เข้าสู่ระบบผ่าน

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน นิยาย บท 918

ตอนที่ 918 มังกรหยกไตรภาค

วันที่ 25 เมษายน

รางวัลดรากอนอวอร์ดประกาศรายชื่อภาพยนตร์ซึ่งได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงอย่างเป็นทางการ

ภาพยนตร์สองเรื่องของเซี่ยนอวี๋จากปีที่แล้ว ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงในหลายรางวัลตามค

โดยเรื่องชีวิตมหัศจรรย์ ทรูแมนโชว์ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงถึงสี่สาขา ได้แก่ นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ผู้กำกับยอดเยี่ยม และภาพยนตร์ยอดเยี่ยม

ส่วนเรื่องชีวิตอัศจรรย์ของพาย ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงถึงหกสาขา ได้แก่ เทคนิคพิเศษยอดเยี่ยม กำกับภาพยอดเยี่ยม นักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยม ผู้กำกับยอดเยี่ยม บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และภาพยนตร์ยอดเยี่ยม

ทันใดนั้น

เรื่องนี้ก็กลายเป็นประเด็นร้อนบนโลกออนไลน์!

‘ใครยังกล้าพูดอีกไหมว่าเซี่ยนอวี๋จริงจังกับดนตรี แต่ทำหนังแล้วเหยาะแหยะไม่แสดงฝีมือออกมาเต็มที่ รอบนี้เล่นเข้าชิงไปสิบรางวัลเลยนะ!’

‘สุดยอดไปเลย!’

‘เสียดายที่มีการเสนอชื่อเข้าชิงซ้ำกันอยู่หลายสาขา’

‘ทั้งสองเรื่องได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงในสามรางวัลใหญ่ ได้แก่ผู้กำกับยอดเยี่ยม บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ซึ่งหมายความว่าเซี่ยนอวี๋ต้องแข่งกับคู่แข่งคนอื่นๆ แล้วยังต้องแข่งกับตัวเองอีก’

‘แบบนี้ก็มีข้อดีเหมือนกัน’

‘เห็นด้วย เพราะมีภาพยนตร์เข้าชิงมากกว่าคนอื่นหนึ่งเรื่อง โอกาสได้รางวัลก็มากขึ้นด้วย’

‘ต้องรอดูผลประกาศรางวัลว่าจะออกมาเป็นยังไง’

การได้รับเสนอชื่อเข้าชิงกับการได้รับรางวัลจริงเป็นคนละเรื่องกัน ดังนั้น ถึงจะเป็นที่พูดถึงอย่างมาก แต่สิ่งที่ผู้คนสนใจจริงๆ ก็คือผลประกาศรางวัลอย่างเป็นทางการในช่วงปลายเดือนนี้

เนื่องจากพิธีมอบรางวัลจะจัดขึ้นในวันที่ 30 เมษายน

หลังจากที่หลินเยวียนรู้ว่าตนเองได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล เขาก็ไม่ได้สนใจงานดรากอนอวอร์ดนี้อีกต่อไป เพราะการได้รับเสนอชื่อเข้าชิงไม่ได้หมายความว่าจะได้รับรางวัล

ในตอนนี้เขากำลังคิดเกี่ยวกับเรื่องหนึ่ง

ควรเขียนมังกรหยกไตรภาคให้จบในคราวเดียวเลยหรือไม่?

ไม่นานหลินเยวียนก็ได้คำตอบ เขาเตรียมตัวเขียนดาบมังกรหยกออกมา

ในเมื่อหนังสือเล่มนี้ไม่ช้าก็เร็วก็ต้องเขียนอยู่แล้ว ไม่สู้ใช้กระแสความนิยมของสองภาคก่อนหน้าให้เป็นประโยชน์ ให้ดาบฆ่ามังกรและกระบี่อิงฟ้าปรากฏสู่โลกไปเสียเลยดีกว่า

“เป็นโรคย้ำคิดย้ำทำสินะ…”

หลินเยวียนพึมพำกับตัวเอง

สองเล่มแรกของมังกรหยกไตรภาคนั้นเขียนออกมาแล้ว หากไม่เขียนภาคสุดท้ายให้จบไปพร้อมกันก็คงรู้สึกเหมือนขาดอะไรไป

แน่นอนว่า

คำว่าย้ำคิดย้ำทำเป็นเพียงเรื่องล้อเล่นเท่านั้น เหตุผลแท้จริงที่หลินเยวียนตัดสินใจเขียนดาบมังกรหยกก็คือ ระบบยังไม่ยอมรับว่ากระแสนิยมของนิยายกำลังภายในได้ฟื้นคืนชีพแล้ว

นั่นหมายความว่าภารกิจของเขายังไม่สำเร็จ!

