เด็กสาวที่นั่งอยู่หน้ากระจกแต่งหน้า ไม่มีสาวใช้ปรนนิบัติ ทำได้เพียงหวีผมให้ตัวเอง นางมองเขาแวบหนึ่งแล้วข่มกลั้นความรู้สึกสะอิดสะเอียนไว้ ร้องเรียกอย่างเฉยชาว่า “พี่รอง”
เวินจื่อเฉินที่บุกเข้ามาถลึงตาใส่เวินซื่อด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยโทสะ “ข้าขอถามเจ้า เจ้าทำลายชุดพิธีการของน้องหกใช่หรือไม่? เหตุใดจิตใจของเจ้าถึงชั่วร้ายเพียงนี้? รู้อยู่แก่ใจว่าวันนี้ก็เป็นพิธีปักปิ่นของน้องหก เจ้ายังจะทำลายชุดพิธีการของนางอีกหรือ!”
ในขณะที่เวินจื่อเฉินซักถามเวินซื่อด้วยอารมณ์รุนแรง คนที่ทำให้เวินซื่อเกลียดชังเข้ากระดูกดำผู้นั้นก็โผล่ศีรษะออกมาจากด้านหลังเวินจื่อเฉินด้วยสีหน้าขอโทษ
“พี่รอง อย่าพูดเลยเจ้าค่ะ ข้าอธิบายกับท่านแล้วไม่ใช่หรือ? พี่หญิงห้านางไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ แค่ไม่ระวังเท่านั้นเอง”
เวินเยวี่ยมีรูปร่างเพรียวบาง หน้าตาน่ารัก มักจะแสดงสีหน้าอ่อนแออยู่เสมอ
บวกกับนัยน์ตาที่มีน้ำเอ่อคลอดูขลาดกลัวเหมือนลูกกวาง ใครเห็นจะไม่เกิดความรู้สึกรักเอ็นดูได้?
นางเองก็รู้ข้อดีของตนเองจริง ๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งรู้ว่าทุกคนในจวนเจิ้นกั๋วกงรู้สึกติดค้างนาง
เนื่องจากเวินเยวี่ยเพิ่งจะถูกคนของจวนเจิ้นกั๋วกงตามหาตัวกลับมาได้เมื่อครึ่งปีก่อน
บิดาบอกว่านางถูกคนลักพาตัวไปตอนสามขวบ ถูกทิ้งให้อยู่ข้างนอกทนทุกข์ทรมานมาตั้งแต่เด็ก
ทุกคนในสกุลเวินล้วนติดค้างเวินเยวี่ยอย่างยิ่ง และอยากพยายามชดเชยให้นาง
ในอดีตเวินซื่อก็คิดเช่นนี้เหมือนกัน
ถึงอย่างไรนางคิดว่าเวินเยวี่ยก็เป็นน้องสาวแท้ ๆ ของนาง
แต่ชาติที่แล้วนางกลับจ่ายค่าตอบแทนด้วยความชอกช้ำใจอย่างยิ่งเพราะความคิดไร้เดียงสาเช่นนี้!
ตอนนี้ได้เห็นใบหน้าของเวินเยวี่ยอีกครั้ง เวินซื่อแทบอยากจะสังหารนางทันที!
“น้องหก! เหตุใดเจ้าถึงใจดีขนาดนี้? ทั้ง ๆ ที่เป็นความผิดของน้องห้า เจ้ายังจะช่วยอธิบายอะไรให้นางอีก?”
“ไม่ใช่นะ โธ่เอ๊ย! พี่รอง เหตุใดท่านไม่ฟังเลยเล่า”
เวินเยวี่ยเอ่ยพลางหันหน้ามาขอโทษเวินซื่อ “ขออภัยด้วยนะเจ้าคะพี่หญิงห้า ทั้งหมดต้องโทษที่ข้าพูดไม่เก่งบอกไม่ชัดเจน ท่านอย่าโกรธพี่รองได้ไหม? เขาแค่เป็นห่วงข้ามากเกินไปเท่านั้น”
“เจ้าจะขอโทษนางเพื่ออะไร เห็นชัด ๆ ว่านางควรขอโทษเจ้า!”
เวินจื่อเฉินถลึงตามองเวินซื่ออย่างเหี้ยมโหด
เวินซื่อหลุบตาปิดบังความพยาบาทในก้นบึ้งของดวงตา “ใช่ พี่รองกล่าวถูกต้อง เรื่องเมื่อสองวันก่อนข้าทำผิดไปจริง ๆ ข้าควรขออภัยน้องหกถึงจะถูก”
ไม่มีทางเลือก
นางเกิดใหม่ช้าไปสองวัน ชาติที่แล้วช่วงเวลานี้เวินเยวี่ยทำลายชุดพิธีการของตนเองแล้ว จากนั้นก็ใส่ความนาง
เวินเยวี่ยไม่จำเป็นต้องมีแม้กระทั่งหลักฐานใด ๆ ขอเพียงให้คนเห็นว่านางถือชุดพิธีการที่พังเสียหายแล้วร้องไห้อยู่ตรงนั้น ทุกคนก็นึกถึงเวินซื่อได้
ถึงอย่างไรนางในตอนนี้ก็ถูกเวินเยวี่ยใช้วิธีการต่าง ๆ นานาทำลายชื่อเสียงไปนานแล้ว
ทุกคนต่างรู้ว่าเวินซื่ออิจฉาริษยาน้องสาวของตนเอง นอกจากนี้ยังใจร้ายใจดำ จิตใจคับแคบ อีกทั้งเป็นคนทำทุกวิถีทางเพื่อให้บรรลุเป้าหมายด้วย!
ดังนั้นขอเพียงเวินเยวี่ย ‘โดนรังแก’ ย่อมต้องเป็นฝีมือของเวินซื่ออย่างแน่นอน!
เวินซื่อที่ข่มกลั้นความแค้นชิงชังทั้งหมดไว้ก็ยิ้มให้เวินเยวี่ย แล้วเอ่ยปากขอโทษว่า “สองวันนี้ครุ่นคิดเรื่องนี้ข้าก็นอนไม่หลับ รู้สำนึกเสียใจจริง ๆ น้องหกโปรดให้อภัยด้วย”
สีหน้าที่เต็มไปด้วยความจริงใจของนางทำให้เวินเยวี่ยเห็นแล้วสงสัยว่านางเปลี่ยนไปเป็นคนละคนใช่หรือไม่?
“ฮึ ตอนนี้เจ้ารู้ความผิดแล้วหรือ?”
เวินจื่อเฉินหัวเราะหยัน “คนใจดำเช่นเจ้า หากไม่ใช่เพราะเจ้าเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของข้า ข้าคงส่งเจ้าให้ทางการไปนานแล้ว ให้เจ้าลิ้มรสการลงทัณฑ์อย่างรุนแรงในคุก!”
เวินซื่อหัวเราะหยันในใจเช่นเดียวกัน
น้องสาวแท้ ๆ?
เหอะ แต่ตอนนี้นางไม่อยากเป็นน้องสาวของคนพรรค์นี้แล้ว!
วันนี้เมื่อชาติที่ก่อน นางถูกเวินจื่อเฉินทุบตีจนบาดเจ็บไปทั่วทั้งตัวเพราะไม่ยอมขอโทษเวินเยวี่ย
นอกจากใบหน้าแล้ว ร่างกายแทบจะมีรอยฟกช้ำดำเขียวไปเกือบทุกส่วน
ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าวันนี้เป็นพิธีปักปิ่นของนาง
เขาก็ไม่ยั้งมือให้นางเลยสักนิดเดียว!
ในบรรดาพี่ชายทั้งสี่คนของนาง เวินจื่อเฉินกับเวินจื่อเยวี่ยฝาแฝดคู่นี้มีนิสัยแย่ที่สุด
พี่รองเวินจื่อเฉินอารมณ์ร้อนอย่างยิ่ง ตอนที่รักเอ็นดูน้องสาวอย่างนาง สามารถฟาดทุกคนที่รังแกนางได้เพื่อนาง
แต่ตอนที่ไม่รักเอ็นดูนาง ก็สามารถลงมือกับนางได้ทันทีโดยไม่รีรอเช่นกัน
โดยเฉพาะเมื่อนางขัดแย้งกับเวินเยวี่ย ขอเพียงเวินเยวี่ยร้องไห้ นางจะต้องโดนทุบตีอย่างแน่นอน!
เวินซื่อเม้มริมฝีปาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก