ตอนที่ 922 โถงทางเดินเลเซอร์
ผู้ชมทุกคนสีหน้าเปลี่ยนไปทันที บางคนที่ขี้กลัวถึงกับหน้าซีดเผือด!
“โว้ย!”
“ตกใจแทบตาย!”
“จู่ๆ ศพผู้หญิงก็ลืมตาขึ้นมาพร้อมกับดนตรีแบบนี้ ชวนขนลุกสุดๆ!”
“ศพผู้หญิงคนนี้คือซอมบี้ในหนังหรือเปล่า?”
“ฉันเกือบลืมไปเลยว่านี่มันหนังซอมบี้ เปิดเรื่องมาตั้งนานแล้วยังไม่เห็นร่องรอยของซอมบี้เลย กลับมีการพูดถึงระบบสมองกลอัจฉริยะแทน”
“สมกับเป็นไอเดียสุดล้ำของพ่อเพลงอวี๋ เขากำลังพยายามนำสิ่งที่ไม่สมเหตุสมผลอย่างซอมบี้ มาผสมผสานกับวิทยาศาสตร์เหรอ?”
“การออกแบบระบบราชินีแดงน่าสนใจมาก ตรงกับวายร้ายในนิทานเรื่องอลิซในแดนมหัศจรรย์ของฉู่ขวงพอดี นี่เรียกว่าการอ้างอิงและคารวะหรือเปล่า?”
“ไม่แปลกใจเลยที่ตอนต้นเรื่องจะไม่มีใครรอดจากหายนะของบริษัทได้ เพราะระบบทุกอย่างรวมถึงลิฟต์ถูกควบคุมโดยสมองกลอัจฉริยะราชินีแดง!”
“พวกนางเอกยังไม่ทันสังเกตว่าศพลืมตาแล้ว!”
ผู้ชมพากันถอนหายใจอย่างโล่งอกเล็กน้อย แต่หลังจากนั้นสายตาก็เต็มไปด้วยความอยากรู้มากยิ่งขึ้น
การพัฒนาของเนื้อเรื่องในเชิงวิทยาศาสตร์นั้นเหนือกว่าการรับรู้ จนทำให้ผู้ชมทุกคนรู้สึกเกินความคาดหมาย โดยเฉพาะแนวคิดเกี่ยวกับสมองกลอัจฉริยะที่ทำให้ผู้ชมถึงกับตกตะลึง และสิ่งนี้เองที่ทำให้ทุกคนตั้งตารอความต่อเนื่องของเรื่องราวด้วยความคาดหวังที่เพิ่มขึ้น
ในเวลานี้
ถึงแม้เนื้อเรื่องจะเปิดเผยบางปมปริศนาไปแล้ว แต่ก็ยังมีบางปมที่ยังคงคลุมเครือ เช่นบทบาทของนางเอกและชายสองคนในเหตุการณ์ครั้งนี้เกี่ยวข้องกับเรื่องราวอย่างไร
พวกเขาทุกคนสูญเสียความทรงจำ
แล้วในความทรงจำที่สูญหายไปนั้น ซ่อนความจริงแบบไหนเอาไว้?
ใครเป็นคนดี?
ใครเป็นคนร้าย?
ที่นั่งแถวที่หก
ถูเจิ้งกล่าวขึ้นว่า “จังหวะของหนังสมบูรณ์แบบจริงๆ”
เจี่ยฮ่าวเหรินที่นั่งข้างๆ พยักหน้าเห็นด้วย “การออกแบบปริศนาพลิกแพลงไปมาหลายรูปแบบ”
ความลุ้นระทึกที่ชวนให้ตื่นเต้นถูกซ้อนทับกันทีละชั้นๆ ราวกับว่าเหตุการณ์ทั้งหมดถูกปกคลุมด้วยม่านหมอกแห่งความลึกลับ!
และในขณะที่ผู้ชมเริ่มรู้สึกเหมือนจะไม่เข้าใจเนื้อเรื่อง ผู้เขียนบทกลับเผยคำตอบของปริศนาบางส่วนออกมา!
การออกแบบที่แยบยลเช่นนี้ไม่เพียงแต่จะไม่ทำให้ผู้ชมหมดความสนใจ แต่ยังกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของผู้ชมให้สำรวจปริศนาอื่นๆ มากขึ้นอีกด้วย!
และมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ
ตอนนี้สายตาของผู้ชมทั้งหมดถูกตรึงไว้ที่ภาพยนตร์อย่างสมบูรณ์!
…
ภาพยังคงดำเนินต่อไป
ฉากเทคโนโลยีขั้นสูงถูกนำมาใช้อย่างต่อเนื่อง
นั่นแตกต่างจากเวอร์ชันต้นฉบับที่มีฉากเทคโนโลยีที่เรียบง่ายอย่างสิ้นเชิง
ทั้งห้องวิจัยให้ความรู้สึกถึงเทคโนโลยีล้ำยุคในโลกอนาคต โดยเฉพาะภาพที่แสดงให้เห็นมุมมองของราชินีแดงซึ่งสแกนผ่านกล้องวงจรปิดและให้ความรู้สึกถึงความลึกลับและอันตราย
ในนาทีที่ 30 ของภาพยนตร์
ตัวละครกลุ่มนี้ต้องเดินผ่านโถงทางเดินแห่งหนึ่ง
หัวหน้าทีมติดตั้งอุปกรณ์กับประตูเหล็กที่ล็อกอยู่ และด้วยความช่วยเหลือจากทีมเทคนิคก็สามารถปลดล็อกได้สำเร็จ
“เริ่มปฏิบัติการ!”
หัวหน้าสั่งการทันที
เจ้าหน้าที่ติดอาวุธหลายคนเดินตามเขาเข้าไปในทางเดิน
แต่แล้วทันใดนั้นเอง เมื่อหัวหน้าพร้อมเจ้าหน้าที่อีกสี่คนอยู่ในทางเดิน ประตูทั้งด้านหน้าและด้านหลังของทางเดินกลับปิดลงอย่างกะทันหัน!
ทันใดนั้น
หนึ่งในเจ้าหน้าที่ซึ่งถูกขังอยู่ในทางเดินมองไปยังปลายทางเดินด้วยแววตางุนงงและเอ่ยขึ้นด้วยความสงสัย
“นั่นมันอะไร”
คำพูดยังไม่ทันจบดี แสงเลเซอร์สีขาวที่พาดเชื่อมระหว่างผนังทั้งสองด้านก็พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว!
“หมอบลง!”
หัวหน้าทีมหน้าถอดสี รีบสั่งการพร้อมหมอบตัวลงกับพื้นอย่างรวดเร็ว!
ทันใดนั้น
หนึ่งในเจ้าหน้าที่ติดอาวุธถูกลำแสงเลเซอร์สีขาวตัดนิ้วทั้งห้าข้างอย่างเรียบกริบ ทำให้เขาร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด!
ในขณะเดียวกัน
เจ้าหน้าที่หญิงอีกคนที่ไม่ได้ทันตั้งตัว ถูกเลเซอร์พุ่งผ่านร่างอย่างรวดเร็ว
ภายใต้สายตาจับจ้องของผู้ชมทั้งโรงฉาย
ที่ลำคอของเจ้าหน้าที่หญิงคนนั้นปรากฏรอยแผลเลือดซึมเป็นเส้นบางๆ
ทันใดนั้น
ศีรษะของเจ้าหน้าที่หญิงก็หลุดร่วงลงมา!
ภาพที่เกิดขึ้นสร้างความสะพรึงกลัวไปทั่วทั้งโรงภาพยนตร์ในทันที!
และในขณะที่ผู้ชมทุกคนยังคงตกตะลึงกับเหตุการณ์ตรงหน้า
ลำแสงเลเซอร์ที่ปลายทางเดินก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง!
ฟิ้ว!
เมื่อศีรษะถูกตัดขาด และเมื่อเลเซอร์กลายเป็นตาข่าย มีผู้คนมากมายที่ดูฉากนี้แล้วรู้สึกหวาดผวาจนเกิดเป็นเงามืดในใจ
แม้ว่าหลายคนอาจจะลืมเนื้อเรื่องบางส่วนหลังดูจบ แต่พวกเขาจะไม่มีวันลืมโถงทางเดินมรณะแห่งนี้อย่างเด็ดขาด!
ความตื่นตะลึงนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงในโรงภาพยนตร์แห่งนี้เท่านั้น
แต่ในโรงภาพยนตร์ทุกแห่งบนบลูสตาร์ที่กำลังฉายเรื่องผีชีวะอยู่นั้น ผู้ชมต่างขนลุกซู่ไปตามๆ กัน!
“พระเจ้าช่วย!”
“พระเจ้า!”
“ฉากนี้ยิ่งดูยิ่งสยอง!”
“เลเซอร์แบบนี้ไร้ทางหนี เว้นแต่ว่าต้องมีใครไปปิดระบบเท่านั้น!”
“ปิดได้แล้วก็จริง แต่ไม่ทันแล้ว! สี่คนนี่ใช้เวลาแค่ไม่กี่วินาทีเองก็ตุยไปเรียบร้อยแล้ว!”
“ดีนะที่ไม่เข้าไปกันหมด!”
“ถ้าเข้าไปหมดละก็ หมดทีมแน่นอนเลยสินะ?”
…
ถูเจิ้งสูดลมหายใจลึก เหงื่อเย็นไหลซึมเต็มหน้า
ฉากนี้ออกแบบได้ชวนสยองจริงๆ เรียกได้ว่าคลาสสิกจนเกินบรรยาย!
จะว่านองเลือด ก็ไม่มีภาพเลือดสาดแบบชัดๆ จะว่าน่ากลัว ดนตรีประกอบก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกหลอน…
แต่กลับสยองขวัญ!
ความสยองขวัญนี้มาจากความตื่นตะลึงที่ภาพนำเสนอ!
เพราะทุกคนที่เห็นภาพฉากนี้ จะเผลอเข้าถึงบทบาทกลายเป็นตัวละครในสถานการณ์นั้นโดยไม่รู้ตัว ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเป็นการชมแบบสามมิติด้วยตาเปล่า
แค่ลองจินตนาการตามเพียงเล็กน้อย ก็รู้สึกสิ้นหวังจับใจ!
“ฉากนี้ต้องกลายเป็นฉากคลาสสิกในตำนานแน่นอน”
เจี่ยฮ่าวเหรินกลืนน้ำลายลงคอ ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแหบแห้งเล็กน้อยว่า “คนที่อยู่รอดเป็นคนสุดท้าย กลับตายได้สยองสุดๆ โดนโถงทางเดินเลเซอร์หั่นเป็นชิ้นๆ เลย”
“หนังเรื่องนี้คุมจังหวะได้ดีมาก”
ถูเจิ้งไม่ได้พูดต่อถึงประเด็นโถงเลเซอร์ แม้ในหัวจะยังติดภาพนั้นไม่เลือนก็ตาม
“ซอมบี้ยังไม่โผล่มาเลย”
“ผ่านไปครึ่งชั่วโมงแล้วไหม?”
แม้แต่นักวิจารณ์ภาพยนตร์มากประสบการณ์ทั้งสองคนก็ยังประหลาดใจ เพราะนี่คือหนังที่นำเสนอซอมบี้เป็นจุดขาย แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีซอมบี้ปรากฏตัวให้เห็นเลย
อย่างไรก็ดี ไม่นานหลังจากที่ทั้งสองเอ่ยถึงซอมบี้ ในที่สุด ซอมบี้ก็เผยโฉม!
……………………………………

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอน 837-839 ไม่มีข้อความเลยครับ...