ในสตูดิโอ เมื่อจินมู่ได้ยินแนวคิดเกี่ยวกับมังกรหยกไตรภาคจากปากของหลินเยวียน สีหน้าของเขากลับเต็มไปด้วยความประหวั่นพรั่นพรึง

“นิยายเล่มใหม่นี้จะดราม่ากว่าศึกเทพอภินิหารจ้าวอินทรีหรือเปล่าครับ!?”

“คราวนี้เป็นตัวเอกเทพ”

“ฉู่ขวงกลับตัวกลับใจแล้วเหรอ?”

จินมู่ไม่เชื่อ ยังคงหยิบมุกบนอินเทอร์เน็ตมาแซวหลินเยวียน

หลินเยวียนก็ไม่ได้อธิบายอะไรอีกต่อไป รอให้จินมู่ได้อ่านนิยายเล่มใหม่ก็จะรู้เอง หากพูดถึงนิยายกำลังภายในของกิมย้งทั้งหมด ดาบมังกรหยกนับว่าเป็นหนึ่งในนิยายที่มีโครงสร้างแบบตัวเอกเทพชัดเจนที่สุด เรื่องราวต่างๆ ที่พระเอกอย่างเตียบ่อกี้ได้พบเจอ นับเป็นจุดสูงสุดของความสะใจในบรรดาพระเอกทุกคนใต้ปลายปากกาของของกิมย้งเลยก็ว่าได้!

เมื่อเห็นว่าหลินเยวียนแสดงท่าทีเหมือนไม่ใส่ใจ จินมู่จึงเลือกที่จะเชื่อเขาอีกครั้ง

แต่แล้วดวงตาของเขาก็ฉายแววคาดหวังขึ้นมา “ในเมื่อคุณกำลังสร้างมังกรหยกไตรภาค แล้วในนิยายเล่มใหม่จะมีก๊วยเซียงปรากฏตัวด้วยไหม?”

เช่นเดียวกับผู้อ่านหลายคนที่อ่านศึกเทพอภินิหารจ้าวอินทรีจบแล้ว

จินมู่เองก็มี ‘ปมก๊วยเซียง’ ในใจอย่างลึกซึ้ง และชื่นชอบตัวละครนี้เป็นพิเศษ

“พอนับว่ามีก็ได้ล่ะมั้งครับ”

หลินเยวียนบอก “นิยายเล่มใหม่จะเปิดเรื่องด้วยก๊วยเซียง แต่เธอไม่ใช่ตัวเอก เพราะเรื่องราวนี้เกิดขึ้นหลังศึกเทพอภินิหารจ้าวอินทรีกว่าร้อยปี”

“หลังจากนั้นร้อยปี?”

จินมู่ได้ยินแบบนั้นก็ถึงกับหัวเราะออกมา “ภาคที่สามนี่ช่องว่างของเวลามากไปหน่อยไหมครับ ในช่วงเวลาของภาคสาม ตัวละครจากภาคที่แล้วก็คงเสียชีวิตไปหมดแล้ว บทสรุปของพวกเขาจะมีการกล่าวถึงไหม?”

“แน่นอน”

หลินเยวียนเปิดเผยเล็กน้อย “จุดสำคัญของเล่มสามคือการสรุปชะตากรรมของตัวละครจากสองภาคก่อน และยังเป็นการเติมเต็มปริศนาที่ถูกทิ้งไว้ในบทสุดท้ายของศึกเทพอภินิหารจ้าวอินทรี”

“ปริศนาในบทสุดท้าย?”

จินมู่ชะงักไปครู่หนึ่ง ทันใดนั้นก็นึกขึ้นได้ “คุณหมายถึงหลวงจีนน้อยจางจวิ้นเป่าที่โผล่มาแบบงงๆ ตอนท้ายของศึกเทพอภินิหารจ้าวอินทรีใช่ไหม?”

ในตอนจบของศึกเทพอภินิหารจ้าวอินทรี

เตียกุนป้อได้ปรากฏตัวขึ้นเป็นครั้งแรก และได้รับคำชี้แนะจากเอี้ยก้วยก่อนจะประมือกับอีเคอซี เผยให้เห็นพรสวรรค์ด้านวรยุทธ์อันน่าเหลือเชื่อ

ฉากนี้เคยดึงดูดความสนใจของผู้อ่านบางส่วนมาก่อน แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ถูกพูดถึงมากนัก จินมู่ไม่คิดเลยว่าตัวละครที่ปรากฏเพียงช่วงสั้นๆ ในบทสุดท้ายของศึกเทพอภินิหารจ้าวอินทรีจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับนิยายเรื่องใหม่ของฉู่ขวง ซึ่งเป็นภาคสุดท้ายของมังกรหยกไตรภาค

หลวงจีนน้อยจางจวิ้นเป่า?

ชื่อเรียกนี้ฟังดูขัดหูไม่น้อย

หลินเยวียนกล่าวว่า “ต่อไปเขาจะถูกเรียกว่าเตียจิงนั้ง เขาจะกลายเป็นเจ้าสำนักบู๊ตึ๊ง เป็นตำนานแห่งยุคสมัย”

จินมู่ชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะถามอย่างสงสัย “บู๊ตึ๊งเกี่ยวข้องกับลัทธิเต๋าใช่ไหม ตำนานแห่งยุคสมัย เตียจิงนั้ง คำนี้ไม่ใช่เล่นๆ เลยนะ คุณคงไม่ได้ให้เตียกุนป้อเป็นพระเอกของเล่มใหม่นี้ใช่ไหม แต่ระยะเวลามันดูไม่สอดคล้องกันเลย หรือว่าเขามีชีวิตอยู่เกินร้อยปี?”

หลินเยวียนพยักหน้า “ถูกต้อง แต่เขาไม่ใช่ตัวเอกของเรื่อง ตัวเอกตัวจริงคือศิษย์หลานของเขา”

“โอเคครับ”

จินมู่สามารถยอมรับพล็อตเรื่องเช่นนี้ได้ “แต่นี่มันมังกรหยกไตรภาค มีความเชื่อมโยงแค่นี้เองเหรอครับ?”

“แน่นอนว่าไม่ใช่แค่นั้น ยังมีเจ้าค่างขาวที่ติดตามอีเคอซีด้วย”

“ค่างขาว?”

“เรื่องนี้เดี๋ยวค่อยว่ากัน เอาเป็นว่าลูกหลานของเอี้ยก้วยก็จะมีการกล่าวถึงในนิยายเล่มใหม่ด้วย จะมีการพูดถึงศึกเทพอภินิหารจ้าวอินทรีอยู่บ้าง พอถึงเวลานั้นอาจินจะเข้าใจเอง แล้วก็ อาจินยังจำกระบี่เหล็กนิลดำของเอี้ยก้วยได้ไหม?”

“จำได้สิครับ!”

นั่นเป็นฉากที่เร้าใจที่สุดฉากหนึ่งในศึกเทพอภินิหารจ้าวอินทรี

เอี้ยก้วยได้พบกับเทพอินทรี และได้รับกระบี่เหล็กนิลดำที่สืบทอดมาจากต๊กโกวคิ้วป่าย!

หลินเยวียนกล่าวถึงเรื่องราวต่อมาของกระบี่เหล็กนิลดำ “ท้ายที่สุดเอี้ยก้วยก็มอบกระบี่เหล็กนิลดำให้กับก๊วยเซียง หลังจากนั้นอึ้งย้งและก๊วยเจ๋งได้ตัดสินใจหลอมกระบี่เหล็กนิลดำ แล้วแบ่งออกเป็นสองชิ้นเพื่อใช้สืบสานภารกิจต่อต้านมองโกล ชิ้นหนึ่งเป็นดาบ ชิ้นหนึ่งเป็นกระบี่”

“ชิ้นหนึ่งเป็นดาบ ชิ้นหนึ่งเป็นกระบี่?”

“ใช่แล้วครับ กลายเป็นดาบฆ่ามังกรกับกระบี่อิงฟ้า”

“ชื่อฟังดูยิ่งใหญ่มาก!”

“ยิ่งใหญ่จริงนั่นแหละ และมันก็เป็นจุดเริ่มต้นของการนองเลือดในยุทธภพ พ่อแม่ของตัวเอกในเล่มใหม่ก็ตายเพราะเหตุผลนี้”

“พล็อตสไตล์ยุทธภพก็ยังหนีไม่พ้นต้องกำพร้าพ่อแม่สินะ”

“ความแค้นเป็นแรงผลักดันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการสร้างสรรค์นิยาย และเป็นองค์ประกอบที่ใช้ได้ผลเสมอ”

ตอนที่ 918 มังกรหยกไตรภาค 1

ตอนที่ 918 มังกรหยกไตรภาค 2

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน