พิธีปักปิ่นอันใด?
พิธีปักปิ่นของยางผ่านไปนานแล้วไม่ใช่หรือ?
ความอัปยศที่ได้รับในพิธีปักปิ่นเวลานั้น นางยังคงได้จำได้จนถึงทุกวันนี้
เสียงหัวเราะเยาะของแขกทั้งหลาย การเยาะเย้ยถากถางของพี่ชาย การถอนหมั้นของคู่หมั้น รวมไปถึงการตำหนิของบิดามารดา...
นางเคยผ่านสถานการณ์เช่นนั้นมาแล้วครั้งหนึ่ง
ทว่าตอนนี้ เหตุใดถึงเป็นพิธีปักปิ่นอีกเล่า?
หรือว่าเวินเยวี่ยจะเล่นปาหี่ใหม่อะไรอีก อยากให้นางอับอายขายหน้าอีกครั้งแล้วค่อยส่งนางไปตายหรือ?!
เวินซื่อหายใจถี่กระชั้นขึ้นในพริบตา
แต่ในตอนที่นางกำลังจะควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ สายตาของนางกลับหยุดชะงักไปทันที
เดี๋ยวก่อน!
นางเบิกตาโต จ้องมองมือสองข้างที่สมบูรณ์ไร้บาดแผลของตัวเอง แล้วก้มหน้ามองขาเท้าสองข้างของตัวเองทันที ใบหน้าค่อย ๆ ฉายแววเหมือนไม่อยากจะเชื่อ
มือและเท้าของนางถูกทำลายจนพิการไปแล้วไม่ใช่หรือ?
เหตุใดตอนนี้กลับหายดีหมดแล้ว?
นี่มันเป็นไปได้อย่างไร?
ควรรู้เอาไว้ว่าเอ็นมือเอ็นเท้าของนางถูกตัดจนขาดหมดแล้ว ไม่มีทางฟื้นฟูกลับมาได้อีก!
เวินซื่อที่ตระหนักได้ถึงความผิดปกติจึงค่อย ๆ หันหน้ากลับมามองห้องนี้อีกครั้ง
เป็นการตกแต่งทั้งหมดที่ค่อย ๆ ผสานเข้ากับในความทรงจำ
นางเบนสายตาไปยังโต๊ะเครื่องแป้งที่อยู่ด้านหนึ่งของห้อง
เดินเข้าไปทีละก้าว เรือนร่างเพรียวบางค่อย ๆ สะท้อนอยู่บนกระจกทองแดง
ดวงหน้าอ่อนเยาว์ หน้าตาที่สมบูรณ์ดี และเครื่องแต่งกายที่อ่อนวัย...
นี่เห็นได้ชัดว่าเป็นรูปลักษณ์ของนางก่อนที่จะโดยเวินเยวี่ยทำลายใบหน้า และเป็นรูปลักษณ์ของนางก่อนพิธีปักปิ่น!
มือเท้าที่สมบูรณ์ ห้องที่คุ้นเคย และใบหน้าที่ไม่มีรอยแผลเป็นสักนิดเดียว...
เวินซื่อพลันผุดการคาดเดาอันน่าเหลือเชื่อขึ้นในก้นบึ้งของจิตใจ...
...หรือว่านางกลับมาเกิดใหม่แล้ว?
ย้อนกลับมาวันพิธีปักปิ่นของนาง?
เมื่อคิดถึงความเป็นไปได้นี้ เวินซื่อก็เอามือทั้งสองข้างปิดหน้าตัวเอง เผยให้เห็นสีหน้าคลุ้มคลั่ง
ใช่แล้ว ใช่แล้ว...
นางตายไปนานแล้ว!
ตายภายใต้ดาบของเวินจื่อเยวี่ย!
น่าเสียดาย นายไม่ได้ตายไปเลย
นางเกิดใหม่แล้ว?!
เหอะ!
สวรรค์ช่างชอบกลั่นแกล้งนางเสียจริง
ทั้ง ๆ ที่นางไม่อยากมีความเกี่ยวพันใด ๆ กับตระกูลเวินอีกต่อไปแล้ว แต่สวรรค์กลับอยากให้นางกลายเป็นบุตรสาวของตระกูลเวินอีกครั้ง!
เวินซื่อกัดริมฝีปากแน่นจนเลือดเกือบจะไหลออกมา
หลังจากที่ได้ลิ้มรสชาติคาวเลือด นางถึงใจเย็นลงในที่สุด ก่อนจะทำสีหน้าเฉยเมย
แม้สวรรค์จะเล่นตลกกับนาง แต่ดูเหมือนว่าการเล่นตลกนี้ก็ไม่ใช่ว่าไม่อาจใช้ประโยชน์ได้เหมือนกัน
ถึงอย่างไรแม้แต่ความตายนางก็ยังไม่กลัว แล้วนางยังจะกลัวการมีชีวิตอยู่หรือไร?
ชาติที่แล้ว
นางเป็นบุตรสาวภรรยาเอกที่ได้รับความรักความเอ็นดูที่สุดของจวนเจิ้นกั๋วกง ตั้งแต่เล็กก็เป็นน้องห้าที่พี่ชายทั้งสี่คนโปรดปรานที่สุด เป็นบุตรสาวคนเล็กที่บิดาปกป้องมากที่สุด
กล่าวได้ว่าก่อนอายุสิบห้านางเป็นไข่มุกในมือของทั้งจวนเจิ้นกั๋วกง
ทว่าจนกระทั่งเวินซื่ออายุสิบห้า บิดาพาเด็กสาวคนหนึ่งมาจากข้างนอก บิดาบอกว่านั่นเป็นบุตรสาวอีกคนที่เขาทิ้งไว้ข้างนอก เป็นน้องสาวของพวกเขา ชื่อว่าเวินเยวี่ย
และตั้งแต่นั้นมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป
ท่านพ่อให้ความสนใจเวินซื่อน้อยลงเรื่อย ๆ และเอาใจใส่น้องสาวมากขึ้นเรื่อย ๆ
พี่ชายทั้งสี่คนก็พากันเก็บความรักความเอ็นดูที่เคยมอบให้นางคืนกลับไป แล้วเปลี่ยนไปมอบสิ่งเหล่านี้ให้กับเวินเยวี่ยทั้งหมด
ชาติก่อนนางไม่รู้เลยว่าตนเองทำความผิดอันใด
นางพยายามคิดหาทางกู้กลับคืนมา แต่สิ่งที่แลกมาคืออะไร?
ขอเพียงเวินเยวี่ยร้องไห้
พี่ใหญ่บังคับให้นางคุกเข่าต่อหน้าผู้คน
พี่รองตัดมือเท้าทั้งสองข้างของนาง
พี่สามทรมานนางอย่างหนัก
พี่สี่ทำลายโฉมหน้าและชื่อเสียงของนาง
แม้แต่บิดาก็ขับนางออกจากวงศ์ตระกูล ไล่ออกจากบ้านเพื่อเวินเยวี่ยด้วยคำพูดประโยคเดียวว่า “ไม่คู่ควรกับแซ่เวิน” ตั้งแต่นั้นมานางก็กลายเป็นที่จงเกลียดจงชังที่ทุกคนในเมืองหลวง
เวลาสามปีสั้น ๆ บุตรสาวภรรยาเอกของจวนกั๋วกงที่สูงส่งอย่างนางก็มีจุดจบด้วยการสูญเสียทั้งฐานะและชื่อเสียงเกียรติยศ
นางสิ้นหวังหมดกำลังใจ เดิมทีเตรียมตัวจะออกจากสถานที่แห่งความโศกเศร้าเสียใจอย่างเมืองหลวง คิดจะหาสถานที่เริ่มต้นชีวิตใหม่ใช้ชีวิตอย่างเงียบ ๆ ปิดบังตัวตน
ทว่าจู่ ๆ เวินเยวี่ยกลับใส่ความว่านางขโมยหยกแขวน สกุลเวินจึงส่งคนไปจับตัวนางกลับมาทันที บีบบังคับให้นางมอบหยกแขวนออกมา
เรื่องที่น่าขันคือ จนกระทั่งตอนสุดท้าย นางยังคาดหวังว่าพวกเวินเฉวียนเซิ่งจะเห็นแก่ความรักความผูกพันที่มีต่อนางอยู่บ้างหรือไม่
ยังมีถังเช่าด้วย?
นอกจากพวกนี้แล้ว ยังมีพืชสมุนไพรอีกมากมายที่เวินซื่อแทบไม่รู้จัก
ทว่าแค่นางจำออกมาได้หลายชนิดนั้นก็คาดเดาได้ว่าทั้งหมดที่ปลูกในนี้ล้วนเป็นสมุนไพร
นอกจากนี้มีหลายชนิดยังเป็นสมุนไพรมายากยิ่ง
แต่สมุนไพรเหล่านี้เติบโตในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน บางชนิดอยู่บนหน้าผา บางชนิดอยู่ในป่าลึก บางชนิดต้องการสภาพแวดล้อมที่หนาวเย็นสุดขีด หรือว่ามีความร้อนสูงจัด...
สมุนไพรที่มีความต้องการแตกต่างกันมากมายเช่นนี้ล้วนปลูกขึ้นที่นี่ได้ทั้งหมด!
หรือว่าเป็นเพราะมิติแห่งนี้?
ไม่สิ ยังมีน้ำด้วย!
เวินซื่อพบว่ายิ่งเป็นสมุนไพรที่ปลูกยากก็จะยิ่งอยู่ใกล้ลำธาร เกรงว่าน้ำในลำธารก็เป็นหนึ่งในปัจจัยท่ามารถทำให้สมุนไพรเหล่านี้เติบโตขึ้นที่นี่
เวินซื่อมองทุกสิ่งทุกอย่างนี้ แล้วอดพึมพำกับตัวเองไม่ได้ “ท่านแม่ หยกแขวนที่ท่านทิ้งไว้ให้ข้าคืออะไรกันแน่?”
หลังจากที่ตกตะลึง เวินซื่อพลันนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
ชาติที่แล้วจู่ ๆ เวินเยวี่ยบีบบังคับให้นางมอบหยกแขวนออกมา หรือว่าเวลานั้นเป็นเพราะนางค้นพบมิติแห่งนี้?
แต่ก็ไม่ถูกเหมือนกัน หยกแขวนชิ้นนี้ไม่เคยออกห่างจากตัวนางเลย
หากไม่ใช่เพราะวันนี้นางเข้ามาในนี้โดยบังเอิญ นางก็คงไม่สามารถค้นพบมิติแห่งนี้ได้เลย
อีกทั้งดูจากท่าทางก่อนหน้านี้ของเวินเยวี่ย เห็นได้ชัดว่าไม่รู้เรื่องเช่นกัน
ดังนั้นหากไม่มีคนอื่นล่วงรู้ว่าหยกแขวนชิ้นนี้มีมิติอยู่แล้วค่อยบอกเวินเยวี่ย ก็เป็นเวินเยวี่ยไม่ได้ทำเพื่อมิติเลย แต่เป็นเพราะสาเหตุอื่น
ไม่รู้ว่าเหตุใดลางสังหรณ์ในใจของเวินซื่อเอนเอียงไปทางอย่างหลังมากกว่า
แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ตอนนี้นางรู้ความลับนี้แล้วก็ต้องซ่อนหยกแขวนไว้ให้ดี ไม่อาจให้ใครสังเกตเห็นได้เป็นอันขาด!
ตอนนี้มีมิติของหยกแขวนอยู่ในมือเช่นนี้ แผนการที่เวินซื่ออยากจะแก้แค้นเวินเยวี่ยกับคนของสกุลเวินก็ยิ่งมีความมั่นใจขึ้นเล็กน้อยว่าจะประสบความสำเร็จ
หลังจากที่นางทำความเข้าใจวิธีการเข้าออกมิติของหยกแขวน ไม่นานก็กลับมาที่ห้อง
นางไม่อาจอยู่ในมิตินานเกินไป ถึงอย่างไรวันนี้เป็นพิธีปักปิ่นของนาง นางรู้ว่าจะมีคนมาหานาง
แต่สิ่งที่เวินซื่อไม่รู้คือ หลังจากที่นางออกจากมิติของหยกแขวน จวนใหญ่อีกแห่งของเมืองหลวง หรือก็คือภายในจวนอ๋องผู้สำเร็จราชการแทน ชายหนุ่มรูปงามที่พิงข้างหน้าต่างงีบหลับพลันตื่นขึ้นมาจากฝัน
เขาหยิบหยกแขวนบนโต๊ะขึ้นมา มองหยกแขวนทรงวงกลมคู่ที่ไม่รู้ว่าเหตุใดจู่ ๆ ถึงเหลือเพียงครึ่งเดียว ก่อนจะขมวดคิ้วเล็กน้อย
.....
“ปัง!”
“น้องห้า ไสหัวออกมานะ!”
“อย่าคิดว่าเจ้าหลบอยู่ในห้องแล้ว ข้าจะไม่กล้ามาหาเจ้า!”
ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ท่าทางดุดัน น้ำเสียงดูหัวเสีย ราวกับสิงโตที่เต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราดบุกเข้ามาในห้องของคุณหนูห้าเวินซื่อ

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก