ตอนที่ 742 เป็นบุคคลอันดับหนึ่งในวงการการ์ตูนแล้วคิดจะทำอะไรก็ได้งั้นหรือ? – ตอนที่ต้องอ่านของ Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอนนี้ของ Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายการเงินทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 742 เป็นบุคคลอันดับหนึ่งในวงการการ์ตูนแล้วคิดจะทำอะไรก็ได้งั้นหรือ? จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
ตอนที่ 742 เป็นบุคคลอันดับหนึ่งในวงการการ์ตูนแล้วคิดจะทำอะไรก็ได้งั้นหรือ?
“เขาพูดอะไรน่ะ!”
นี่เป็นประโย คที่ไร้ประโยชน์ เพราะอิ่งจือพูดอะไร บนบล็อกเขียนไว้อย่างชัดเจน ทว่าผู้คนดูเหมือนว่าจะเอ่ยประโยคไไร้ประโยชน์ที่คล้ายคลึงกันออกมาหลังจากได้ฟังคำพูดชวนตะลึงเช่นนี้
ผลงานใหม่!?
นักเรียนประถมแห่งความตาย นินจาจอมคาถา ราชาโจรสลัด รวมไปถึงคินดะอิจิกับคดีฆาตกรรมปริศนาซึ่งกลับคืนมา อิ่งจือเปิดมาสี่เรื่องแล้วไม่ใช่หรือ?
ต่อให้ไม่จำเป็นต้องวาดเอง เขาก็ยังจำเป็นต้องคิดโครงเรื่องเองอยู่ไม่ใช่หรือ แต่เขากลับผลิตการ์ตูนสี่เรื่องพร้อมกัน ทั้งยังมีพลังไปเขียนการ์ตูนเรื่องใหม่ในเวลาเดียวกันอีก นี่คือจังหวะของการเปิดห้าเรื่องควบแล้วจริงๆ !
บาสเกตบอล!?
ถึงแม้จะยังมีประเด็นถกเถียงเกี่ยวกับสมญานามบุคคลอันดับหนึ่งในวงการการ์ตูนกีฬา แต่ประเด็นที่ว่าอิ่งจือก็ยังเชี่ยวชาญด้านการ์ตูนกีฬาจริงๆ นั้น แม้แต่แฟนคลับของเหอต้าจวิ้นก็ยังยอมรับ แต่ทำไมผลงานใหม่ของอิ่งจือต้องเลือกบาสเกตบอลด้วยล่ะ
เห็นชัดๆ ว่าบาสเกตบอลคือสาขากีฬาที่เหอต้าจวิ้นสันทัดที่สุด!
การ์ตูนเรื่องใหม่ของอิ่งจือควรใช้ธีมเทนนิสที่เขาคุ้นเคยมากที่สุดไม่ใช่หรือ?
‘เขาเป็นบ้าอีกแล้ว?’
‘ครั้งก่อนคนที่บอกว่าอิ่งจือบ้า ตอนนี้ยังเก็บเศษหน้าไม่หมดเลยนะ แต่ครั้งนี้ฉันอยากจะพูดพร้อมกับเศษหน้าที่ยังร่วงกราวอยู่นี่แหละ ครั้งนี้เขาบ้าไปแล้วจริงๆ ? เปิดสี่เรื่องยังไม่เหนื่อยเจียนตาย เขายังคิดจะเปิดห้าเรื่อง นี่คืออิ่งจือที่ขี้เกียจจะเป็นจะตายก็ไม่ยอมลุกที่ฉันรู้จักหรือเปล่านะ?’
ขยันอะไรปานนี้!
แฟนคลับคนนี้ถึงขั้นสงสัยว่าอิ่งจือถูกลักพาตัวไปขังไว้ในห้องมืดและแคบ ถูกปืนจี้และขู่บังคับให้วาดการ์ตูน ถ้าไม่วาดจะไม่ให้กินข้าวหรือเปล่า
‘ประเด็นสำคัญอยู่ที่ธีมหลัก!’
‘ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ช่วงนี้เขาเปิดสี่หรือห้าเรื่อง ถึงยังไงเขาก็ไม่ได้วาดเอง ประเด็นสำคัญของเรื่องนี้อยู่ที่เขาไปเอาความมั่นใจในการวาดการ์ตูนบาสเกตบอลมาจากไหน แทนที่จะวาดการ์ตูนเทนนิสที่เขาคุ้นเคย บาสเกตบอลเป็นการ์ตูนกีฬาที่เหอต้าจวิ้นถนัดที่สุด ไม่อย่างนั้นเหอต้าจวิ้นคงไม่กล้าพูดต่อหน้านักข่าวซะเต็มปากเต็มคำว่าบนโลกนี้ไม่มีใครเข้าใจการ์ตูนบาสเกตบอลได้ดีกว่าเขาแล้วหรอก!’
‘อิ่งจือล่ะ เขาเข้าใจบาสเกตบอลหรือ?’
‘ครั้งก่อนอิ่งจือใช้การ์ตูนประเภทที่เทียนเหมินกับเยี่ยเซินเฉินถนัดที่สุดมาทุบพวกเขาสองคน ครั้งนี้เขาจะมาจุดประเด็นกับบาสเกตบอลที่เหอต้าจวิ้นถนัดที่สุดอีก เขาเสพติดการเหยียบหน้าคนอื่นในเขตแดนของคนอื่นแล้วหรือ?’
‘แบบหน้าก็สู้กันซึ่งหน้าไปเลย!’
‘ฝีมือการเขียนการ์ตูนของอิ่งจือเป็นอันดับหนึ่งในบลูสตาร์ก็จริง แต่ปัญหาคือของอย่างบาสเกตบอลมันไม่เหมือนกันสักหน่อย มีประโยคที่กล่าวว่า ต่อให้เป็นภรรยาที่เก่งที่สุด ถ้าไม่มีข้าวสารก็หุงข้าวออกมาไม่ได้ ต่อให้เป็นนักเขียนการ์ตูนที่เก่งที่สุด ถ้าไม่เข้าใจกฎกติกาและเสน่ห์ของบาสเกตบอลมากพอ จะวาดการ์ตูนบาสเกตบอลออกมาให้ทุกคนทึ่งได้ยังไงกัน จะมาทำอะไรตอนจวนตัวแบบนี้ไม่ไหวหรอก เขาต้องทำความเข้าใจกับกฎกติกาให้ดีซะก่อน ต้องเข้าใจว่าช่วงวัยรุ่นเหอต้าจวิ้นเกือบได้เป็นนักกีฬาบาสเก็ตบอลมืออาชีพแล้วนะ!’
……
แฟนคลับเหอต้าจวิ้นอึ้ง!
แฟนคลับของอิ่งจือก็อึ้งเช่นกัน!
คนที่ผ่านไปผ่านมายิ่งตะลึงจนตาค้างไปตามๆ กัน!
ไม่มีใครคาดเดาสารบบความคิดของอิ่งจือได้ เขาต้องการใช้การ์ตูนบาสเกตบอลโจมตีเหอต้าจวิ้น เพื่อพิสูจน์ว่าใครกันแน่ที่เป็นบุคคลอันดับหนึ่งของวงการการ์ตูนกีฬา?
ใช้แล้ว
ใครก็ตามที่มีสมองย่อมรู้ว่าอิ่งจือกำลังประกาศสงคราม!
เขาไม่เพียงประกาศบนบล็อกว่าผลงานเรื่องต่อไปของตนเป็นธีมบาสเกตบอล นอกจากนั้นยังเรียนรู้วิธีของปู้ลั่วการ์ตูน และเผยแพร่ผลงานในรูปแบบการ์ตูนและแอนิเมชันพร้อมกัน!
ถ้านี่ไม่ใช่สัญญาณประกาศสงคราม จะต้องรอให้อิ่งจือชี้หน้าเหอต้าจวิ้นแล้วพูดว่า ‘คอยดูเถอะว่าผมจะเอาชนะคุณในสนามที่คุณเก่งที่สุดได้ยังไง’ อย่างนั้นหรือ?
‘เล่นใหญ่เอาใจมวลชน!’
‘สอนจระเข้ว่ายน้ำ!’
‘นี่ล้อเล่นสินะ!’
‘แข่งด้านการ์ตูนบาสเกตบอลกับเหอต้าจวิ้น รนหาที่ตายชัดๆ !’
‘ถ้าเขาใช้การ์ตูนธีมเทนนิสอีก ผมก็พอเข้าใจได้ มีแค่บาสเกตบอลที่เหอต้าจวิ้นเป็นเทพตลอดกาล!’
‘ไม่มีใครเข้าใจการ์ตูนบาสเกตบอลได้ดีไปกว่าต้าจวิ้นอีกแล้ว!’
‘…’
หลังจากเผชิญกับความตกตะลึงไปหนึ่งระลอก
แฟนคลับของเหอต้าจวิ้นก็ตื่นตัว!
พวกเขารู้สึกว่าการยั่วยุในครั้งนี้ของอิ่งจือเสมือนไม่เห็นเหอต้าจวิ้นอยู่ในสายตา!
บุคคลอันดับหนึ่งในวงการการ์ตูนคิดว่าตนเองวาดการ์ตูนได้ทุกประเภทอย่างนั้นรึ?
นอกจากนั้นคุณก็เขียนการ์ตูนอยู่แล้วสี่เรื่อง!
ยังจะเพิ่มมาอีกหนึ่งเรื่อง?
เรื่องนี้ให้ความรู้สึกราวกับว่าเขาอยากถล่มเหอต้าจวิ้นด้วยการ์ตูนบาสเกตบอล!
อืม
เทียนเหมินและเยี่ยเซินเฉินก็เคยโกรธเป็นฟืนเป็นไฟด้วยเหตุเช่นนี้มาก่อน
พวกเขารู้สึกว่าตนเองถูกดูหมิ่น
เพราะนี่ไม่ใช่การเผชิญหน้าแบบหนึ่งต่อหนึ่งน่ะสิ อีกฝ่ายเพียงแค่ใช้พละกำลังส่วนหนึ่งมาสู้กับพวกเขา!
ตอนนี้ก็เช่นกัน
อิ่งจือเปิดเรื่องที่ห้าแล้ว!
เท่ากับเขาใช้พลังหนึ่งในห้าต่อสู้กับเหอต้าจวิ้น อีกทั้งยังเป็นสนามประลองด้านบาสเกตบอลซึ่งเหอต้าจวิ้นเป็นคนเลือกเอง!
คิดจะดูถูกใครกัน!
บุคคลอันดับหนึ่งของวงการการ์ตูนเก่งกาจ เป็นบุคคลอันดับหนึ่งของวงการการ์ตูนแล้วคิดจะทำอะไรก็ได้งั้นหรือ?
……
ปู้ลั่วการ์ตูน
เหอต้าจวิ้นมีสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นมา
แน่นอนว่าเขารู้สึกว่าตนถูกดูหมิ่น แถมยังถูกดูหมิ่นในการ์ตูนแขนงที่ตนภาคภูมิใจที่สุด สำหรับเขา นี่คือการดูหมิ่นครั้งใหญ่ เขาจึงเดือดดาลเป็นอย่างมาก
‘เขาคิดว่าการ์ตูนบาสง่ายขนาดนั้นเชียว?’
‘เขาเคยวาดการ์ตูนเกี่ยวกับเทนนิสมาก่อน เขาน่าจะรู้ว่าถ้าจะใช้กีฬาเป็นธีมในการ์ตูน จะต้องหาข้อมูลและทำความเข้าใจอย่างต่อเนื่องจนกว่าตัวเองจะซาบซึ้งในกีฬาประเภทนั้นๆ อย่างแท้จริง!’
‘ตอนนี้ในมือของเขามีการ์ตูนสี่เรื่องที่กำลังลง!’
‘เขาไปเอาแรงจากไหนมาทำเรื่องพวกนี้ แล้วก็มาประลองบนสังเวียนเดียวกับฉันเนี่ยนะ!’
‘เพียงเพราะว่าเขาเป็นอันดับหนึ่งของวงการการ์ตูน เขาเลยคิดว่าตัวเองเป็นพระเจ้าที่ทำได้ทุกอย่างในวงการการ์ตูนงั้นหรือ?’
เหอต้าจวิ้นเกิดคำถามขึ้นในใจอย่างต่อเนื่อง
หลิงคงขมวดคิ้ว
นี่คือเหตุผลที่เหอต้าจวิ้นไม่โมโหอีกต่อไป มิหนำซ้ำยังรู้สึกตื่นเต้นอีกด้วย!
เขาไม่ได้เงินขาดมือสักหน่อย เพลิงบาสเกตบอลทำรายได้ให้เขาเป็นกอบเป็นกำ ตอนนี้สิ่งที่เขาแสวงหาคือชื่อเสียง!
บุคคลอันดับหนึ่งในวงการการ์ตูนกีฬา!
นี่คือสมญานามที่เขาโหยหา!
ทว่าในเวลานี้ ชื่อเสียงยิ่งใหญ่กว่ากำลังกวักมือเรียกเขา นั่นก็คือ ‘เอาชนะอิ่งจือซึ่งเป็นบุคคลอันดับหนึ่งในวงการการ์ตูน’!
ยังคงเป็นคำพูดเดิม!
ไม่มีใครเข้าใจการ์ตูนบาสเกตบอลได้ดีไปกว่าเหอต้าจวิ้นอีกแล้ว ต่อให้เป็นบุคคลอันดับหนึ่งในวงการนี้ก็ทำไม่ได้!
ในวงการการ์ตูนบาสเกตบอล ไม่มีที่ว่างสำหรับคนที่เก่งกว่าเขา!
แล้วทำไมอิ่งจือถึงพูดจาโอหังเช่นนี้น่ะหรือ?
คนอื่นไม่เข้าใจ แต่เหอต้าจวิ้นกลับเข้าใจดี อีกฝ่ายกำลังได้ใจและหยิ่งผยองหลังจากได้เป็นบุคคลอันดับหนึ่งในวงการการ์ตูน และรู้สึกว่าไม่มีอะไรมีที่ตนเองทำไม่ได้
นี่เป็นเรื่องปกติ
หลังจากเหอต้าจวิ้นโด่งดังจากเรื่องเพลิงบาสเกตบอล เขาก็คิดว่าตนเองคืออันดับหนึ่งในวงการการ์ตูนกีฬา และรู้สึกหยิ่งผยองสุดขีดมาโดยตลอด
อย่างไรก็ตาม เขากลับนึกไม่ถึงว่า
ภายหลังจะมีเจ้าชายลูกสักหลาดปรากฏขึ้นมา
ความหยิ่งผยองเช่นในใครๆ ก็มีได้ ทว่าท้ายที่สุดแล้วความหยิ่งผยองย่อมมีราคาที่ต้องจ่าย
……
และอีกด้านหนึ่ง
ในสตูดิโอของอิ่งจือ
จินมู่พับแขนเสื้อขึ้น “หัวหน้า วาดมาตั้งนานแล้วไม่เหนื่อยเหรอครับ ออกไปเล่นบาสเกตบอลให้ผ่อนคลายกันหน่อยดีกว่า!”
หลินเยวียนเริ่มต้นวาดสแลมดังก์แล้ว
เมื่อได้ยินจินมู่พูดังนั้น หลินเยวียนจึงส่ายหน้า “ผมเล่นบาสเกตบอลไม่เป็นครับ”
จินมู่ “???”
หลินเยวียนเข้าใจความสงสัยของอีกฝ่าย จึงอธิบาย “ถึงจะไม่เคยกินเนื้อหมู แต่ไม่เคยเห็นหมูวิ่งเชียวหรือ?”
จินมู่สับสน
คำพูดนี้ก็มีเหตุผลอยู่นะ แต่ทำไมรู้สึกว่าแปลกชอบกล
“คุณเข้าใจเกี่ยวกับบาสเกตบอลจริงหรือครับ?”
“ผมเองก็เล่นเทนนิสไม่เป็น”
หลินเยวียนไขข้อข้องใจทั้งหมดของจินมู่ในประโยคเดียว
เล่นเทนนิสไม่เป็น หัวหน้าก็ยังวาดเจ้าชายลูกสักหลาดออกมาได้ แสดงว่าวาดการ์ตูนเกี่ยวกับกีฬาประเภทใด ไม่จำเป็นต้องช่ำชองกีฬาประเภทนั้นก็ได้สิน
จินมู่มีการรับรู้ที่ผิดพลาด
เรื่องบางเรื่องก็เป็นกรณียกเว้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอน 837-839 ไม่มีข้อความเลยครับ...