ตอนที่ 8 ไม่เคยเห็นโลกมาก่อน
บริษัทติดอันดับสามในชาร์ตดาวรุ่ง
ชั่วขณะที่ชาร์ตดาวรุ่งเริ่มต้นขึ้น ข่าวนี้ก็เผยแพร่ไปทั่วทั้งสตาร์ไลท์เอนเตอร์เทนเมนต์ ทุกคนในบริษัทล้วนแตกตื่นตกใจขึ้นมาทันที
“เชี่ย ในที่สุดก็มีคนมากอบกู้สถานการณ์แล้วเว้ย”
“ปีนี้ก็คงไม่หักเงินแผนกดนตรีของพวกเราอีกแล้วใช่ไหม”
“เฮ้อ แผนกภาพยนตร์และโทรทัศน์ของพวกเราได้ภารกิจว่าทุกคนในแผนกต้องโหลดเพลง ‘ชีวิตดั่งมวลผกายามคิมหันต์’ คนละครั้ง ปีนี้กว่าจะได้ที่สามมาแทบแย่ เบื้องบนคงพยายามคุมอันดับไว้อยู่”
“ก็ต้องแหงอยู่แล้วปะ”
“สตาร์ไลท์ก็เป็นบริษัทบันเทิงสามอันดับแรกของฉินโจว ผลงานในชาร์ตดาวรุ่งห่วย ก็มีผลกระทบถึงภาพลักษณ์ของบริษัท ต้องเข้าใจว่านักศึกษาจบใหม่ในแต่ละรุ่นตั้งเยอะแยะที่เลือกบริษัทจากกระแสพวกนี้”
บริษัทบันเทิงในฉินโจวมีไม่รู้ตั้งเท่าไหร่
สามบริษัทที่มีชื่อเสียงมากที่สุดย่อมหนีไม่พ้น ‘สตาร์ไลท์เอนเตอร์เทนเมนต์’ ‘ซาไห่คัลเจอร์’ แล้วก็ ‘เซวี่ยนล่านอิ๋นกวง’
ฤดูกาลศิลปินหน้าใหม่เมื่อก่อน เด็กใหม่ที่สามบริษัทนี้ส่งไปล้วนแต่ได้ครองอันดับต้นๆ ในชาร์ตดาวรุ่ง
แต่ไม่กี่ปีมานี้ ซาไห่และเซวี่ยนล่านอิ๋นกวงนั้นมั่นคงเหมือนที่ผ่านมา ทว่าผลงานสตาร์ไลท์เอนเตอร์เทนเมนต์กลับไม่เข้าท่าอยู่ร่ำไป ถึงขั้นที่คนข้างนอกต่างเริ่มตั้งคำถามกับอิทธิพลของสตาร์ไลท์ในอุตสาหกรรมดนตรีแล้ว
ผลกระทบนี้ร้ายแรงมาก!
ฉะนั้นผู้บริหารระดับสูงของบริษัทถึงได้กดดันจ้าวเจวี๋ยซึ่งรับผิดชอบเรื่องนี้ทั้งหมด
ถ้าหากไม่ใช่เพราะเหตุผลนี้ ในสถานการณ์ปกติ ฤดูกาลศิลปินหน้าใหม่ก็ไม่มีค่าถึงขั้นทำให้บอสของบริษัทหัวฟัดหัวเหวี่ยงหรอก
และจากการพูดคุยกันของพนักงานในบริษัท
ชื่อของเซี่ยนอวี๋ก็ย่อมถูกเผยแพร่ออกไปเป็นธรรมดา
เมื่อเทียบกันแล้ว บทสนทนาที่เกี่ยวกับซุนเย่าหั่วกลับมีน้อยมาก
ต้องบอกก่อนว่า นี่เป็นยุคที่คนทั่วไปต่างให้ความสนใจกับคนแต่งเพลง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสภาพแวดล้อมตามแบบฉบับของบริษัทบันเทิงอย่างนี้
สถานะของผู้ประพันธ์เพลงนั้นห่างไกลกับนักร้องหลายโยชน์
ไม่อย่างนั้นในวงการเพลงจะมีคำว่า ‘พ่อเพลง’ ไปทำไม
สิ่งหนึ่งที่ทุกคนล้วนกระจ่างดี
คือการที่เพลงเพลงหนึ่งประสบความสำเร็จ โด่งดังเป็นพลุแตก มักจะเป็นเพราะทำนองที่ผู้ประพันธ์เพลงเขียนขึ้นนั้นกินใจคนฟัง
หรือจะพูดได้ว่า
เพลง ‘ชีวิตดั่งมวลผกายามคิมหันต์’ ที่เซี่ยนอวี๋แต่งขึ้นนั้นไม่เลือกคนร้อง
ต่อให้บริษัทไม่เลือกซุนเย่าหั่ว แต่เปลี่ยนให้คนอื่นมาร้องเพลงนี้ ทุกคนที่มีคุณภาพเสียงดีย่อมแจ้งเกิดโด่งดังได้ด้วยการผลักดันของทรัพยากรบริษัท
นี่คือเหตุผลที่หลังจากเพลงนี้โด่งดัง ทุกคนก็ให้ความสำคัญกับการแต่งเพลง
แน่นอนว่า
นักร้องซึ่งมีเสียงระดับเทพเหล่านั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
นักร้องจำพวกนี้ในอุตสาหกรรมดนตรีนับว่าเป็นเพชรน้ำหนึ่ง เสียงร้องระดับฟ้าประทาน ร้องเพลงอะไรก็ไพเราะเสนาะหูไปซะหมด ถึงขั้นเรียกว่านักฆ่าระดับพระกาฬ สถานะของพวกเขาสูงจนเทียบได้กับพ่อเพลงผู้ยิ่งใหญ่แล้ว
เมื่อนักร้องพลังเสียงระดับซาตานรวมพลังกับพ่อเพลงขั้นเทพ ก็มักจะประสบความสำเร็จไปด้วยกัน ต่างฝ่ายต่างขาดใครไปไม่ได้
ถึงอย่างไรเพลงเหล่านี้ก็ใช่ว่าใครจะร้องได้
ก็เหมือนกับการที่เราไม่สามารถสุ่มเลือกนักร้องเข้ามาในห้องอัดแล้วสั่งให้ร้องโอเปรานั่นละ
และแน่นอน นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าระดับความยากของเพลงยิ่งมาก จะยิ่งเป็นเพลงที่ดี เพลงบางเพลงใครๆ ก็ร้องได้ แต่เราก็ไม่อาจปฏิเสธความยอดเยี่ยมของเพลงเหล่านั้น
……
และในโลกภายนอกตอนนี้
บรรยากาศของฤดูกาลศิลปินหน้าใหม่ก็ได้แผ่ซ่านไปทั่วทั้งฉินโจว ตามการเปิดอันดับของชาร์ตดาวรุ่ง
ในที่สุดความสนใจของแต่ละบริษัทใหญ่ก็เบนจากซาไห่คัลเจอร์ซึ่งครองอันดับหนึ่งอย่างเหนียวแน่น ไปยังหนึ่งในสามบริษัทบันเทิงขนาดใหญ่อย่างสตาร์ไลท์เอนเตอร์เทนเมนต์
“โอ้โห ปีนี้เด็กใหม่สตาร์ไลท์กลับมาอยู่ท็อปสามแล้ว”
“ยังไงก็เป็นสามบริษัทใหญ่เก่าแก่ สตาร์ไลท์เอนเตอร์เทนเมนต์จะแย่ทุกปีก็คงไม่ได้ปะ”
“จะบอกว่าสามบริษัทใหญ่ไม่เปิดทางให้คนอื่นทำมาหากินบ้างก็คงได้แหละ ที่หนึ่งซาไห่ไม่หลุดโผอยู่แล้ว ที่สองเซวี่ยนล่านอิ๋นกวงผลงานคงเส้นคงวา ที่สามสตาร์ไลท์เอนเตอร์เทนเมนต์ก็กลับมาเจิดจรัสอีกแล้ว พวกเขากินเนื้อ บริษัทเล็กๆ อย่างพวกเราคงทำได้แค่รอกินน้ำแกงอยู่ด้านหลัง”
“…”
นอกจากบริษัทในอุตสาหกรรมดนตรีแล้ว เหล่านักวิจารณ์เองก็ให้ความสนใจชาร์ตดาวรุ่งเช่นเดียวกัน ในบรรดาเพลงเหล่านั้น เพลงสามอันดับแรกจะได้รับความสนใจจากผู้คนมากกว่า
ในเวยปั๋ว
บรรดานักวิจารณ์ส่งเสียงเซ็งแซ่ แนะนำบทเพลงในดวงใจของตนจากชาร์ตดาวรุ่ง
ผลคือเพลงที่นักวิจารณ์ส่วนมากเลือกมาแนะนำอย่างพร้อมเพรียงกันโดยไม่ได้นัดหมายก็คือเพลงในอันดับที่สาม ‘ชีวิตดั่งมวลผกายามคิมหันต์’!
จังหวะแบบนี้ทำให้ชาวเน็ตที่ผ่านมาเห็นจำนวนมากเกิดความสนอกสนใจ ‘ชีวิตดั่งมวลผกายามคิมหันต์’ ขึ้นมา ในช่องคอมเมนต์ข้างใต้โพสต์แนะนำเพลงจึงคึกคักขึ้นตามไปด้วย
“ชื่อเพลงเพราะมากเลย”
“ให้ชีวิตตระการตาดั่งมวลผกายามคิมหันต์ ครั้นวายชีวันงามดั่งหมู่ใบไม้ในสารทฤดู ยังไม่ทันได้ฟังเพลง แค่อ่านข้อความแนะนำก็รู้แล้วว่าเพลงนี้ดีที่สุด”
“ฉันติดตามนักวิจารณ์สิบคน แนะนำเพลง ‘ชีวิตดั่งมวลผกายามคิมหันต์’ ไปแล้วเจ็ดคน ฉันต้องไปฟังดูบ้างแล้ว”
“ฟังแล้ว ไม่เลวเลย ช่วยดาวน์โหลดสนับสนุนเขาแล้วด้วย”
“ฉันก็ฟังแล้ว ส่วนตัวรู้สึกว่าเพลงนี้ธรรมดาอะ”
“ขึ้นอยู่กับเทสต์ของคนจริงๆ นั่นละ แต่ฉันฟัง ‘ชีวิตดั่งมวลผกายามคิมหันต์’ ครั้งแรกแล้วขนลุกเลยนะ นี่เป็นครั้งแรกที่ฟังเพลงที่ไม่มีไฮโน้ตแล้วขนลุก”
“ว้าว เพลงนี้มันมีของอยู่นะ”
“ขอบคุณนักวิจารณ์ที่แนะนำ เพลงนี้น่าจะเป็นเพลงที่ดีสุดที่ฉันได้จากฤดูกาลศิลปินหน้าใหม่ ไม่ต้องพูดเยอะซื้อเก็บเข้าเพลย์ลิสต์ไปเลยจ้า”
“…”
นี่นับเป็นธรรมเนียมของฉินโจว
ในฤดูกาลศิลปินหน้าใหม่ทุกปี นักวิจารณ์แทบทุกคนจะเฮละโลกันมาปั่นกระแสของฤดูกาลศิลปินหน้าใหม่กันยกใหญ่
หรือไม่ก็แนะนำเพลงที่ตนเองชื่นชอบ ไม่ก็รับสินบนจากบริษัทบันเทิงมานิดหน่อย และโพสต์สิ่งที่บริษัทเขียนเตรียมไว้ให้แล้ว
จำนวนคนจำพวกแรกมีมาก
จำนวนคนจำพวกหลังมีน้อย
เป็นเพราะในฉินโจว ดนตรีจัดว่าเป็นศาสตร์ที่ศักดิ์สิทธิ์ ผู้คนก็ไม่ได้โง่เขลาเบาปัญญาจนนักวิจารณ์จะมาหลอกได้
เรื่องนี้เกี่ยวข้องโยงกับเอกลักษณ์ของฉินโจว
บลูสตาร์มีทั้งหมดแปดทวีปใหญ่ ได้แก่ฉิน ฉี ฉู่ เยี่ยน ฮั่น จ้าว เว่ย และบวกกับจงโจวซึ่งเป็น ‘เมืองหลวง’ ของบลูสตาร์
แต่ละทวีปมีเอกลักษณ์แตกต่างกัน
บนบลูสตาร์ ฉินโจวได้รับการยอมรับโดยถ้วนหน้าว่าเป็น ‘มาตุภูมิแห่งดนตรี’!
ที่นี่ผลิตศิลปินด้านดนตรีมากมาย
ฉีโจวซึ่งเป็นเพื่อนบ้านของฉินโจวถูกขนานนามว่า ‘ตำหนักภาพยนตร์’
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน