ตอนที่ 818 ถึงเวลาโต้กลับปู้ลั่ว
วันรุ่งขึ้น
หลังจากหลินเยวียนตื่นนอน เขาก็ไม่ได้ไปยังบริษัท แต่เดินทางไปยังสตูดิโอของอิ่งจือแทน
หลัวเวยและทีมงานของเธอวาดการ์ตูนได้คล่องแคล่วมากขึ้นเรื่อยๆ จนแทบไม่ต้องให้หลินเยวียนคอยเป็นห่วง เขาเพียงแค่เตรียมสตอรีบอร์ดไว้ก็เพียงพอแล้วเท่านั้น
แม้แต่สตอรีบอร์ด หลินเยวียนก็เริ่มวาดแบบตามสบายมากขึ้น
อย่างเช่น เมื่อเดือนก่อนสตอรีบอร์ดซึ่งเขาวาดให้การ์ตูนเรื่อง นินจาจอมคาถาของหลัวเวย แทบจะเหมือนกับการวาดคนก้างปลา เป็นเพียงการจัดวางองค์ประกอบภาพคร่าวๆ ผลปรากฏว่าหลัวเวยก็สามารถทำให้งานนั้นสำเร็จได้อย่างยอดเยี่ยม
หลินเยวียนเองก็รู้สึกประหลาดใจ
เขาคิดว่าหลัวเวยจะให้เขาวาดสตอรีบอร์ดใหม่เสียอีก
เรื่องนี้ส่งผลให้หลินเยวียนลดความถี่ในการแวะเวียนมายังสตูดิโอลงอย่างมาก
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่สนใจความคืบหน้าของการ์ตูนของตัวเองเลย
จินมู่มักจะรายงานสถานการณ์บนเว็บไซต์การ์ตูนเหลียนเหมิงให้เขาฟังเป็นระยะๆ
ซึ่งต่างจากแต่ก่อนมาก
เมื่อเรื่องราวของนักเรียนประถมแห่งความตาย นินจาจอมคาถา ราชาโจรสลัด รวมไปถึงสแลมดังก์ค่อยๆ เปิดเผย กอปรกับอิทธิพลของแอนิเมชัน การ์ตูนเหล่านี้จึงได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ
ทุกวันนี้กระแสของทั้งเหลียนเหมิงถูกยกระดับขึ้นอย่างมาก!
เว็บไซต์การ์ตูนเกิดใหม่นี้รุ่งโรจน์ขึ้นมากเพราะอิ่งจือ!
เช่นเดียวกัน
ด้วยแรงผลักดันของการ์ตูนระดับปรากฏการณ์เหล่านี้ ทำให้อิทธิพลของเหลียนเหมิงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอุตสาหกรรม
ตอนนี้
นอกจากนั้นยังมีนักเขียนการ์ตูนระดับกลางในวงการที่ไม่พอใจปู้ลั่ว ทยอยเข้าร่วมกับเหลียนเหมิงมากขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อเป็นเช่นนี้ ปริมาณการเข้าชมของของเหลียนเหมิงและปู้ลั่วการ์ตูนจึงใกล้เคียงกันมากแล้ว
จินมู่เอ่ยถึงเรื่องนี้ด้วยท่าทางภาคภูมิใจ
“ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด อีกไม่เกินครึ่งปี ปริมาณการเข้าชมของเราก็จะเท่ากับการ์ตูนของปู้ลั่วแล้ว!”
“ยังต้องใช้เวลาถึงครึ่งปี?”
“คุณยังคิดว่าช้าไปหรือ?”
จินมู่ร้องไห้ไม่ได้หัวเราะไม่ออก “ต้องเข้าใจนะครับว่าเว็บไซต์ของเรานั้นเริ่มจากศูนย์ ในขณะที่ปู้ลั่วการ์ตูนได้รวบรวมนักเขียนการ์ตูนระดับแนวหน้าไว้มากมายมาตั้งนานแล้ว และไม่นานมานี้ที่กระแสเว็บเราพุ่งขึ้นมาแล้ว เหลียนเหมิงถึงได้เริ่มดึงดูดนักเขียนเก่งๆ มาได้บ้าง แต่ก่อนเวลานักเขียนการ์ตูนฝีมือดีๆ จะเปิดตัวผลงานใหม่ พวกเขาแทบไม่คิดจะโพสต์ที่เว็บอื่นนอกจากปู้ลั่วเลยด้วยซ้ำ ยิ่งไปกว่านั้น ปู้ลั่วยังแอบก่อกวนพวกเราบ่อยๆ คอยขัดแข้งขัดขา ถ้าไม่เป็นแบบนั้นละก็ ตอนนี้กระแสเราก็อาจจะเท่ากับของพวกเขาแล้วก็ได้ครับ”
“ขัดแข้งขัดขา?”
หลินเยวียนเอ่ยถาม “ปู้ลั่วทำอะไรอีก”
จินมู่พูดว่า “ก็แค่ลูกไม้เดิมๆ นั่นแหละครับ ดึงตัวนักเขียนการ์ตูนเหลียนเหมิงเราไป แต่หานจี้เหม่ยก็ไม่ใช่คนที่จะยอมพวกเขาง่ายๆ เธอได้ใส่เงื่อนไขที่เข้มงวดกรณีผิดสัญญาลงไปในสัญญาของนักเขียนการ์ตูน ทำให้ปู้ลั่วต้องแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้นเรื่อยๆ จาการดึงตัวนักเขียน ถึงยังไงปู้ลั่วการ์ตูนจะเป็นแค่แผนกหนึ่งของปู้ลั่ว อันที่จริงก็ไม่ได้มีเงินถุงเงินถังขนาดนั้น ระยะนี้เลยไม่ค่อยดึงตัวนักเขียนจากพวกเราแล้ว เพราะถ้าดึงไปมากกว่านี้ก็คงเข้าเนื้อพวกเขาเอง ยังไงก็ต้องคำนึงถึงความคุ้มค่าของนักเขียนด้วยใช่ไหมล่ะครับ”
“ทำไมเราถึงไม่ดึงตัวนักเขียนบ้าง”
“เพราะเราไม่มีทั้งเงินและเบื้องหลังเท่าพวกเขา”
จินมู่พูดอย่างใจเย็น “แต่ความกดดันก็อยู่ที่พวกเขาครับ ส่วนเราแค่ต้องอดทนต่อไปก็พอ ด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน คาดว่าในอีกครึ่งปี ปริมาณการเข้าชมของเหลียนเหมิงเราจะสามารถตามเว็บไซต์ของพวกเขาทัน และถ้าเป็นอีกหนึ่งปีหลังจากนี้ ปริมาณการเข้าชมของเราอาจจะแซงหน้าพวกเขา และกลายเป็นเว็บไซต์การ์ตูนที่มีคนเข้าชมมากที่สุดในอุตสาหกรรมนี้ก็ได้!”
ถูกต้องแล้ว
ตอนนี้เหลียนเหมิงกำลังเล่นเกมรับ
เช่นเดียวกับช่วงท้ายของเกมบาสเก็ตบอล
เหลียนเหมิงไม่จำเป็นต้องเน้นทำคะแนน แค่ป้องกันไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามทำคะแนนก็พอ
เพราะจังหวะและคะแนนอยู่ในมือของเหลียนเหมิง เพียงแค่ครองบอลและรอจนเวลาหมดเวลาก็สามารถคว้าชัยชนะได้แล้ว
และเหตุผลที่ปู้ลั่วยอมจ่ายเกินเพื่อดึงตัวคนไป ก็เพราะพวกเขากำลังใช้วิธีการตะบี้ตะบันโจมตีอย่าเพื่อหาทางออกจากวิกฤต ไม่เช่นนั้นสิ่งที่รออยู่คือความตายอย่างช้าๆ
แม้ภายนอกจะดูยิ่งใหญ่ แต่แท้จริงแล้วพวกเขาก็เพียงแกร่งนอกอ่อนใน
ท้ายที่สุดแล้ว เสาหลักของเหลียนเหมิงก็คืออิ่งจือ ไม่ว่าพวกเขาจะดิ้นรนแค่ไหน ก็ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงจุดจบได้ เว้นเสียแต่ปู้ลั่วจะสามารถดึงตัวอิ่งจือกลับไปได้
“รอดูต่อไปแล้วกัน”
จินมู่หัวเราะอย่างเย็นชา “อีกหนึ่งปีหลังจากนี้ ก็ถึงคราวที่เราจะบุกบ้างแล้ว ตอนนั้นแหละ เหลียนเหมิงจะเป็นเว็บไซต์ที่มีพลังดึงดูดมากที่สุดในวงการ พวกเขาดึงคนของเราไปเท่าไหร่ ไม่ช้าก็เร็วเราก็จะเอาทวงคืนกลับมาเท่านั้น”
แต่ในใจยังคงรู้สึกอึดอัดอยู่บ้าง
เพราะอย่างไรก็ตามเหลียนเหมิงนั้นได้แต่อยู่ในโหมดตั้งรับมาโดยตลอด หลังจากนี้ยังต้องทนต่อไปอีกครึ่งปีถึงหนึ่งปี ใครที่ถูกโจมตีอย่างหนักโดยไม่สามารถตอบโต้ได้คงรู้สึกหงุดหงิดเป็นธรรมดา
“ทำไมต้องรอนานขนาดนั้นด้วยล่ะครับ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน