ตอนที่ 773 อนิจจาว่ารักคือสิ่งใด ลิขิตได้แม้นม้วยมรณา
……….
“เสืออยู่ในจิต ดอมดมกลิ่นกุหลาบ…”
ในห้องแห่งหนึ่ง ชายคนหนึ่งจ้องมองหน้าจอคอมพิวเตอร์
ชายคนนี้มีชื่อว่าอู๋ตุน เป็นประธานชมรมกวีพิพนธ์แห่งหนึ่งในเยี่ยนโจว
เขาเอกก็อ่านบทวิจารณ์ภาพยนตร์เรื่องชีวิตอัศจรรย์ของพาย ทันใดนั้นก็เห็นบทกวีของอี้อันเข้า และตกตะลึงไปชั่วขณะ
ด้วยสายตาของเขา ย่อมมองออกถึงความไม่ธรรมดาของบทกวีนี้!
ในความเป็นจริง แต่ให้ไม่เกี่ยวข้องกับชีวิตอัศจรรย์ของพาย นี่ก็ยังเป็นผลงานชั้นยอดซึ่งอธิบายถึงธรรมชาติของมนุษย์ได้
แต่หากทำความเข้าใจร่วมกับเรื่องชีวิตอัศจรรย์ของพาย บทกวีจะยิ่งลึกซึ้งขึ้นไปอีก
อี้อัน?
อู๋ตุนคลุกคลีอยู่ในวงการบทกวีมานานหลายปี และนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินชื่อนี้
เปิดกลุ่มแช็ต
อู๋ตุนส่งบทกวีนี้เข้ากลุ่ม
ในกลุ่มคึกคักขึ้นมาทันที
‘บทกวีนี้ของประธานอู๋สุดยอดมาก’
‘ผลงานใหม่ของประธานอู๋เหรอครับ เสืออยู่ในจิตดอมดมกลิ่นกุหลาบ!’
‘บทกวีนีพูดถึงสองด้านของมนุษย์ ประธานอู๋เขียนผลงานนี้สำหรับชีวิตอัศจรรย์ของพายหรือ?’
‘พวกคุณไม่เล่นอินเทอร์เน็ตหรือ? บนโมเมนต์มีเสืออยู่ในจิตดอมดมกลิ่นกุหลาบเต็มไปหมด’
‘เนื้อหาของบทกวีเกี่ยวข้องกับชีวิตอัศจรรย์ของพายจริงๆ แต่บทกวีนี้ประธานอู๋ไม่ได้เขียน นักเขียนชื่ออี้อันเป็นคนเขียน’
‘อี้อัน? ใครกัน’
‘ฉันอ่านข้อมูลเบื้องต้นแล้ว อี้อันเป็นนักเขียนแฟนฟิกชัน ตำนานหงอคงที่ดังอยู่ช่วงหนึ่งก็เขานี่แหละที่เป็นคนเขียน ฝีมือไม่ธรรมดา บดขยี้นักเขียนแฟนฟิกชันคนอื่นได้เลย’
‘มีนักเขียนแฟนฟิกชันฝีมือระดับนี้ด้วยหรือ’
‘ทุกวันนี้มีพวกฝีมือระดับปีศาจที่เขียนบทกวีระดับนี้ได้ ฉู่ขวงที่เขียนนิยายก็เขียนบทกวีได้ เซี่ยนอวี๋ที่เขียนเพลงก็เขียนบทกวีได้ ตอนนี้แม้แต่นักเขียนแฟนฟิกชันสามารถเขียนบทกวีได้อีก?’
‘ยังมีความแตกต่าง สองคนนั้นเขียนบทกวีโบราณ’
‘ถึงสองคนแรกจะแตกต่างกัน แต่ฝีมือในการเขียนบทกวีของเซี่ยนอวี๋น่าจะสูงกว่า’
‘…’
อู๋ตุนไม่ได้พูดอะไร แต่กลับกดเข้าไปดูในบล็อกของอี้อัน เขาอยากเห็นว่าคนคนนี้ยังมีผลงานอะไรอีก
ผลลัพธ์คือความผิดหวัง
นับตั้งแต่บัญชีของอี้อันสร้างขึ้น เขาได้โพสต์เพียงแค่ครั้งเดียว และก่อนที่จะเผยแพร่บทกวีนี้ ผลงานเดียวของเขาคือตำนานหงอคง
“โชคดีของหน้าใหม่”
บางคนเกิดแรงบันดาลใจขึ้นเป็นครั้งคราว และสามารถเขียนบทกวีที่ดีออกมาได้ เพียงแต่นั่นทำอู๋ตุนผิดหวังอย่างอดไม่ได้ เขาสนใจบุคคลนี้ที่ปรากฏตัวขึ้นมาอย่างกะทันหันมาก
ในเวลานี้เอง
จู่ๆ อู๋ตุนก็เห็นความคิดเห็นซึ่งได้รับการกดไลก์สูงสุด
‘ดูเหมือ นว่าคุณจะมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับผลงานของอาจารย์เซี่ยนอวี๋และอาจารย์ฉู่ขวง ไม่รู้ว่าท่านยอดฝีมือจะวิจารณ์หยางเสี่ยวฝานและฉินเทียนเกอที่ฉู่ขวงเป็นผู้ดัดแปลงบทว่าอย่างไร?’
อู๋ตุนรู้สึกตื่นเต้น
เนื่องจากลูกสาวของเขาชื่นชอบซีรีส์เรื่องนี้ ดังนั้นเขาจึงดูหยางเสี่ยวฝานและฉินเทียนเกอซึ่งฉู่ขวงปรับแก้บทเป็นเพื่อนลูกสาว
‘คนพวกนี้ร้ายมาก’
อู๋ตุนเข้าใจได้ว่าทำไมความคิดเห็นนี้จึงมียอดไลก์สูง
เขาเพียงแค่อยากดูว่าอี้อันจะเริ่มบ่นออกมาตรงๆ หรือไม่ เพราะถึงอย่างไรการดัดแปลงบทซีรีส์ในครั้งนี้ก็กล่าวได้ว่าเสียสติไปแล้ว และนั่นสะท้อนถึงถึงนิสัยของฉู่ขวงซึ่งชอบส่งตัวละครกลับบ้านเก่าออกมาอย่างเต็มที่
อู๋ตุนส่ายหน้า
อู๋ตุนไม่ได้อ่านคอมเมนต์ต่อไป เขาเพียงกดติดตามอี้อัน ก่อนจะกดออกมา
เขาไม่คิดว่าอี้อันจะตอบกลับความคิดเห็นที่เจ้าเล่ห์เพทุบายเช่นนี้ หยางเสี่ยวฝานและฉินเทียนเกอที่ฉู่ขวงดัดแปลงบท จะให้วิจารณ์ว่าอย่างไรล่ะ?
แค่บ่นก็จบเรื่องแล้ว
จะให้เขียนบทกวีเพื่อบ่นซีรีส์ก็คงไม่ได้กระมัง?
……
หลินเยวียนดีใจกับความนิยมของอี้อันมากทีเดียว
ยิ่งอิทธิพลของนามปากกานี้สูงเท่าไหร่ ยิ่งเกิดผลดีต่ออีกสามนามปากกามากขึ้นในอนาคต ดังนั้นเขาจึงไล่อ่านคอมเมนต์ด้วยความสนอกสนใจ
ดังนั้น
หลินเยวียนจึงเห็นคอมเมนต์ซึ่งมียอดไลก์สูงสุด ‘มีความคิดเห็นอย่างไรกับหยางเสี่ยวฝานและฉินเทียนเกอที่ฉู่ขวงเป็นผู้ดัดแปลงบท’?
ฉู่ขวง?
ความเชื่อมโยงที่แปลกประหลาดนี้ทำให้หลินเยวียนรู้สึกไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูก เขารู้สึกคล้ายกับว่าตนเองอยู่ห่างจากการถูกเปิดโปงเพียงก้าวเดียวเท่านั้น
ไม่นาน
แววตาของหลินเยวียนสว่างวาบในฉับพลัน ราวกับว่าเขาฉุกคิดถึงอะไรบางอย่างขึ้นมาได้!
เหมือนว่า…
ใช่ว่าจะวิจารณ์ไม่ได้สักหน่อย?
ตัวตนของอี้อันนั้นคุ้มค่าแก่การบ่มเพาะอย่างแน่นอน
ถ้ามีโอกาสละก็ จะต้องให้โอกาสอี้อันเฉิดฉายให้มากขึ้นสักหน่อย ไม่อย่างนั้นหลินเยวียนจะไม่คิดหาวิธีใช้บัญชีของอี้อันเรียกกระแสให้กับชีวิตอัศจรรย์ของพาย แถมยังเขียนวรรคทองสุดคลาสสิกอย่าง ‘เสืออยู่ในจิต ดอมดมกลิ่นกุหลาบ’ ออกมาหรอก
ตามหลักแล้ว การเรียกกระแสในครั้งนี้ทำได้ดีมาก
หลังจากดึงดูดแฟนคลับได้สำเร็จ หลินเยวียนก็ปล่อยให้อี้อันจำศีลต่อไปได้
อย่างไรก็ตาม
ตอนนี้หลินเยวียนต้องการตีเหล็กขณะยังร้อน เรียกกระแสอีกสักครั้ง เขาเองก็มีไอเดียที่เหมาะสมพอดี
ไม่ว่าอย่างไรก็เป็นที่ก็เป็นกระแสของฉู่ขวง ต้องใช้ให้เป็นประโยชน์!
แล้วจะวิจารณ์ว่าอย่างไรล่ะ
ไม่จำเป็นต้องวิจารณ์ เพียงแต่เขียนแสดงความเข้าใจของตนต่อไปก็ได้
ในความเป็นจริง
ขณะที่ดัดแปลงบทหยางเสี่ยวฝานและฉินเทียนเกอ มีประโยคหนึ่งซึ่งดังก้องอยู่ในใจของหลินเยวียน
“ใจรักร้าวรานเพราะความเฉยชา[1]…”
แง่ของความหมกมุ่นในตัวฉินเทียนเกอ ประโยคนี้เหมาะสมกับเจียงอวี้เยี่ยนไม่มากก็น้อย
หลินเยวียนได้รับบทกลอนจากระบบมาเป็นกอบเป็นกำ
ไม่จำเป็นต้องสั่งผลิต
ในสมองของเขาเต็มไปด้วยสิ่งเหล่านี้
ผลงานชิ้นนี้มีชื่อว่าผีเสื้อรักบุปผา
เป็นกวีนิพนธ์สือของซูเซ่อ
ซูตงพัวควรค่าแก่สมญานาม ‘เซียนซู’ นอกจากทำนองวารีแล้ว เขายังมีผลงานอีกนับไม่ถ้วนซึ่งได้ชื่อว่าเป็นผลงานที่มีชื่อเสียงระดับโลก
ของดีของเด็ดมีมากมาย หลินเยวียนงัดออกมาในคราวเดียวไม่ไหว!
อย่างเช่น ‘ผีเสื้อรักบุปผา’ ซึ่งเขียนว่า ‘ใจรักร้าวรานเพราะความเฉยชา’!
แม้กวีนิพนธ์บทนี้ดูเหมือนว่าเขียนเกี่ยวกับความรู้สึก ทว่าแท้จริงแล้วนี่คือความไม่พอใจที่ซูเซ่อมีต่อสถานการณ์หนึ่ง แต่ถึงกระนั้นแล้ว ความหมายที่ผิวเผินของกวีนิพนธ์บทนี้จะสอดคล้องกับแนวคิดจากเรื่องราวในหยางเสี่ยวฝานและฉินเทียนเกอ
ส่วนสิ่งที่ลึกซึ้งกว่านั้น…
หากมีคนหาเจอย่อมเป็นเรื่องดีที่สุด ถ้าหากคนอื่นหาไม่เจอ เช่นนั้นก็คิดเสียว่านี่เป็นบทกวีรักที่ยอดเยี่ยมบทหนึ่งก็ได้ ถ้าไม่ได้จริงๆ ตนจะเปิดเผยต่อโลกภายนอกสักเล็กน้อยด้วยตัวเอง!
เมื่ออ่านมาถึงจุดนี้
หลินเยวียนเปิดเว็บไซต์สตาร์เน็ต ค้นหาซีรีส์เรื่องหยางเสี่ยวฝานและฉินเทียนเกอ จากนั้นจึงเขียนบทวิจารณ์ซีรีส์ของตนเอง!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน