ตอนที่ 762 อาเตียว
เจียงขุยตื่นขึ้นมาช่วงเที่ยงในวันรุ่งขึ้น
เนื่องจากเมาค้างจึงมีอาการปวดศีรษะ
เมื่อคืนไม่ควรดื่มมากถึงขนาดนั้น
เมื่อคืน…
เจียงขุยคล้ายกับนึกขึ้นได้ รีบลุกพรวดขึ้นนั่ง!
“อ๊า!”
เธอส่งเสียงร้อง สองมือลูบผมเบาๆ !
บางคนจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากดื่มจนเมามาย บางคนกลับจำได้คร่าวๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่ตนดื่มจนเมามาย…
เจียงขุยจัดอยู่ในประเภทหลัง
เธอจำได้ว่าตนเองร้องไห้พลางบอกเล่าเรื่องทุกข์ใจที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้กับเพื่อนๆ และจำได้ว่าตนเองเมาและกระโดดขึ้นไปบนโต๊ะอย่างเสียสติ ทั้งยังจำได้ว่าสุดท้ายแล้วตนอาเจียนใส่อาจารย์เซี่ยนอวี๋…
จริงสิ!
เรื่องที่จ้าวอิ๋งเก้อแอบชอบอาจารย์เซี่ยนอวี๋ เธอก็พลั้งปากพูดออกไปแล้วใช่ไหม?
เดี๋ยวนะ!
เมื่อวานเธอคล้ายกับว่าจะเรียกชื่อจริงอาจารย์เซี่ยนอวี๋อีก?
“จบกันๆๆ …”
เจียงขุยตื่นตระหนกขึ้นมาทันใด ทั้งที่รอบกายไม่มีใคร ทว่าใบหน้ากลับแดงก่ำด้วยความกระดากอาย แทบอยากมุดแผ่นดินหนีให้รู้แล้วรู้รอด!
อยู่ดีไม่ว่าดี!
ฉันทำอะไรลงไปกันเนี่ย!
เจียงขุยคว้าโทรศัพท์มือถือด้วยความตื่นตระหนก ปรากฏว่าทันทีที่เปิดโทรศัพท์ ก็ได้รับข้อความเป็นจำนวนมาก
เว่ยห่าวอวิ้น [ถ้าไม่มีเงินบอกพี่ได้นะ เดี๋ยวพี่ให้ยืม]
จ้าวอิ๋งเก้อ [เจียงขุย มาสู้กันเลยดีกว่า]!
ซย่าฝาน [(ยิ้มอ่อน) (ยิ้มอ่อน) (ยิ้มอ่อน)]
ฉินจื้ออวี่ น้องสาว จำได้ไหมว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น (ยิ้มเจ้าเล่ห์)]
ซุนเย่าหั่ว [ฉันยอมแล้ว ก็แค่สามล้านไม่ใช่หรือไง เรื่องเงินฉันช่วยเธอจัดการเอง เป็นเรื่องหนักหนาสาหัสขนาดที่เธอต้องอ้วกใส่รุ่นน้องเชียวเหรอ?]
จริงด้วย!
เจียงขุยใบหน้าซีดเผือด!
ในขณะนั้นเอง โทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น
อาจารย์เซี่ยนอวี๋ [คุณมาสาย]
พรึบ!
เจียงขุยโยนโทรศัพท์ออกไป ประหนึ่งเป็นเรื่องรางอัปมงคลอย่างไรอย่างนั้น!
แย่แล้ว!
ลืมไปเลยว่าวันนี้ยังต้องอัดเพลง!
ทันใดนั้น
เธอกระโดดลงมาจากเตียง โดยไม่สนว่าจะสวมรองเท้าสลับข้าง และรีบเข้าไปในห้องน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตาด้วยความเร็วสูงสุดในชีวิต!
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป
เจียงขุยปรากฏตัวประหน้าประตูห้องทำงานของหลินเยวียนด้วยท่าทางงกๆ เงิ่นๆ ไม่กล้าเข้าไปสักที
“ฮู้ว!”
หลังจากให้กำลังใจตนเอง เจียงขุยจึงผลักประตูเข้าไป
ในห้องทำงาน
หลินเยวียนกำลังก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ เมื่อได้ยินความเคลื่อนไหวจึงเงยหน้ามามองเจียงขุย
“ฉันผิดไปแล้ว!”
เจียงขุยโ ค้งต่ำ ก้มหน้างุดไม่กล้ามองหน้าหลินเยวียน ราวกับเป็นมีม ‘ข้ายอมจำนน’
“เปลี่ยนเพลงให้คุณแล้ว”
หลินเยวียนหยิบโน้ตเพลงออกมา พลางเปิดเพลงเดโม ประหนึ่งไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน
เจียงขุยเงยหน้าด้วยความตกตะลึง และรับโน้ตเพลงไป
เวลานั้น
เพลงเดโมซึ่งหลินเยวียนอัดไว้ล่วงหน้าดังขึ้นในห้อง “อาเตียวอาศัยอยู่ในดินแดนไกลแสนไกล…”
เมื่อเนื้อเพลงดังขึ้นเรื่อยๆ
ความกระวนกระวายและวิตกกังวลบนใบหน้าของเจียงขุยค่อยๆ หายไป แทนที่ด้วยความเคารพซึ่งเพิ่มขึ้นจากก้นบึ้งในใจของเธอ
ภาพนับไม่ถ้วนผุดขึ้นมาในใจของเธอ
ท่ามกลางความสับสน
ราวกับว่าเธอได้กลับไปยังสถานที่ที่เธอเกิด
เธอเห็นตนเองซึ่งมีร่างกายผอมแห้งและซีดเหลือง ทว่าใบหน้ากลับเปี่ยมไปด้วยความดื้อรั้น
เธอเห็นตนซึ่งไม่ยอมกินอาหาร แต่กลับเก็บอาหารไว้ให้น้องชาย
ความทรงจำมากมายล้วนอยู่ในเนื้อเพลง
อดีตมากมายล้วนอยู่ในเสียงเพลง
และเมื่อเพลงเดโมจบลง
ทันใดนั้นเจียงขุยก็เอ่ยขึ้น พร้อมกับน้ำเสียงสั่นเครือ แววตาสั่นไหวเล็กน้อย
“เพลงนี้…”
“เพลงนี้ชื่อว่า ‘อาเตียว’ คุณร้องได้ไหม?”
“ได้ค่ะ!”
“งั้นไปฝึกซ้อมมานะครับ สองวันนี้จะอัดเพลงให้เสร็จ”
“ค่ะ”
เจียงขุยพยักหน้าอย่างมุ่งมั่นและจริงจัง เพียงแต่ดวงตาของเธอนั้นแดงก่ำขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ แม้ว่าหลังจากดวงตาของเธอจะบวมแดงตั้งแต่ร้องไห้เมื่อคืน
“ขอบคุณค่ะอาจารย์เซี่ยนอวี๋!”
“เรียกหลินเยวียนก็ได้”
เจียงขุยเข่าอ่อนยวบจนแทบทรุดลงกับพื้น
เธอเกือบวิ่งหนีออกมาจากห้องทำงาน
และเมื่อประตูปิดลง แสงสว่างก็ปรากฏขึ้นในหัวใจของเธอทันที พลังมหาศาลคล้ายกับพลุ่งพล่านจากร่างเล็กๆ ของเธอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน