เข้าสู่ระบบผ่าน

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน นิยาย บท 906

ตอนที่ 906 ผมจะหักขาคุณแน่

ไม่ว่าเหล่าสยงจะมีปฏิกิริยาอย่างไร หลังจากที่ฉู่ขวงได้ส่งสัญญาณเตือนไว้ล่วงหน้า ข่าวการเปิดตัวศึกเทพอภินิหารจ้าวอินทรีก็ได้รับการประกาศอย่างเป็นทางการ

คลังหนังสือซิลเวอร์บลู

‘ศึกเทพอภินิหารจ้าวอินทรี ผลงานนิยายกำลังภายในเรื่องใหม่ของฉู่ขวงกำลังอยู่ในระหว่างการจัดพิมพ์อย่างเร่งด่วน นี่คือภาคต่อของมังกรหยก เรื่องราวของความรักระหว่างก๊วยเจ๋งและอึ้งย้งจะได้รับการขยายและเติมเต็มมากขึ้น อีกทั้งยังจะมีการเปิดเผยชะตากรรมของตัวละครชุดเดิมจากมังกรหยก อย่างละเอียดในนิยายภาคใหม่นี้ ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง!’

ในขณะนั้น

บังเอิญกับช่วงที่ซีรีส์มังกรหยกออกอากาศถึงตอนจบ ไม่ว่าจะเป็นแฟนนิยายหรือแฟนซีรีส์ ต่างก็รู้สึกยังไม่หนำใจกับเรื่องราวของมังกรหยก

ท่ามกลางความรู้สึกที่ยังตราตรึงนี้

ผู้คนกลับได้เห็นคำว่าภาคต่อของมังกรหยกปรากฏขึ้น ความตื่นเต้นยินดีจึงยากเกินบรรยาย!

คำโปรยต่างๆ ที่อยู่ในโฆษณานั้นล้วนเต็มไปด้วยแรงดึงดูดมหาศาล ทว่าเหล่าชาวเน็ตกลับสามารถสกัดคำสำคัญออกมาได้อย่างรวดเร็ว

‘ภาคต่อของมังกรหยก!’

คำนี้ช่างทรงพลังอย่างยิ่ง สามารถจุดกระแสให้แฟนๆ นิยายและซีรีส์เกิดความตื่นเต้นจนถึงขีดสุด!

บนโลกออนไลน์

‘มีภาคต่อด้วยเหรอ!!!’

‘อ๊ากกกก ฉันรักเจ้าแก่ฉู่ขวงจริงๆ คราวนี้เขาเปิดใจแล้วสินะ รู้จักเขียนภาคต่อสักที! ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น หนังสือออกเมื่อไหร่ ฉันซื้อทันที!’

‘ซื้อๆๆๆๆ !’

‘อาจารย์ฉู่ขวง เกรียงไกร!’

‘ตอนนี้พรีออเดอร์ศึกเทพอภินิหารจ้าวอินทรีได้เลยไหม!’

‘ในชีวิตนี้ผมไม่คิดว่าจะได้เห็นฉู่ขวงออกตัวเขียนภาคต่อเอง นี่แสดงว่าเจ้าแก่คนนี้ยังพอใจกับเรื่องมังกรหยกอยู่ใช่ไหมเนี่ย! อีกอย่าง ผมต้องบอกว่าชื่อของนิยายเล่มใหม่ถูกใจผมมาก!’

วงการนิยายกำลังภายใน

“ถ้านิยายกำลังภายในจะฟื้นคืนชีพจริงๆ ฉู่ขวงจะต้องเป็นผู้มีคุณูปการยิ่งใหญ่ที่สุดในการปฏิวัติวงการครั้งนี้ มังกรหยก คือจุดเริ่มต้น และนิยายเล่มใหม่ของเขาจะทำให้คนอีกมากมายหันกลับมาสนใจกำลังภายในอีกครั้ง!”

“ไม่แปลกใจเลย!”

“ผมว่าแล้วเชียว ตอนจบของมังกรหยกดูเหมือนยังมีช่องว่างเหลืออยู่ ตัวละครหลายตัวยังไม่ได้บทสรุปที่สมบูรณ์แบบ รวมถึงการพัฒนาตัวละครก๊วยเจ๋งก็ยังไม่ถึงที่สุด มีภาคต่อแบบนี้ ทุกอย่างชัดเจนขึ้นมาเลย ดูเหมือนว่าการที่ฉู่ขวงเขียนนิยายกำลังภายในไม่ใช่แค่เรื่องบังเอิญ แต่คือแผนการที่เขาคิดไว้ล่วงหน้าแล้ว!”

“ใช่เลย”

“ก่อนหน้านี้เขาไม่ได้ปล่อยนิยายใหม่มานาน น่าจะเป็นเพราะกำลังเตรียมตัวสำหรับมังกรหยกและเรื่องราวภาคต่อ คราวนี้พอปล่อยออกมาก็สร้างความฮือฮาในวงการกำลังภายในทันที ศึกเทพอภินิหารจ้าวอินทรีชื่อนี้สอดคล้องกับภาคก่อนอย่างลงตัว ทั้งมีคำว่า ‘จ้าวอินทรี’ และยังคงเรื่องราวของ ‘คู่รักจอมยุทธ์[1]’ เหมือนเดิม”

“ไม่ใช่แค่ผู้อ่านที่ตั้งตารอ ผมเองก็ตื่นเต้นไม่แพ้กัน!”

“ความสนุกของมังกรหยกเป็นสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อน ถ้าเป็นคนอื่นเขียนภาคต่อ ผมคงกลัวว่าจะเสียของ แต่ถ้าเป็นฉู่ขวง ผมกลับรู้สึกว่าเขาอาจสร้างปรากฏการณ์ใหม่ขึ้นมาอีกก็เป็นได้!”

วงการซีรีส์

“มังกรหยกมีภาคต่ออีกเหรอ! ลิขสิทธิ์ศึกเทพอภินิหารจ้าวอินทรีจะซื้อมาได้ไหม?”

“รีบติดต่อฉู่ขวงเลย!”

“มังกรหยกดังระเบิดไปแล้ว ศึกเทพอภินิหารจ้าวอินทรีถ้าทำเป็นซีรีส์ต้องปังแน่!”

“ฉันไม่สนว่าฉู่ขวงจะมีความสัมพันธ์ยังไงกับเซี่ยนอวี๋หรือสตาร์ไลท์ ตอนนี้ฉันสนแค่อยากได้ลิขสิทธิ์ศึกเทพอภินิหารจ้าวอินทรีเท่านั้น เรื่องงบประมาณฉันจัดการเอง พวกคุณรีบติดต่อทางนั้นเดี๋ยวนี้เลย!”

“รีบไปเจรจาลิขสิทธิ์สำหรับทำซีรีส์เดี๋ยวนี้!”

“จะปล่อยให้สตาร์ไลท์เปรียบต่อไปอีกไม่ได้ เราต้องคว้าลิขสิทธิ์ของฉู่ขวงมาให้ได้!”

“ด้วยความสำเร็จของมังกรหยก กระแสซีรีส์แนวกำลังภายในในวงการซีรีส์กำลังร้อนแรงมาก ตอนนี้คนทั้งประเทศกำลังตั้งตารอภาคต่อของมังกรหยก รีบติดต่อฉู่ขวงให้ได้ ไม่ว่าต้องแลกด้วยอะไร! ใครได้ลิขสิทธิ์เรื่องนี้ คนนั้นชนะ!”

ทุกฝ่ายเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว!

กริ้งๆๆๆๆๆๆ

โทรศัพท์ของจินมู่สายแทบไหม้!

บริษัทผลิตซีรีส์รายใหญ่ต่างพากันติดต่อเข้ามาเพื่อขอซื้อลิขสิทธิ์ ศึกเทพอภินิหารจ้าวอินทรี!

แม้ว่าลิขสิทธิ์งานเขียนของฉู่ขวงจะได้รับความนิยมในวงการ แต่ไม่เคยมีผลงานเรื่องใดได้รับการตอบรับอย่างท่วมท้นเช่นนี้มาก่อน!

หนังสือยังไม่ทันตีพิมพ์ ทว่าบรรดาบริษัทภาพยนตร์ต่างก็เหมือนคนเสียสติ พากันโบกเงินก้อนโตเพื่อขอซื้อสิทธิ์ดัดแปลงผลงานเป็นซีรีส์!

สำหรับทั้งเหล่าสยงและจินมู่ การได้อ่านนิยายของฉู่ขวงก่อนใครนับเป็นความภาคภูมิใจอย่างที่สุด ตัวอย่างเช่น ศึกเทพอภินิหารจ้าวอินทรีซึ่งแม้เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน แต่จากสายโทรศัพท์ที่เพิ่งเข้ามาเมื่อครู่ ก็แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนแล้วว่า ราคาลิขสิทธิ์ในการผลิตภาพยนตร์หรือซีรีส์จากนิยายเล่มนี้เป็นตัวเลขที่น่าตกตะลึงมากเพียงใด

นี่ไม่ใช่แค่นิยายธรรมดาอีกต่อไป แต่มันคือเหมืองทองคำล้ำค่า!

“งั้นคุณอ่านไปก่อนแล้วกัน”

เสียงของหลินเยวียนเบาลงทันใด

“ผมมีธุระ ไปก่อนนะครับ หลังจากนี้อาจจะไม่ได้มาที่สตูดิโออีกหลายวัน”

“ธุระอะไรยุ่งขนาดนั้นครับ”

จินมู่เงยหน้ามองหลินเยวียนด้วยความสงสัย

หลินเยวียนหลบสายตาของจินมู่ “ธุระส่วนตัว”

จินมู่ละสายตากลับไปที่หน้าจอ “มีอะไรก็โทรมาแล้วกันครับ”

“ได้ครับ”

เมื่อเห็นว่าจินมู่ไม่ได้ถามอะไรต่อและก้มหน้าก้มตาอ่านศึกเทพอภินิหารจ้าวอินทรีต่อไป หลินเยวียนจึงรีบเร่งฝีเท้าออกไปอย่างรวดเร็ว

และหนึ่งนาทีให้หลัง

จู่ๆ จินมู่ซึ่งนั่งอยู่หน้าจอ ก็สายตาแข็งค้างไปทันใด เข่าแทบทรุดลงไปตรงนั้น

“บัดซบ! มีดของฉันอยู่ไหน!”

เขาถึงกับหลุดคำหยาบออกมา ก่อนจะลุกพรวดขึ้นยืน กวาดสายตามองหลินเยวียน แต่พบว่าอีกฝ่ายออกไปแล้ว ไม่เห็นแม้แต่เงา

“อ๊ากกกก!”

จินมู่แทบจะคลั่งตาย ผลจากนักรบขี่มังกรนั้นรุนแรงจนเหลือรับ!

ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่าทำไมหลินเยวียนถึงถามว่าเขาอ่านไปถึงไหนแล้ว ทำไมถึงรีบหนีไปอย่างรวดเร็ว และทำไมถึงบอกว่าจะไม่มาที่สตูดิโอไปอีกหลายวัน เขากล้าเขียนพล็อตเรื่องแบบนี้ได้ยังไง!

หลินเยวียนถ้าคุณกล้ากลับมา

ผมจะหักขาคุณแน่!!!

………………………………………………….

[1] คู่รักนักสู้ มาจากคำแปลตรงตัวของภาคต่อมังกรหยก ‘คู่รักจอมยุทธ์จ้าวอินทรี’ ทว่าในเวอร์ชันภาษาไทยรู้จักกันในชื่อ ‘ศึกเทพอภินิหารจ้าวอินทรี’

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน