินและเยี่ยเซินเฉินยังไม่ยอมจำแพ้
‘ไม่ใช่ว่าตัวเองจรรยาบรรสูงส่งแล้วจะมาต่อว่าคนอื่นมั่วๆ ได้ จะไปที่เทียนเหมินกับเยี่ยเซินเฉินมีอิสระในการเลือก อาจารย์ทั้งสองท่านกล้าทำแบบนี้แปลว่าต้องจ่ายค่าปรับที่ผิดสัญญาแน่ๆ ส่วนที่ควรจ่ายเงินชดเชยก็จ่ายไปแล้ว ยังต้องให้อาจารย์สองท่านทำอะไรอีก!’
จ่ายเงินชดเชย?
แฟนคลับของอิ่งจือตอบโต้
‘ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เงินค่าปรับ เห็นชัดๆ ว่าเป็นเรื่องของนิสัยต่างหาก สองคนนี้ใจดำ คิดจะตัดรากของของเหลียนเหมิงเลยว่างั้น!’
‘อย่ามาปากเก่งแต่หน้าคีย์บอร์ด!’
แฟนคลับทั้งสองฝั้งเปิดฉากปะทะฝีปากกัน!
ชาวเน็ตซึ่งผ่านไปมาต่างเอ่ยอย่างสะท้อนใจ
‘หลังจากนี้เหลียนเหมิงจบเห่แล้ว ตอนแรกสู้กับปู้ลั่วไม่ได้มีแววว่าจะชนะเลย ตอนนี้แกนหลักที่เป็นกุญแจสำคัญหายไปสองคนอีก’
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน