Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน นิยาย บท 83

ตอนที่ 83 มีเวลาพอ

หลินเยวียนกลายเป็นคนดังของชมรมจิตรกรรม นักศึกษาซึ่งเรียนเฉพาะทางด้านการสเก็ตช์ก็ยิ่งยกหลินเยวียนไว้เป็นผู้นำทางจิตวิญญาณ

แต่ว่าเรื่องนี้ก็ยังคงไม่ได้มีผลกับเขามากนัก

ในฐานะที่วิทยาลัยศิลปะฉินโจวเป็นสถาบันศิลปะขนาดใหญ่ที่สุดของภูมิภาค นักเรียนในแต่ละคณะมีมากมายนับไม่ถ้วน คนดังหลากหลายประเภทมีเยอะแยะไปหมด

ถ้าหากไม่ใช่คนดังที่มีคนติดตามอย่างใกล้ชิด ใครจะไปจำได้ล่ะ

วันเวลาต่อจากนั้น

ชีวิตของหลินเยวียนก็ยังเป็นดังเดิม

เช้าตรู่ของวันนี้ หลินเยวียนลืมตาขึ้น พบว่านอกห้องพายุฝนกำลังโหมกระหน่ำ

หัวคิ้วของเขาขมวดอย่างห้ามไม่อยู่ ฝนตกหนักขนาดนี้ จะออกไปข้างนอกไม่สะดวกเอาซะเลย ช่วงสายวันนี้เขามีตารางเรียนแน่นมาก

ในตอนนั้นโทรศัพท์ก็ดังขึ้น

เป็นซุนเย่าหั่วที่โทรศัพท์มา

น้ำเสียงของเขาฟังดูระมัดระวัง “รุ่นน้อง คงไม่ได้โทรมารบกวนหรอกใช่มั้ย ครั้งก่อนจะพูดเรื่องอัดเพลงหรอกเหรอ พวกเราจะอัดเสียงเมื่อไหร่ล่ะ ทางฉันรอรับคำสั่งตลอดเวลา!”

“เดี๋ยวผมแจ้งไปนะครับ”

หลินเยวียนมองไปทางหน้าต่าง “รุ่นพี่ซุน ตอนนี้พอจะมีเวลาช่วยผมหน่อยได้มั้ย”

“ช่วยอะไรเหรอ”

“ขับรถมารับผมไปเรียนหน่อยฮะ” หลินเยวียนจำได้ว่ารุ่นพี่ซุนเย่าหั่วซื้อรถแล้ว ครั้งก่อนตอนกินข้าวก็ยังเอ่ยถึงเรื่องนี้

“นายส่งที่อยู่มาเลย”

ซุนเย่าหั่วไม่เพียงไม่ได้รู้สึกว่ายุ่งยาก มิหนำซ้ำน้ำเสียงยังฟังดูตื่นเต้น ดังนั้นหลินเยวียนรู้สึกว่า บางทีรุ่นพี่ซุนเย่าหั่วอาจชื่นชอบความรู้สึกเวลาขับรถแบบนี้ก็ได้

ผ่านไปครึ่งชั่วโมง

หลินเยวียนนั่งรถของซุนเย่าหั่วมาถึงวิทยาลัย

หลังจากจอดรถ ซุนเย่าหั่วก็กางร่มสีดำคันหนึ่ง รีบลงจากรถ ใช้ร่มกางเหนือประตูฝั่งหลินเยวียน พลางช่วยเปิดประตูด้านหลังให้หลินเยวียน

ขอบเขตที่ร่มสามารถกันฝนได้นั้นมีจำกัด ทำให้ร่มบังแผ่นหลังของเขาไม่มิด และถูกฝนสาดจนเปียกชุ่ม

แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ได้ใส่ใจ ยังกำชับหลินเยวียนอีกว่า “รุ่นน้องระวังด้วย”

“ขอบคุณครับรุ่นพี่”

“เรื่องแค่นี้ขอบคุณอะไรกัน วิทยาลัยไม่ให้ฉันเข้าไป นายอยู่สาขาการประพันธ์เพลงใช่มั้ยล่ะ จะให้ฉันช่วยกางร่มไปมั้ย” ใบหน้าของซุนเย่าหั่วเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม

“ไม่ต้องหรอกครับ”

“งั้นนายเอาร่มไปใช้”

ซุนเย่าหั่วยิ้มพลางส่งร่มให้หลินเยวียน ส่วนตนก็ใช้มือกำบังศีรษะ ก่อนจะรีบกลับเข้าไปในรถ โบกมือลาหลินเยวียนอย่างกระตือรือร้นเฉกเช่นที่เคยเป็นมา

“บ๊ายบายครับ”

หลินเยวียนโบกมือ จากนั้นก็ถือร่มเดินไปยังห้องเรียน

เมื่อวางร่มเรียบร้อยแล้ว หลินเยวียนก็พบว่าบรรยากาศของห้องเรียนนั้นผิดแปลกไป

แม้แต่หัวหน้าห้องที่ปกติแล้วจะร่าเริงสดใส วันนี้กลับดูห่อเหี่ยวไร้ชีวิตชีวาราวกับกับมะเขือแช่แข็ง

ทุกคนกำลังบ่นกันว่า

“เมื่อวานเวรใครอะ ตอนออกไปไม่ได้ปิดหน้าต่างด้วย”

“วันอื่นไม่ปิดหน้าต่างก็ว่าไปอย่าง อย่างมากน้ำก็เข้าห้องเรียนนิดๆ หน่อยๆ แต่ครั้งนี้ยุ่งเลย หนังสือพิมพ์กระดานดำที่พวกเรากว่าจะทำเสร็จ ถูกลบไปหมดเลย!”

“นั่นสิ”

“เพราะว่าไม่ได้ปิดหน้าต่าง หนังสือพิมพ์กระดานดำที่หัวหน้าห้องกับฝ่ายศิลป์ทำมาครึ่งเดือนกว่าจะเสร็จ ตอนนี้ถูกลบทิ้งไปเกินครึ่ง”

หนังสือพิมพ์กระดานดำเขียนด้วยชอล์ก

เครื่องเขียนอย่างชอล์ก เดิมทีก็โดนน้ำไม่ได้อยู่แล้ว พายุฝนกระหน่ำทั้งคืน ย่อมไม่แปลกที่หนังสือพิมพ์กระดานดำจะถูกทำลายไปครึ่งหนึ่ง

“จบเห่แล้ว”

“ก็คงต้องทำแก้ขัดไปก่อน แต่ว่าทุกคนก็ไม่ต้องหวังรางวัลแล้วแหละ เพราะมองจากเวลาแล้วไม่ทัน แถมวันนี้พวกเรามีเรียนทั้งช่วงเช้า เวลากระชั้นเกินไป”

“…”

หลินเยวียนได้ยินดังนั้นจึงเหลือบมองหนังสือพิมพ์กระดานดำ

เมื่อสองสัปดาห์ก่อน ฝ่ายศิลป์ของเซคก็เริ่มง่วนอยู่กับหนังสือพิมพ์กระดานดำนี้จริงๆ นั่นแหละ

พวกเขาลงแรงไปมากเพื่อหนังสือพิมพ์กระดานดำนี้ บางครั้งยุ่งกันอยู่จนดึกดื่นกว่าจะได้กลับหอ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน