ตอนที่ 761 คนโง่คนนั้นคือฉันเอง
วันรุ่งขึ้น
ในห้องบันทึกเสียง
หลินเยวียนพาเจียงขุยไปอัดเพลง
“อีกรอบครับ”
“ไม่ได้”
“อัดใหม่”
“ประโยคนี้ลากยาวเกินไป”
“ความรู้สึกน้อยไป”
“ยังไม่ได้”
“หยุดชั่วคราว”
“…”
การบันทึกเพลงกินเวลาหลายชั่วโมง การขับร้องของเจียงขุยยังแตะไม่ถึงมาตรฐานของหลินเยวียน บรรยากาศในสตูดิโอบันทึกเสียงอึมครึมเล็กน้อย
หากเป็นเมื่อก่อน เพลงนี้คงไม่นับว่ายากสำหรับเจียงขุย
ทว่าวันนี้กลับต่างออกไป
สภาพของเธอนั้นแย่เหลือเกิน
ท้ายที่สุดแล้วหลินเยวียนทำได้เพียงประกาศหยุดการอัดเพลงชั่วคราว
เจียงขุยก้มหน้าลงไม่พูดจา สีหน้าของเธอแลดูละอายใจ เธอรู้ว่าปัญหาของตนนั้นสาหัสสากรรจ์ ความรู้สึกส่วนตัวได้ส่งผลกระทบรุนแรงต่องานของเธอ
“วันนี้ตามนี้ก่อนครับ”
เจียงขุยกดเสียงเบา พูดอย่างกระดากใจ “ขอโทษนะคะ ที่ทำให้อาจารย์เซี่ยนอวี๋เสียเวลามากขนาดนี้ พรุ่งนี้ฉันจะพยายามปรับปรุงตัวค่ะ”
หลังจากนั้น เจียงขุยจึงเข้าไปขอโทษเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ
หลินเยวียนพยักหน้าโดยที่ไม่ได้พูดอะไร ต่อให้เจียงขุยจะไม่สามารถอัดเพลงได้สำเร็จก่อนสิ้นเดือนก็ไม่เป็นไร
เขามีแผนสำรอง
อย่างมากเขาก็แค่ปล่อยเพลงนี้ในภายหลัง
เมื่อกลับไปยังห้องทำงาน
ขณะที่หลินเยวียนเริ่มใคร่ครวญเกี่ยวกับแผนสำรอง จู่ๆ ก็ได้รับโทรศัพท์จากซุนเย่าหั่ว
“รุ่นน้อง ตอนเย็นไปกินข้าวกันไหม? ทุกคนอยู่ครบ””
‘ทุกคน’ ที่ซุนเย่าหั่วพูดถึงย่อมต้องเป็นนักร้องในราชวงศ์ปลา
“ได้ครับ”
หลินเยวียนไม่ได้ปฏิเสธ
เวลาหนึ่งทุ่มตรงในวันเดียวกัน
เขามายังร้านอาหารภายใต้ชื่อของซุนเย่าหั่ว และพบกับทุกคนในห้องส่วนตัว
แน่นอนว่า นักร้องทุกคนในราชวงศ์ปลาล้วนอยู่ที่นั่น
รวมไปถึงเจียงขุย
เจียงขุยมองไปยังหลินเยวียน ก้มหน้าอยู่ตลอดเวลา แลดูกระดากอายอยู่บ้าง ถึงอย่างไรผลงานของเธอเมื่อตอนกลางวันก็ย่ำแย่พอดู
หลินเยวียนไม่ได้พูดอะไร
หลังจากกินอาหารเสร็จ ซุนเย่าหั่วแนะทำให้ทุกคนไปร้องเพลงยังห้องคาราโอเกะ
“ได้สิ!”
เมื่อเป็นเช่นนี้ ทุกคนจึงตรงไปยังคาราโอเกะ
ซุนเย่าหั่วจองห้องส่วนตัวห้องใหญ่ พร้อมผลไม้ซึ่งเสิร์ฟให้จานแล้วจานเล่า แน่นอนว่ายังมีเบียร์ไว้เติมความสดชื่นเช่นกัน
แกร็ก
เจียงขุยเปิดเบียร์เป็นคนแรก และยกขึ้นดื่ม
“ดื่มช้าๆ สิ”
ซุนเย่าหั่วเอ่ยเตือน
ทุกคนต่างเริ่มเลือกเพลง
พวกเขาเหล่านี้ไม่ได้เลือกเพลง แต่กลับเลือกเพลงของนักร้องในราชวงศ์ปลาคนอื่นๆ
ตัวอย่างเช่น ซุนเย่าหั่วเลือกเพลงเปลี่ยนตัวเองของเฉินจื้ออวี่
หืม?
ร้องเพลงของฉันต่อหน้าอาจารย์เซี่ยนอวี๋?
นายจะพิสูจน์อะไร
เฉินจื้ออวี่เบ้ปาก หลังจากนั้นจึงเลือกเพลงกุหลาบแดง ทั้งยังหยิบกีตาร์ที่นำมาออกมาด้วย
ในบรรดานักร้องราชวงศ์ปลา มีเพียงเฉินจื้ออวี่มักสะพายกีตาร์ติดตัวอยู่เสมอ และบรรเลงทำนองให้ตนเองเมื่อมายังห้องคาราโอเกะ
ซย่าฝานและจ้าวอิ๋งเก้อย่อมไม่น้อยหน้า
แม้แต่เว่ยห่าวอวิ้นยังร้องเพลงติดไฟง่ายระเบิดง่าย
เจียงขุยไม่ได้เลือกเพลง เธอกินผลไม้ไปพลางดื่มเบียร์
ทุกคนไม่ได้สังเกต
จนกระทั่งเมื่อทุกคนถลึงตาใส่กันขณะแย่งชิงไมโครโฟน จู่ๆ ในห้องก็มีเสียงร้องไห้ดังขึ้น
เป็นเสียงของเจียงขุย
“ทำไมร้องไห้ล่ะ?”
“เป็นเพราะซุนเย่าหั่วเอาแต่แย่งไมโครโฟน จนเจียงขุยไม่ได้ร้องสักที!”
“มาๆๆ เจียงขุยเลือกเพลง!”
“เอาเพลงอะไรดี ฉันเลือกเพลงให้!”
“งั้นเอาเพลงความฝันแรกแล้วกัน ฉันว่าเธอร้องเพลงนี้แล้วชนะซย่าฝานได้เลย!”
“จ้าวอิ๋งเก้อเธอหมายความว่าไง!”
“อะแฮ่ม ความเห็นส่วนตัว”
“ไฮโน้ตแล้วกัน ไฮโน้ตของเจียงขุยเพราะมาก!”
“…”
ทุกคนแทบยัดเยียดไมโครโฟนให้กับเจียงขุย
เจียงขุยวางเบียร์ลง ปาดน้ำตาเต็มแรง ก่อนจะไปเลือกเพลง ‘พ่อ’ ด้วยตัวเอง
“ได้แต่คอยร้องขอ กลับไม่เคยเอ่ยคำขอบคุณ…”
เจียงขุยร้องเพลงไม่ได้เรื่องเอาเสียเลย เสียงของเธอฟังดูราวกับเสียสติหลังจากดื่มจนเมามาย
ในเวลานี้ทุกคนจึงตระหนักได้ว่าเจียงขุยเมาแล้ว ต่างคนต่างมองหน้ากันทันใด
ในเวลานี้ต่อให้เป็นคนที่ตอบสนองช้ายังรู้ว่าเจียงขุยมีเรื่องทุกข์ใจ
“โอ้เวลาช่วยช้าลงหน่อย…”
ในช่วงไฮโน้ต เจียงขุยร้องจนเสียงขาดห้วง ด่ำดิ่งลงสู่ความห้วงรู้สึก น้ำตารินไหลอาบใบหน้า
“เธอคิดถึงพ่อเหรอ?”
ซุนเย่าหั่วเอ่ยเสียงเบา
เว่ยห่าวอวิ้นยิ้มขมขื่น “ฉันจำได้ว่าพ่อของเธอเสียไป…”
“อย่างนั้นหรือ”
ซย่าฝานพยักหน้า “เดี๋ยวห้ามให้เธอกินแล้วนะ”
จ้าวอิ๋งเก้อขมวดคิ้ว “เผลอนิดเดียวก็กินเบียร์ไปเยอะขนาดนี้ อีกเดี๋ยวน่าจะอาเจียนออกมา”
“ดื่มได้เยอะกว่าฉันอีก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน