Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน นิยาย บท 760

ตอนที่ 760 เจียงขุย

สำหรับหลินเยวียน เรื่องสั้นเรื่องหุ่นไม้ผจญภัยเป็นเพียงสิ่งที่เขียนขึ้นเพื่อสร้างความบันเทิงใ ห้กับเด็กๆ ทว่าอิทธิพลของนิทานเรื่องนี้กลับเกินความคาดหมายของหลินเยวียนเรื่องสั้นนี้ได้รับยอดการคลิกอ่านสูงมากจนทำให้บล็อกพลอยมีปริมาณการเข้าชมสูงตามไปด้วย!

เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับลิขสิทธิ์ทางปัญญา

หลายคนที่สนใจนิทานเรื่องนี้ทำได้เพียงมาอ่านที่บัญชีบล็อกของฉู่ขวงเท่านั้น

เขาไม่ได้อนุญาตให้เผยแพร่ซ้ำ

และเมื่อคนมากขึ้นเรื่อยอ่านเรื่องนี้จบ และผู้ปกครองต้องการสอนลูกๆ ว่าอย่าโกหก พวกเขาจะไม่พูดด้วยหน้าตาขึงขังว่า ‘เด็กไม่ดีถึงโกหก’ อีกต่อไป

บอกเด็กๆ เพียงว่า ‘พูดโกหกแล้วจมูกจะยาว’ ก็เพียงพอแล้ว

ผลลัพธ์นั้นเห็นได้ชัดเจนมาก!

สิ่งที่หลินเยวียนยิ่งไม่คาดคิดก็คือ เด็กๆ เริ่มสนใจนิทานมากขึ้นเรื่อยๆ !

เด็กบางคนรวมตัวเพื่อพูดคุยกัน

ในแดนนิทานมีเพื่อนใหม่อีกแล้วละ!”

“ใครเหรอ”

“พิน็อกคิโอเธอไม่รู้เหรอ!”

“งั้นเขาเป็นเพื่อนกับเจ้าหญิงสไนว์ไวท์ด้วยหรือเปล่า?”

“ไม่รู้ สิ พวกเขาอยู่ในแดนนิทานเหมือนกัน จะต้องได้เจอกันล่ะมั้ง”

“ถ้าฉันได้ไปแดนนิทานบ้างก็ดีน่ะสิ”

“ไม่ได้หรอก แดนนิทานไม่ได้มีแค่คนดีนะ มีคนไม่ดีด้วย”

“คนไม่ดีก็ถูกลงโทษไม่ใช่เหรอ แสดงว่าที่นั่นปลอดภัย”

“…”

คงจะมีเพียงสวรรค์ที่รู้ว่ามีเด็กปรารถนาจะไปยังแดนนิทานมากมายแค่ไหน!

นี่ไม่ใช่อิทธิพลจากผลงานเพียงเรื่องสองเรื่อง แต่เป็นปฏิกิริยาลูกโซ่ซึ่งเกิดจากการนำเรื่องราวขอ งนิทานหลายเรื่องของหลินเยวียนมาใส่ไว้ในแดนนิทาน ดังนั้นแดนนิทานจึงค่อยๆ มีสถานะที่สูงขึ้นในใจของเด็กๆ

เขาเองก็คู่ควรกับฉายาราชานิทานมากขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน

หลินเยวียนจึงอดไม่ได้ที่จะคิดว่า

สักวันหนึ่งในอนาคต จะสามารถสร้าง ‘สวนสนุกแดนนิทาน’ ได้หรือไม่?

เป็นแนวคิดเดียวกับ ‘สวนสนุกดิสนีย์แลนด์’

อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงความคิดเพียงชั่วขณะของหลินเยวียน ตอนนี้ยังไม่เพียงพอ ต้องรอให้ผลงานนิทานเหล่านี้กลายเป็นอนิเมชัน และมีอิทธิพลต่อเด็กๆ มากกว่านี้ถึงจะได้

และในอีกไม่กี่วันหลังจากนั้น

หลินเยวียนจึงเขียนเรื่องหุ่นไม้ผจญภัยฉบับยาวออกมา และส่งไปยังคลังหนังสือซิลเวอร์บลู

จนถึงในตอนนี้ จิกซอว์อีกชิ้นหนึ่งของแดนนิทานจึงสมบูรณ์ในที่สุด

และเมื่อถึงตอนนี้ ในที่สุดหลินเยวียนก็กล้าอนุญาตสิทธิ์ในการแสดงความคิดเห็นอย่างอาจหาญ

เมื่อชาวเน็ตตระหนักถึงเรื่องนี้ ต่างก็หัวเราะอย่างจนตัวโยน

‘คุณคิดว่าคุณไหวใช่ไหม?’

‘ทีนี้กล้าให้สิทธิ์คอมเมนต์แล้ว’

‘จำกัดสิทธิ์ทำไมก่อน!’

‘ช่างเถอะ เห็นแก่ที่หุ่นไม้ผจญภัยสนุกมาก ฉันจะไม่ว่าคุณแล้ว’

‘หลังจากนี้รอดูว่าผมจะด่ายังไง!’

‘…’

หลินเยวียนไม่ได้สนใจคำสัพยอกหยอกล้อของชาวเน็ต

และหลังจากให้ฉู่ขวงเคลื่อนไหวมาสักพัก เดือนกรกฎาคมก็กำลังจะสิ้นสุดลง

เดือนสิงหาคมยังคงต้องไต่ชาร์ต!

เป้าหมายในการคว้าแชมป์สิบสองใกล้เข้ามาขึ้นเรื่อยๆ หลินเยวียนไม่กล้าหละหลวมในช่วงสามสี่เดือนสุดท้ายนี้

หากไม่ทันระวังย่อมพลาดพลั้งได้ในทันที

เมื่อนึกถึงจุดนี้

หลินเยวียนเริ่มขบคิดว่าจะใช้เพลงอะ ไรในเดือนสิงหาคม

ใช่แล้ว

เจียงขุยกำลังจะกลายเป็นราชินีเพลง

หลินเยวียนคิดว่าจะร่วมงานกับเซี่ยนอวี๋ในเดือนสิงหาคม

เขาต้องการช่วยให้เจียงขุยโบยบิน และกลายเป็นราชินีเพลงคนแรกในราชวงศ์ปลา

โดยทั่วไปหลินเยวียนจะเลือกเพลงก่อน จากนั้นจึงพิจารณาว่านักร้องคนไหนเหมาะกับเพลงนั้น

น้อยครั้งนักที่จะกำหนดนักร้องก่อน และหลังจากนั้นค่อยเลือกเพลงทีหลัง

วิธีแรกนั้นปฏิบัติง่ายกว่า

ถึงอย่างไรจำนวนของนักร้องที่ดีก็มากกว่าเพลงที่ดี

และเมื่อใดที่เลือกนักร้องแล้ว สไตล์เพลงของหลินเยวียนจะถูกจำกัดตามสไตล์ของนักร้อง

โชคดีที่ขอบเขตของแนวเพลงที่เจียงขุยสั้นทัดนั้นค่อนข้างกว้าง หลินเยวียนมีเพลงมากมายซึ่งเหมาะกับเจียงขุย

ถ้าหากต้องจัดอันดับฝีมือของนักร้องในราชวงศ์ปลา หลินเยวียนไม่สามารถพูดได้แน่ชัด

ถึงอย่างไรศักยภาพของคนเราก็สามารถขุดค้นได้

แต่ไม่ว่าศักยภาพของทุกคนจะขุดค้นขึ้นมาอย่างไร ระดับความสามารถของเจียงขุยนั้นเป็นอันดับต้นๆ อย่างแน่นอน!

……

หลินเยวียนเปลี่ยนตัวตนเป็นเซี่ยนอวี๋ และเดินทางมายังบริษัท ก่อนจะโทรศัพท์เรียกเจียงขุย

โทรศัพท์ดังอยู่นาน

เมื่อหลินเยวียนคิดว่าอีกฝ่ายจะไม่รับโทรศัพท์เสียแล้ว ในที่สุดเสียงระคนความเหนื่อยล้าก็ดังขึ้น

“อาจารย์เซี่ยนอวี๋…”

“มีเวลาเข้าบริษัทไหมครับ?”

“ตอนนี้ไม่ค่อยสะดวกค่ะ….”

“ว่างตอนไหนครับ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน