หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์ นิยาย บท 22

ตอนที่22 หนามยอกเอาหนามบ่ง

ทันใดนั้นทั้งนวีนและอิงดาวต่างก็จ้องมองเธอเป็นตาเดียว วรินทรรู้สึกผิดขึ้นมาทันที จริงๆแล้วเธอก็เป็นคนที่มีความสามารถคนหนึ่งเช่นกันแต่กระนั้นเธอก็ยังแอบรู้สึกว่าการที่เธอเข้ามาทำงานที่นี่ได้เพราะใช้เส้นสายเข้าช่วย

“ฉันส่งเรซูเม่เข้ามาน่ะค่ะ หลังจากนั้นก็เข้าสัมภาษณ์กับกรรมการและท่านประธาน หลังจาก ผ่านสัมภาษณ์ฉันก็เข้ามาเริ่มงานวันนี้นี่ล่ะค่ะ”วรินทรมองพวกเธออย่างไร้เดียงสา

แม้ว่าอิงดาวและนวีนจะยังมีคำถามที่ต้องการถามออกไปอยู่แต่ก็ประจวบเหมาะกับที่อมันด้าเข้ามาที่แผนกเสียก่อน วันนี้หญิงสาวใส่ชุดเดรสสั้นแขนกุดของChanel สวมรองเท้าส้นสูงจนเรียวขาที่ยาวอยู่แล้วดูยาวมากขึ้นไปอีก ในมือถือกระเป๋าหนังทำมือของGucci ใบหน้าสวยถูกแต่งอย่างพิถีพิถันจัดเต็ม หญิงสาวเดินโอดฉวมจนมาถึงโต๊ะทำงานของตัวเอง ดวงตาที่ถูกแต่งแต้มตวัดสายตามาพบวรินทรที่นั่งอยู่ก็กระตุกยิ้มเยาะเย้ยก่อนจะนั่งลงประจำที่ของตัวเอง

วรินทรและอิงดาวสบตากันเงียบๆอย่างไม่รู้จะพูดอะไรดี

วรินทรง่วนอยู่กับการร่างแบบตลอดช่วงเช้า

จนเวลาล่วงเลยมาถึงช่วงพักเที่ยง อมันด้าเป็นคนแรกที่เดินออกจากแผนกไป อิงดาวจึงมีโอกาสได้ถอนหายใจออกมาได้อย่างโล่งอก“นางมารไปเสียที วรินทรพวกเราก็ไปกินข้าวกันเถอะ”

“ก็ดีนะ ไปไหนกันล่ะ ”วรินทรปิดคอมพิวเตอร์ของตัวเองก่อนจะลุกขึ้นมาถาม

“ก็ต้องเป็นห้องอาหารของบริษัทอยู่แล้ว ยังจะไปที่ไหนได้ล่ะ”อิงดาวหัวเราะขำก่อนลากแขนวรินทรออกเดิน

ห้องอาหารของบริษัทงั้นหรือ วรินทรชะงักไปครู่หนึ่ง ถ้าเกิดเจอทาวัตเข้าเธอจะทำอย่างไรดี หญิงสาวแสดงอาการลุกลี้ลุกลนออกมา

“ดาว เธอว่าพวกเราจะเจอท่านประธานหรือเปล่า”วรินทรลองถามหยั่งเชิงดู

“ท่านประธานไม่เคยลงมากินที่ห้องอาหารบริษัทหรอก เขามักจะไปกินข้าวเที่ยงที่ห้องอาหารของโรงแรมฮวงเซิงสากลที่อยู่ตรงข้ามนั่นน่ะ”เมื่ออิงดาวพูดจบเธอก็หันไปมองที่โต๊ะทำงานของนวีนซึ่งบัดนี้ว่างเปล่า “นวีนคงมีนัดอีกตามเคย นี่ล่ะน้าที่เขาบอกว่าลูกชายที่แต่งออกไปแล้วก็เหมือนน้ำที่สาดออกไป”

ทั้งสองเดินเข้าไปในลิฟต์พร้อมกดลงไปชั้นห้องอาหาร

“เธอสนิทกับนวีนมากเลยหรือ”วรินทรยิ้มคำกับคำพูดก่อนหน้านี้ของอิงดาว ถ้าพูดจาหยอกล้อเล่นกันได้ขนาดนี้ก็คงสนิทกันในระดับหนึ่งเลยล่ะนะ

“ฉันกับเขาโตมาด้วยกัน สมัยก่อนเขาน่ะวิ่งตามตูดฉันทุกวันเลยนะ”อิงดาวพูดขึ้นอย่างเหม่อลอย ดูเหมือนว่าเธอจะคิดฟุ้งซ่านอะไรอยู่ก็ไม่อาจรู้

วรินทรยืนนิ่งๆมองดูตัวเลขในลิฟต์ที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ เธอเองก็อดคิดอะไรฟุ้งซ่านขึ้นมาไม่ได้เหมือนกัน หญิงสาวเม้มปากแน่น

ห้องอาหารของบริษัทครอบครองพื้นที่ทั้งชั้นทำให้มีพื้นที่กว้างมาก ทำให้จุโต๊ะรับประทานอาหารแบบกลมไว้ได้จำนวนมาก แม้ว่านี่จะเป็นช่วงเวลากลางวันแต่ห้องอาหารก็ยังคงเปิดไฟสีส้มสว่างทำให้บรรยากาศในห้องดูมีชีวิตชีวามากขึ้น

พวกเธอทั้งสองคนเดินหาจนได้ที่นั่งที่เงียบสงบที่หนึ่ง ระหว่างที่เดินหาที่นั่งเธอก็ได้ยินเสียงพนักงานคนอื่นซุบซิบนินทาถึงเรื่องที่วรินทรได้ผ่าน‘ประตูมังกร’เข้าไปห้องประธานมาเมื่อวาน

อาหารของบริษัท CR กรุ๊ปอยู่ในระดับยอดเยี่ยม หลังมื้ออาหารก็ยังมีผลไม้ให้ล้างปากอีกด้วย แน่นอนว่าหากไม่มีคนมาคอยนินทาเธอลับหลังอยู่ล่ะก็เธอก็คงจะดื่มด่ำกับมื้อเที่ยงของเธอได้มากกว่านี้

แต่นี่เธอกลับกินอาหารไม่ลงแม้แต่คำเดียว น่ากลัวเกินไปแล้ว!

เพราะหญิงสาวมัวแต่ก้มหน้าก้มตาจนแทบจะทิ่มลงไปในจานขาวของตน วรินทรจึงไม่ทราบว่าบัดนี้ภายในห้องอาหารเกิดอะไรขึ้น จนกระทั่งอิงดาวยกเท้าเตะเข้าที่เท้าของเธอที่อยู่ใต้โต๊ะเธอจึงเงยหน้าขึ้นมาในที่สุด

วรินทรเห็นว่าเวลานี้คนตรงหน้าเธอกลายเป็นทาวัตไปเสียแล้ว ส่วนอิงดาวถูกสายตาเย็นเยียบของท่านประธานที่ส่งมาทำให้ต้องยอมเลี่ยงออกไป

ทาวัตกำลังยกสองมือขึ้นกอดอกและมองดูเธอที่นั่งอยู่ตรงข้ามเขาด้วยสายตาเกียจคร้าน

แม้ว่าจะเป็นแค่การนั่งธรรมดาๆแต่ท่าทางของเขาก็แฝงไปด้วยความสง่างามตั้งแต่เกิด ให้ความรู้สึกราวกับว่าเป็นเทพองค์หนึ่งที่สามัญชนอย่างพวกเธอไม่กล้าลบหลู่

”ท่าน ท่านประธาน?”

วรินทรจ้องมองเขาอย่างไม่เชื่อสายตา ก็ไหนอิงดาวบอกกับเธอว่าแต่ไหนแต่ไรมาเขาไม่เคยลงมากินอาหารที่นี่ไม่ใช่หรือ แล้วทำไมถึงเป็นเช่นนี้ไปได้ล่ะ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์