ตอนที่ 905 ความมืดครอบงำแววตา (2)
ฉู่ขวงเขียนนิยายมามากมาย และเคยร่วมงานกับแผนกแฟนตาซีมาไม่น้อย
สำหรับเหล่าสยงซึ่งทำงานเป็นบรรณาธิการมืออาชีพแล้ว เขาได้อ่านนิยายทุกเล่มของฉู่ขวงตั้งแต่ต้นจนจบ
ตลอดหลายปีของการร่วมงานกัน
นิยายทุกเรื่องที่ขายดีของฉู่ขวง
เหล่าสยงพบว่า แนวกำลังภายในเป็นแนวที่ถูกจริตเขามากที่สุด!
นิยายกำลังภายในเปรียบได้กับนิทานของผู้ใหญ่ สำหรับเหล่าสยงที่เป็นชายวัยกลางคน ความหลงใหลในกำลังภายในฝังลึกในใจของเขามาโดยตลอด
เหล่าสยงเคยผ่านยุคทองของนิยายกำลังภายในมาแล้ว ในวัยหนุ่ม เขามักถือหนังสือนิยายกำลังภายในติดมืออยู่เสมอ
ช่วงเวลานั้นเหล่าสยงรู้สึกมีความสุขอย่างมาก
จนในที่สุด เส้นทางชีวิตของเหล่าสยงที่มุ่งสู่การเป็นบรรณาธิการมืออาชีพนั้น อาจกล่าวได้ว่าได้รับแรงบันดาลใจมาจากนิยายกำลังภายในที่ทำให้เขาหลงใหลในโลกของวรรณกรรมอย่างถอนตัวไม่ขึ้น
น่าเสียดายที่นิยายกำลังภายในค่อยๆ เสื่อมความนิยมไปในภายหลัง
เหล่าสยงไม่อาจหาความสุขจากนิยายกำลังภายในได้อีกต่อไป
จนกระทั่ง…
มังกรหยกปรากฏขึ้น!
นิยายเรื่องนี้ทำให้เหล่าสยงได้กลับมาสัมผัสกับความสุขในครั้งแรกที่เขาอ่านนิยายกำลังภายในอีกครั้ง และดึงเขากลับสู่ยุทธจักรที่ตราตรึงใจ
ด้วยเหตุนี้…
เมื่อได้รับศึกเทพอภินิหารจ้าวอินทรีซึ่งว่ากันว่าเป็นภาคต่อของมังกรหยก เหล่าสยงก็อดไม่ได้ที่จะรีบเปิดอ่านทันที!
บทแรก!
บทที่สาม!
เหล่าสยงอ่านอย่างจดจ่อ ไม่นานก็ผ่านไปถึงบทที่ห้า
รอยยิ้มค่อยๆ ปรากฏบนใบหน้าของเหล่าสยง ตั้งแต่การปรากฏตัวของ เอี้ยก้วย จนถึงก๊วยเจ๋งที่แสดงความรักและช่วยเหลือเอี้ยก้วยอย่างเต็มที่ เนื้อเรื่องยังคงน่าติดตามเหมือนเช่นเคย และสำนวนการเขียนของฉู่ขวงก็ไม่ได้ลดทอนคุณภาพลงเลยแม้แต่น้อย!
อย่างไรก็ตาม
เหล่าสยงเริ่มขมวดคิ้วเล็กน้อยหลังจากอ่านเจอฉากหนึ่งในเนื้อเรื่อง “คาแรกเตอร์ของอึ้งย้งดูเหมือนจะถูกบิดเบือนไปเล็กน้อยหรือเปล่า?”
ความรู้สึกนี้ทำให้เขาอึดอัด
สำหรับเหล่าสยง เมื่ออ่านมังกรหยกภาคแรก เขาชอบคู่พ่อลูกอย่าง อึ้งเอี๊ยะซือและอึ้งย้งมากที่สุด!
โดยเฉพาะอึ้งย้ง หญิงสาวที่ฉลาดปราดเปรื่องราวกับนางฟ้า ทั้งมีไหวพริบและทำอาหารเก่งสุดๆ อาจพูดได้ว่าความสำเร็จของก๊วยเจ๋งนั้น มีอึ้งย้งช่วยสนับสนุนอยู่ครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว!
หลังจากอ่านมังกรหยกจบไปแล้ว
มีคนจำนวนไม่น้อยที่ตกหลุมรักอึ้งย้งอย่างถอนตัวไม่ขึ้น!
ทว่าเมื่อมาถึงเรื่องศึกเทพอภินิหารจ้าวอินทรี ถึงแม้เหล่าสยงจะเพิ่งอ่านไปได้เพียงไม่กี่บท แต่เขากลับรู้สึกได้ชัดเจนว่าอึ้งย้ง ดูจะเข้มงวดกับเอี้ยก้วยพระเอกของเรื่องนี้มากเกินไป ความลำเอียงในใจของนางเริ่มชัดเจนขึ้น นางกลัวว่าเอี้ยก่วยจะรู้ความจริงเกี่ยวกับเอี้ยคังพ่อของเขา แล้วหันไปล้างแค้นก๊วยเจ๋ง ด้วยเหตุนี้เอง อึ้งย้งจึงแสดงท่าทีจู้จี้จุกจิกต่อเด็กคนนี้ ทำให้เธอค่อยๆ สูญเสียภาพลักษณ์เทพธิดาผู้เป็นที่รักจากภาคก่อน และกลายเป็นตัวละครที่ทำให้ผู้คนรู้สึกขัดใจมากขึ้นเรื่อยๆ
“สมแล้วที่เป็นเจ้าแก่ฉู่ขวง”
เหล่าสยงบ่นพึมพำอย่างขัดใจ แต่สุดท้ายก็ข่มกลั้นความรู้สึกไม่พอใจในใจเอาไว้
แม้ว่าบทบาทของอึ้งย้ง ในเรื่องนี้จะดูเหมือนบิดเบี้ยวไปบ้าง แต่ความสนุกและความยอดเยี่ยมของนิยายเรื่องนี้กลับไม่ลดน้อยลงเลยแม้แต่น้อย
เขาจงหนาน!
เซียวเหล่งนึ่ง!
ทุกองค์ประกอบล้วนแต่เติมเต็มความน่าตื่นเต้น และดึงเหล่าสยงให้จมดิ่งเข้าไปในโลกของศึกเทพอภินิหารจ้าวอินทรีอย่างถอนตัวไม่ขึ้น
ยุทธภพของฉู่ขวงยังคงเต็มไปด้วยความฝันอันงดงาม และมีเสน่ห์เย้ายวนที่แฝงความโหดร้ายเอาไว้! ส่วนเอี้ยก้วยพระเอกของเรื่อง แม้ว่าเขาจะเป็นลูกของเอี้ยคัง แต่กลับไม่ได้ให้ความรู้สึกต่อต้านเหมือนที่คาดไว้ กลับกัน เพียงแค่เขาปรากฏตัวในเรื่อง เหล่าสยงก็รู้สึกอินและเกิดความสงสารอย่างลึกซึ้ง
เหล่าสยงคิดวิเคราะห์ในใจว่า
‘นิสัยที่แตกต่างจากก๊วยเจ๋งโดยสิ้นเชิง เอี้ยก่วยมีความฉลาดแกมโกงในตัวเอง ซึ่งคล้ายกับอึ้งย้งตอนที่ปรากฏตัวครั้งแรกในมังกรหยก ทำให้คนอ่านรู้สึกชอบเขาตั้งแต่แรกพบ หากพูดถึงความน่ารักน่าเอ็นดู เอี้ยก้วยอาจจะชนะก๊วยเจ๋งวัยหนุ่มไปหนึ่งก้าว อึ้งย้งที่ไม่ชอบเอี้ยก้วย อาจจะไม่ใช่เพียงเพราะเขาเป็นลูกของเอี้ยคัง แต่อาจเป็นเพราะความฉลาดแกมโกงในตัวเขาด้วย’
เหล่าสยงถอนหายใจในใจ
ในขณะที่เซียวเหล่งนึ่งคือหญิงสาวที่ไร้ซึ่งกลิ่นอายแห่งโลกียะ บริสุทธิ์ดุจดั่งเซียนจากสวรรค์มาจุติ แต่กลับมีความไร้เดียงสาและความสดใสที่ไม่อาจบรรยายได้
เมื่อเทียบกับอึ้งย้งแล้ว ทั้งคู่กลับมีเสน่ห์ที่แตกต่างกันอย่างงดงาม!
หรือว่าโครงเรื่องของเล่มนี้เริ่มเผยออกมาแล้ว! เอี้ยก้วยและเซียวเหล่งนึ่งที่ดูเหมือนจะเป็นคู่ศิษย์อาจารย์ แต่อนาคตกลับเต็มไปด้วยความเป็นไปได้ที่น่าสนใจ
เหล่าสยงยังอ่านไม่ถึงตอนหลังแต่ก็อดจินตนาการไม่ได้ว่า “ต้องยอมรับว่าฉู่ขวงเก่งจริงๆ ในการเขียนตัวละครหญิง คู่ก๊วยเจ๋งและอึ้งย้งที่เป็นคู่รักแห่งชาติอาจต้องเจอคู่แข่งแล้วก็ได้ ถ้าเซียวเหล่งนึ่งไม่ใช่นางเอกละก็ ฉันอาจจะต้องคิดส่งมีดไปให้ฉู่ขวงแล้ว ถึงแม้ครั้งที่แล้วตอนบล็อกจัดกิจกรรมส่งมีดทั้งสำนักพิมพ์ซิลเวอร์บลูของพวกเราจะแอบส่งกันไปเพียบ ฉันเองยังยืมบัญชีญาติๆ ส่งไปเพิ่มอีกเลย ยังไงเขาก็ไม่รู้…”
เหล่าสยงไม่คิดอะไรมากอีกต่อไป แล้วอ่านเรื่องราวต่อ
พล็อตเรื่องช่างน่าดึงดูดใจอย่างมาก
กระทั่งยังน่าติดตามยิ่งกว่ามังกรหยกเสียอีก
เหล่าสยงรู้สึกกระหายที่จะรู้ว่าอนาคตของเอี้ยก้วยจะเป็นอย่างไร
และแรงขับเคลื่อนนี้เองที่ทำให้การอ่านสนุกไม่หยุดพัก ซึ่งนั่นก็เป็นพื้นฐานสำคัญที่ทำให้หนังสือเล่มหนึ่งกลายเป็นปรากฏการณ์ยอดฮิตได้
เหล่าสยงราวกับมองเห็นอนาคตอันรุ่งโรจน์ของศึกเทพอภินิหารจ้าวอินทรีที่กำลังจะเกิดขึ้น!
ทว่าทันใดนั้นเอง
เมื่อเหล่าสยงกดเปิดบทใหม่อย่างกระตือรือร้น ร่างกายกลับชะงักราวถูกแช่แข็ง
เสียงคำรามดังก้องในหัวใจ!
นักรบขี่มังกรมาถึงแล้ว!
เหล่าสยงราวกับถูกสายฟ้าฟาดแสกหน้า สีหน้ายิ้มแย้มพลันหายไปในพริบตา แปรเปลี่ยนเป็นความขาวซีด ความแดงฉานในดวงตาทวีความเข้มจัด หายใจติดขัดอย่างรุนแรง ราวกับโลกทั้งใบพลันล่มสลาย!
ทันใดนั้นเอง
เสียงคำรามที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้นและความทุกข์ทรมานอย่างถึงที่สุดพลันดังก้องขึ้นในคลังหนังสือซิลเวอร์บลู ทำเอาบรรณาธิการในทุกแผนกตกใจจนสะดุ้งโหยง
“เจ้าแก่ฉู่ขวง ตายซะเถอะ!!!”
ในชั่วขณะนั้น ความมืดมิดอันไร้ที่สิ้นสุดเข้าครอบงำแววตาตาของเหล่าสยงอย่างสมบูรณ์

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอน 837-839 ไม่มีข้อความเลยครับ...