Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน นิยาย บท 784

ตอนที่ 784 นิทรรศการศิลปะ (3)

……….

“ผลงานของอิ่งจือ…”

ชิวอวี่ตกตะลึง ความประหลาดใจปรากฏวาบขึ้นมาในแววตาของเธอ นั่นแทบจะทำลายความเข้าใจที่เธอมีต่อนักเขียนการ์ตูน

ในความเป็นจริง

ภาพวาดนี้ได้ทำงายความเข้าใจที่ทุกคนมีต่ออิ่งจือ

หลายคนไม่พอใจเมื่อเห็นชื่อของอิ่งจือบนป้ายประกาศที่หน้าประตู

เหตุใดผลงานของนักเขียนการ์ตูนเชิงพาณิชย์จึงควรรวมอยู่ในนิทรรศการภาพวาดพู่กันโบราณ?

อย่างไรก็ตาม

เมื่อเห็นภาพผีเสื้อรักบุปผานี้ สีหน้าของหลายคนเริ่มร้อนผ่าวขึ้นมา

ไม่มีใครคาดคิดว่าฝีมือการวาดภาพพู่กันโบราณของอิ่งจือจะอยู่ในระดับมืออาชีพ หรืออาจสูงกว่าอาจารย์ภาพพู่กันโบราณมืออาชีพหลายคนด้วยซ้ำไป!

หลัวเฉิงก็คาดไม่ถึงเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม หลัวเฉิงก็เป็นหนึ่งในผู้ยิ่งใหญ่ในวงการภาพวาดพู่กันโบราณ ถึงแม้ในใจจะเกิดความกระดากอายอยู่บ้าง แต่เขาก็ปรับอารมณ์ของตนเองได้อย่างรวดเร็ว

ในห้องโถงนิทรรศการอันเงียบสงบ

หลัวเฉิงเอ่ยขึ้นอีกครั้ง “นักเขียนการ์ตูนที่มีฝีมือวาดภาพพู่กันโบราณระดับนี้หาได้ยากจริงๆ น่าเสียดายที่ภาพนี้สวยงามก็จริง แต่ยังขาดเสน่ห์ เกณฑ์ในการตัดสินคุณภาพของภาพวาดนั้นไม่ใช่เพียงวาดให้สมจริงเท่านั้น ไม่งั้นดูภาพวาดก็พอแล้ว ยังต้องมีศิลปินอย่างพวกเราไปทำไม นี่อาจเป็นความน่าเสียดายที่มาพร้อมกับตัวตนในฐานะนักเขียนการ์ตูน…”

หลัวเฉิงไม่ได้มีเจตนากลับคำ

เช่นเดียวกับที่เขาพูด ภาพนี้ไม่ได้ถึงขั้นไร้ที่ติจริงๆ

ระดับความสามารถด้านจิตรกรรมของเขายังห่างจากขีดจำกัดด้านบนเล็กน้อย

สักพักหนึ่ง

ราวกับว่าทุกคนจะยกให้คำพูดของหลัวเฉิงเป็นกฎทอง พวกเขาต่างรับบทเป็นลูกขุนพลอยพยักเพื่อบรรเทาความกระอักกระอ่วนของสถานการณ์

“ใช่แล้ว!”

“อาจารย์หลัวเฉิงพูดได้ดี!”

“ภาพนี้ไม่ได้ดีถึงขั้นไร้ที่ติ”

“เพียงเพราะผลงานอื่นๆ ในนิทรรศการศิลปะนี้ไม่ดีพอ ภาพวาดนี้เลยโดดเด่นขึ้นมาอย่างชัดเจน”

“ถ้าคิดจะเปรียบเทียบกับปรมาจารย์ภาพวาดพู่กันโบราณจริงๆ ก็ยังห่างกันอีกไกล”

“ยังไงซะเขาก็อยู่ในวงการการ์ตูน ถึงจะมีความสามารถอยู่บ้าง แต่ก็ทำได้แค่นี้”

“นี่เป็นสิ่งที่ถูกกำหนดโดยโครงสร้างของวงการการ์ตูนเอง”

“ภาพวาดพู่กันโบราณนอกจากความเกือบสมจริงแล้ว ยังแสวงหาแนวคิดทางศิลปะอีกด้วย ผลงานของอิ่งจือยังขาดแนวคิดทางศิลปะตรงนี้ไป นี่คือเสน่ห์ที่อาจารย์หลัวเฉิงกล่าวถึง!”

“…”

เมื่อได้ยินคำพูดของหลัวเฉิงและผู้คนโดยรอบ ชิวอวี่ก็ขมวดคิ้ว

“อาจารย์หลัวตั้งมาตรฐานสูงเกินไปสำหรับอิ่งจือหรือเปล่าคะ?”

นี่คือนิทรรศการศิลปะขนาดกลาง

คุณภาพของภาพผีเสื้อรักบุปผาได้บดบังภาพอื่นได้ทั้งหมด

หลัวเฉิงกลับตัดสินด้วยมาตรฐานของจิตรกรรมระดับปรมาจารย์!

ใช่

ชิวอวี่ยอมรับว่าคำพูดของหลัวเฉิงนั้นสมเหตุสมผล

แน่ปัญหาอยู่ที่ คำพูดหลัวเฉิงนั้นเป็นมาตรฐานที่มักใช้กับภาพวาดพู่กันโบราณระดับสูงเท่านั้น

และหากวิจารณ์ตามมาตรฐานของภาพวาดระดับปรมาจารย์ ภาพผีเสื้อรักบุปผานี้ไม่นับว่าน่าทึ่งจริงๆ

ทว่าคำถามคือ

ในนิทรรศการศิลปะระดับนี้ จำเป็นต้องยกระดับมาตรฐานให้สูงถึงขนาดนั้นเชียวหรือ?

หากตัดสินโดยใช้มาตรฐานภาพวาดพู่กันโบราณระดับสูง นิทรรศการระดับนี้มีแต่จะล้มเหลวอย่างแน่นอน

ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น แต่การทำเกินพอดีก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องดี

“ก็แค่พูดความจริง”

หลัวเฉิงตอบ โดยที่รู้อยู่แก่ใจแล้วว่ามาตรฐานของเขาสูงเกินไป แต่เขาไม่ชอบอิ่งจือ

หากภาพผีเสื้อรักบุปผานี้ไม่ใช่ผลงานของอิ่งจือ เขาคงชื่นชมศิลปินคนนี้ และสนับสนุนเขาด้วยซ้ำไป

หากเป็นอิ่งจือละก็…

ยังไม่เพียงพอ

ผลงานระดับนี้ ฝีมือระดับนี้ ยังไม่เพียงพอให้ลูกสาวของเขายกย่อง หรือแม้แค่คำนับเป็นอาจารย์ด้วยซ้ำไป!

แม้จะพูดเช่นนั้นก็เถอะ

หลัวเฉิงยังคงมองดูภาพนี้อีกหลายครั้ง ให้ความสรใจมากขึ้นและใช้เวลานานกว่าภาพวาดของอวี๋เหลียน

ชิวอวี่เลิกคิ้ว ก่อนจะจ้องมองภาพวาดอีกครั้งด้วยความชื่นชม โดยที่ไม่ได้พูดอะไรอีก

แม้ว่าเธอจะไม่รู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างลูกสาวของหลัวเฉิงและอิ่งจือ ทว่าจากสถานการณ์ตรงหน้า เธอกลับเข้าใจบางอย่างขึ้นมา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน