กลางเดือนตุลาคม
อากาศไม่ร้อนมากแล้ว
อย่าว่าแต่เครื่องปรับอากาศเลย แม้แต่พัดลมก็แทบไม่จำเป็นต้องใช้
ในวันนี้
ถังอี๋มองไปรอบๆ อย่างมีพิรุธ จากนั้นจึงเดินเข้าไปในสถานที่แห่งหนึ่งด้วยท่าทางหวาดระแวง ราวกับกลัวว่าจะมีใครมาเห็นเข้า
อย่าเข้าใจผิด
ที่นี่ไม่ใช่บาร์โฮสต์
ถังอี๋ในฐานะนักวาดการ์ตูนหญิงชื่อดังของปู้ลั่ว ไม่ได้มีรสนิยมในการเล่นสนุกแบบเศรษฐินีผู้ร่ำรวยแต่อย่างใด ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นเศรษฐีนีสวยตรงตามมาตรฐานก็ตาม
ที่จริงแล้วถังอี๋มาเพราะมีนัดกับเพื่อน
และเพื่อนของถังอี๋คนนี้ ก็คือหานจี้เหม่ย ผู้อำนวยการเว็บไซต์เหลียนเหมิง ซึ่งเป็นคู่แข่งตัวฉกาจของปู้ลั่วการ์ตูนในปัจจุบัน
นี่คือเหตุผลว่าทำไมถังอี๋ถึงทำตัวลับๆ ล่อๆ
เธอเป็นนักเขียนการ์ตูนของปู้ลั่ว แต่กลับแอบมาเจอหัวหน้าของเหลียนเหมิง ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยดีนัก
แม้ว่าโดยรอบจะไม่มีใครรู้จักเธอเลยก็ตาม
ในความเป็นจริง
หากไม่ใช่เพราะว่าหานจี้เหม่ยเคยช่วยเธอไว้ตอนอยู่ที่ปู้ลั่ว ถังอี๋ก็คงไม่อยากมาที่นี่ในวันนี้
ถึงอย่างไรตอนนี้ เธอยังไม่มีความคิดที่จะย้ายไปยังเหลียนเหมิง
ใช่แล้ว
ทันทีที่หานจี้เหม่ยชวนถังอี๋มาพบ เธอก็เดาได้ทันทีว่าอีกฝ่ายอาต้องการดึงเธอไปร่วมงานกับเหลียนเหมิง
ไม่ว่าอย่างไร หานจี้เหม่ยก็เคยยื่นข้อเสนอให้เธอมาก่อนหน้านี้แล้ว
ตั้งแต่ตอนที่เหลียนเหมิงเพิ่งก่อตั้ง หานจี้เหม่ยก็เคยโทรมาชวนเธอเข้าร่วมเหลียนเหมิง
ที่ถังอี๋มาในวันนี้ เพื่อบอกกับหานจี้เหม่ยอย่างชัดเจนว่า
ไม่ว่าอีกฝ่ายจะยื่นข้อเสนออะไรให้ เธอก็จะไม่เข้าร่วมกับเหลียนเหมิง อีกฝ่ายไม่จำเป็นต้องมาเสียเวลากับเธอ
จะให้ย้ายมาร่วมงานเพียงเพราะตอนนี้เหลียนเหมิงกำลังไปได้สวยแค่นั้นคงไม่ได้ล่ะมั้ง
เช่นนั้นเธอจะดูเป็นคนแบบไหนกัน?
ยิ่งไปกว่านั้น ถังอี๋ก็ไม่คิดว่าข้อเสนอจากเหลียนเหมิงจะดีกว่าผลประโยชน์ที่เธอได้รับจากปู้ลั่วอยู่แล้ว
ถังอี๋คิดเช่นนั้น
เธอก้าวเข้าไปในห้องซึ่งนัดหมายกันไว้ล่วงหน้า
“เอ๊ะ?”
ทันทีที่เดินเข้าห้องไป ถังอี๋ถึงกับชะงัก
นอกจากเธอแล้ว ยังมีอีกห้าคนอยู่ในห้องนี้!
และทั้งห้าคนนี้ ถังอี๋รู้จักทุกคน!
เพราะทั้งห้าคนนี้ ล้วนเป็นนักเขียนการ์ตูนระดับแนวหน้าของปู้ลั่วเช่นเดียวกับถังอี๋!
ต่อให้ไม่ถึงระดับยอดพีระมิด แต่ก็นับว่าเป็นนักเขียนการ์ตูนระดับชั้นนำทั้งนั้น!
สามคนในนั้นเป็นนักวาดมืออาชีพซึ่งเน้นงานวาดเพียงอย่างเดียว
ส่วนอีกสองคนก็เหมือนกับถังอี๋ เป็นนักเขียนการ์ตูนซึ่งคิดโครงเรื่องและวาดเอง
ในขณะนั้นเอง
ทั้งห้าคนในห้องต่างก็หันมามองถังอี๋ สีหน้าของแต่ละคนต่างกันไป แต่เห็นได้ชัดว่าพวกเขารู้จักเธอ
“ฮัลโหล”
ถังอี๋เอ่ยทักทายด้วยสีหน้าแปลกพิลึก
“หลงหวัง หลางเกอ อาจารย์ขวงเจี้ยน อาจารย์ชุ่นเฉ่าซิน และอาจารย์ไป่หลี่ หานจี้เหม่ยก็นัดพวกคุณมาใช่ไหม?”
ถังอี๋สามารถเรียกชื่อทุกคนในที่นี้ได้ทั้งหมด
ทุกคนล้วนเป็นนักเขียนการ์ตูนชื่อดังในวงการ และปกติเมื่อแวะเวียนไปปู้ลั่ว มักจะพบปะกันเป็นครั้งคราว
“ถังอี๋”
ทุกคนพยักหน้าทักทาย
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลงหวังที่ค่อนข้างสนิทกับถังอี๋ เขาพูดอย่างยิ้มแย้ม “นี่คุณคิดจะย้ายไปเหลียนเหมิงหรือ?”
“เปล่าสักหน่อย!”
ถังอี๋ตกใจ รีบส่ายหัวแล้วพูดทันที “ฉันเป็นตงฉินผู้ภักดีของปู้ลั่ว วันนี้แค่จะมาบอกหานจี้เหม่ยให้ชัดเจนว่าอย่าชวนฉันย้ายบริษัทอีก”
พูดจบ
เธอหรี่ตามองคนอื่นๆ “แต่พวกคุณต่างหาก หลงหวัง หึๆ พวกคุณทั้งหลาย ถูกฉันจับได้แล้ว กำลังเตรียมจะย้ายไปเหลียนเหมิงใช่ไหมล่ะ?”
หลงหวังเบ้ปาก “ผมแค่มาดูเฉยๆ ”
ชุ่นเฉ่าซินกล่าวกลั้วหัวเราะ “แค่อยากรู้ว่าทางเหลียนเหมิงจะให้ข้อเสนออะไรบ้าง”
ไป่หลี่เอ่ยเสียงเรียบ “เพื่อนเก่าชวนมา เลยคิดว่าต้องมาสักครั้ง”
ส่วนหลางเกอกลับมีท่าทางเฉยเมย “ถ้าให้เงินเยอะพอ ผมก็ย้ายไปเหลียนเหมิงได้ ไม่งั้นก็ไม่ต้องคุยกัน”
ขวงเจี้ยนผู้มีท่าทีเย็นชาที่สุด
คนคนนี้มักจะไม่ค่อยสุงสิงกับใครในวงการนัก เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง
“ไม่ว่ายังไงก็ไม่มีทางเข้าร่วมเหลียนเหมิงเด็ดขาด”
ถังอี๋หัวเราะออกมา
แต่ละคนล้วนไม่ได้คิดจะเข้าร่วมกับเหลียนเหมิงเลยสินะ
งั้นก็คงเหมือนกับเธอ เมื่อก่อนทุกคนเคยได้รับความช่วยเหลือจากหานจี้เหม่ย จึงมาพบหน้ากันตามมารยาทเท่านั้น
เห็นทีแผนการของหานจี้เหม่ยคงจะไม่สำเร็จซะแล้ว
ถังอี๋สงสัยจริงๆ ว่าหานจี้เหม่ยคิดอะไรอยู่ ถึงได้นัดพวกเขามาพร้อมกันเช่นนี้
นั่นจะทำให้เหลียนเหมิงดึงตัวคนยากขึ้นไปอีกไม่ใช่หรือไง
ใครจะกล้าย้ายบริษัทหักหลังปู้ลั่วต่อหน้าคู่แข่งในวงการขนาดนี้กัน
หาที่นัดเจอกันแยกกันทีละคนไม่ได้หรือ?
และในขณะที่ถังอี๋กำลังฉงนใจว่าหานจี้เหม่ยกำลังคิดอะไรอยู่ หานจี้เหม่ยก็ปรากฏตัวขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน