หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์ นิยาย บท 30

ตอนที่ 30 เสียเวลาเปล่า

เมื่อตื่นขึ้นมาอีกครั้งเธอกับพบว่าตอนนี้เธอนอนอยู่ที่เตียงกว้างในห้องๆหนึ่ง เธอจึงค่อยๆลงจากเตียงเดินไปที่หน้าต่างเพื่อมองออกไปข้างนอก หลังจากนั้นเธอก็พบว่าที่นี่คือคฤหาสน์ของทาวัต

เมื่อกลับมานั่งที่เตียงเธอก็เห็นว่าที่โต๊ะข้างเตียงมีถ้วยน้ำตาแดงร้อนตั้งอยู่ถ้วยหนึ่ง มือบางของเธอหยิบขึ้นมาดื่มก่อนที่สมองของเธอจะสั่งการเสียอีก

ตอนนั้นเองที่เธอได้ยินเสียงเปิดประตู หญิงสาวจึงเงยหน้าขึ้นมองก็พบว่าผู้ที่เดินเข้ามาในห้องคือทาวัตนั่นเอง แต่ดวงตาคมของเขาดูมีประกายไฟบางอย่างที่เธอดูไม่ออก มือบางที่ถือถ้วยไว้สั่นขึ้นอย่างห้ามไม่ได้ เธอรีบร้อนวางถ้วยกลับไปที่เดิมทันที หรือว่าน้ำตาลแดงต้มถ้วยนั้นเป็นของเขางั้นหรือ

ดวงตากลมโตมองทาวัตที่ค่อยๆย่างสามขุมเข้ามา วรินทรรีบหยิบถ้วยขึ้นมายื่นไปตรงหน้าเขาก่อนจะเอ่ยละล่ำละลัก“ฉันไม่ได้ตั้งใจดื่มชาน้ำตาลแดงของคุณนะคะ ถ้าคุณโกรธคุณก็หักจากเงินเดือนฉันเอาก็แล้วกัน!” อีกอย่างแค่ชาน้ำตาลแดงจะแพงสักแค่ไหนกันเชียว ไม่เห็นเป็นอะไรเลย!

ทาวัตไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอพูดแม้แต่น้อย ชานั่นเขาก็เป็นคนเตรียมไว้ให้เธอเองแท้ๆ หรือว่าเธอคิดว่า...

ทาวัตค่อยๆเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์แวบหนึ่งก่อนที่เธอจะเห็น เขาค่อยๆหันมาสบสายตาเธอนิ่งๆ “ห้องครัวของที่นี่ล้วนแต่จ้างคนที่มีฝีมือด้วยค่าจ้างมหาศาล แทบจะเรียกได้ว่าพ่อครัวแม่ครัวของที่นี่ดีที่สุดในประเทศ C เลยทีเดียว คุณคิดว่าคุณจะชดเชยไว้งั้นหรือ”

วรินทรรู้สึกฉุนกึก กับแค่ชาน้ำตาลแดงแค่ถ้วยเดียวทำไมคนอย่างเธอถึงไม่มีปัญญาชดเชยกันล่ะ

เสียงเคาะประตูดังขึ้นอยู่สองสามครั้ง ทาวัตจึงอนุญาตให้เข้ามาได้ เธอก็เห็นว่ามีแม่บ้านคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับชาน้ำตาลแดงร้อนๆถ้วยหนึ่งในมือ ดวงตาของแม่บ้านคนนั้นมองวรินทรด้วยสายตาเอ็นดู“คุณวรินทรตื่นแล้วหรือคะ รู้สึกไม่สบายตรงไหมคะ ถ้าอย่างไรดื่มชานี่อีกสักแก้วนะคะจะได้รู้สึกดีขึ้น”

วรินทรมองทาวัตด้วยสายตาไม่เข้าใจก่อนจะเอ่ยถามคุณแม่บ้าน“ถ้วยนี่ไม่ใช่เตรียมไว้ให้ท่านประธานดื่มหรือคะ”

เดิมทีวรินทรตั้งใจจะเรียกเขาว่าทาวัตแต่เมื่อถึงความสัมพันธ์ของทั้งคู่ในตอนนี้เธอจึงเรียกจะเงียบปากไปก่อนดีกว่า

คุณแม่บ้านอมยิ้มก่อนจะเอ่ยอธิบายออกไป “ชาพวกนี้ล้วนแต่เป็นชาที่คุณชายบอกให้ชงไว้ให้คุณหนูน่ะค่ะ!”

“พูดมากเกินไปแล้วครับ วางของแล้วก็ออกไปได้เลย”ทาวัตเห็นรอยยิ้มที่ผุดขึ้นมาจากวรินทรเขาก็รู้สึกกระดากอายขึ้นมา

คุณแม่บ้านเพียงแค่ยิ้มแล้วส่ายหน้าเบาๆก่อนจะหันกายเดินออกไปจากห้อง

วรินทรเอื้อมมือไปหยิบชาน้ำตาแดงมาไว้ในมือก่อนจะเงยหน้ามองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยรอยยิ้มมีเลศนัย

“มองอะไร ดื่มของคุณไปสิ”ทาวัตเหลือบมองเธอแวบหนึ่งก่อนจะเดินหนีเข้าไปในห้องแต่งตัว

เมื่อวรินทรดื่มชาหมดแล้วความเจ็บปวดก่อนหน้านี้ก็บรรเทาลงไปมากจนแทบจะหายเป็นปลิดทิ้ง เธอวางถ้วยไว้ที่โต๊ะข้างๆก่อนจะยืดเส้นยืดสายเล็กน้อย ตอนนั้นเองที่สายตาเธอก็ไปปะทะกับทาวัตที่ไม่รู้ออกมาจากห้องแต่งตัวมานั่งตรงโซฟากลางห้องตั้งแต่เมื่อไหร่

สายตาของทาวัตจับจ้องมาที่เธออยู่ก่อนแล้ว มีผ้าขนหนูสีขาวพาดอยู่ที่คอของเขา มือข้างหนึ่งวางอยู่ข้างโซฟา ชายหนุ่มเอียงคอมองไปอีกด้านซึ่งเธอก็ไม่รู้ว่าเขากำลังมองอะไรอยู่

วรินทรอดคิดไม่ได้ว่าการที่เขานั่งนิ่งๆอยู่บนเก้าอี้แบบนี้ช่างเป็นทิวทัศน์ที่หน้ามองเสียเหลือเกิน

เธอมองเขาอย่างหลงใหลอยู่สักพักหางตาก็เหลือบไปเห็นนาฬิกาที่อยู่บนผนังบ่งบอกว่าเวลานี้ตีสองแล้ว หญิงสาวละสายตาจากเขา หัวหนุนหมอนก่อนจะค่อยๆปิดเปลือกตาลงช้าๆ

“ขอบคุณนะคะพี่ทาวัต”ในความฝันอันเลือนลางเธอรู้สึกเหมือนว่าเห็นเขานั่งอยู่ที่ข้างเตียงจ้องมองเธอ เธอรู้ว่าคนคนนั้นต้องเป็นทาวัตอย่างแน่นอนจึงเอ่ยพึมพำขอบคุณออกมา

รวมถึงคำที่เรียกว่าพี่ทาวัตนั่นด้วย

ทาวัตชะงักไปก่อนที่หัวใจจะเต็มไปด้วยความยินดี สมัยก่อนตอนเด็กๆเธอก็มักจะเรียกเขาว่าพี่ทาวัตอยู่เสมอ

เป็นเวลานานทีเดียวกว่าที่ทาวัตจะค่อยๆโน้มตัวลงไปจุมพิตที่หน้าผากเกลี้ยงเกลาของวรินทร

เช้าวันที่สอง วรินทรค่อยๆสะลึมสะลือตื่นมาด้วยความรู้สึกเฉอะแฉะจากการที่รอบเดือนมา แม้เธอจะไม่อยากลุกขึ้นจากเตียงมาก แค่ไหนสุดท้ายก็ยอมลุกไปหยิบผ้าอนามัยเดินเข้าห้องน้ำไป

เมื่อทาวัตเดินเข้ามาในห้องกลับไม่พบแม้แต่เงาของคนที่เขามองหาก็ขมวดคิ้ว แต่สายตาคมหันไปเห็นประตูห้องน้ำที่ถูกปิดไม่อยู่ก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเดินออกไปจากห้อง

เมื่อวรินทรออกมาจากห้องน้ำก็พบว่าทาวัตกำลังหอบอะไรบางอย่างเข้ามาในห้องพอดี

ชายหนุ่มเห็นว่าวรินทรยืนอยู่ตรงนั้นก็พูดขึ้น“นอนเต็มอิ่มหรือเปล่า ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์