ตอนที่31 ตกปลาสองร้อยห้าสิบตัว
คนคนนี้ใส่เสื้อสีดำทั้งตัว ใบหน้าของเขาที่สวมใส่แว่นกันแดดทำให้ปิดบังใบหน้าเกือบครึ่ง แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นเธอก็ยังสัมผัสถึงความเย็นชาจากคนตรงหน้าได้อยู่ดีอีกทั้งบรรยากาศรอบๆตัวของเขาพาลให้คนที่อยู่ใกล้รู้สึกอึดอัดหายใจไม่ออก
แค่เห็นแวบแรกวรินทรก็รู้ทันทีว่าคนตรงหน้าคือปกเกศ ถ้าเธอจำไม่ผิดผู้ชายคนนี้เคยเป็นบอดี้การ์ดประจำตัวของทาวัตมาก่อน แต่ก่อนวรินทรเคยเห็นหน้าเขามาก่อนสองถึงสามครั้ง
ดวงตาของวรินทรที่สว่างเป็นประกายยินดีทำให้ปกเกศรู้สึกเย็นสันหลังวาบ!
“ฉันกำลังเบื่ออยู่พอดีเลยค่ะ เมื่อครู่ฉันเห็นว่ามีบ่อเลี้ยงปลาอยู่ตรงนั้น พวกเรามาเล่นพนันกันเถอะ ใครแพ้ต้องโดนลงโทษ!”
ปกเกศเม้มริมฝีปากแน่น!
“ครับ”เขาได้แต่พยักหน้าอย่างจนปัญญา
หลังจากนั้นพวกเขาทั้งสองก็ตกลงกันว่าจะแข่งกันจับปลาในบ่อ แต่ว่าเธอคงไม่คิดจะลงไปจับปลาถึงในบ่อจริงๆหรอกนะ?
พวกเขาทั้งสองคนเดินมาถึงข้างบ่อปลาเจ้าปัญหาพร้อมอุปกรณ์จับปลาในมือก่อนจะลงมือจับปลากันอย่างรวดเร็ว
จนกระทั่งถึงช่วงเวลายามเย็นท้องฟ้าเริ่มกลับกลายเป็นสีส้มพระอาทิตย์เริ่มตกลงไปในทะเลสาบช้าๆ ในใจของวรินทรรู้สึกไม่สบายใจเท่าไหร่
ปลาในถังของปกเกศล้วนแต่เป็นตัวใหญ่ แต่ในถังของเธอมีแต่ปลาตัวเล็กเท่านิ้วก้อยว่ายไปมาอย่างโดดเดี่ยวเพียงแค่ตัวเดียวเท่านั้น มือที่จับคันเบ็ดตกปลาอยู่ก็เมื่อยไปหมดแล้ว แต่เมื่อมาคิดดูปลาที่แพงขนาดนี้ระดับความฉลาดคงอยู่เหนือปลาทั่วไปล่ะมั้ง นอกจากหน้าที่ต้องเสียไปเธอก็ไม่อยากเสียเงินเพิ่มหรอกนะ
วรินทรเงยหน้ามองท้องฟ้าที่เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีส้ม อีกไม่นานทาวัตก็คงกลับมาแล้ว ดวงตากลมโตกวาดมองไปรอบๆ
เธอเหลือบมองไปที่ปกเกศที่ยังคงตั้งหน้าตั้งตาตกปลาไปเรื่อยๆแบบไม่สนใจสิ่งรอบข้าง เธอจึงแอบเอาถังน้ำที่ใส่ปลาของอีกฝ่ายเทกลับไปในบ่อทันที จากนั้นหญิงสาวก็ตบมือแปะแปะราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก่อนจะหันกลับไปมองทาวัตที่กำลังเดินเข้ามาใกล้ เธอจึงเอ่ยทักเบาๆ“ท่านประธาน”
วรินทรนั่งยองๆอยู่ที่พื้นหลบสายตาของชายหนุ่มที่จ้องมาที่เธอ ปกเกศมองดูท่าทางอ่อนน้อมถ่อมตนของวรินทรตาปริบๆ
“ได้ยินว่าพวกคุณสองคนกำลังแข่งกันอยู่หรือ”มือทั้งสองข้างของทาวัตล้วงอยู่ที่กระเป๋ากางเกง ดวงตาคมจ้องมองท่าทางของวรินทรอย่างสบายๆ
“ค่ะ”วรินทรพยักหน้า รอยยิ้มที่ผุดขึ้นบนใบหน้าดูสดใส
“ใครชนะล่ะ ทาวัตถามยิ้มๆ
“ท่านประธานก็มาดูเองสิคะ! นี่คือถังของฉัน ส่วนนั้นของปกเกศ”วรินทรชี้ไปที่ถังน้ำของเธอและของปกเกศหน้าตาย
“คุณวรินทรชนะ ผมแพ้ครับ”ไม่รอให้ทาวัตตัดสิน ปกเกศรีบก้มหน้ายอมแพ้วรินทรแต่โดยดี
“ถ้าแพ้แล้วต้องโดนลงโทษนะคะ! เตรียมตัวไว้ให้ดีเถอะ”วรินทรจ้องมองอีกฝ่ายเขม็งก่อนยิ้มออกมาอย่างร่าเริง
“ครับ”จู่ๆปกเกศก็รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีเท่าไหร่นัก
ทาวัตเองก็ยิ้มกว้างยามมองไปที่ใบหน้าร่าเริงของอีกฝ่าย รอยยิ้มของวรินทรเป็นเหมือนโรคติดต่อที่ทำให้ผู้พบเห็นรู้สึกอยากยิ้มตามขึ้นมา เพราะงั้นเมื่อทาวัตมองเห็นรอยยิ้มนั้นของเธอจึงอดยิ้มตามขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
“เบาใจหน่อย! ฉันก็ไม่ทำให้คุณลำบากใจแน่นอน แค่ตกปลาให้ได้สองร้อยห้าสิบตัวก็พอแล้วค่ะ”วรินทรยิ้มออกมาอย่างซุกซน
ปกเกศแทบจะทรุดลงไปกองกับพื้นเมื่อได้ยินจำนวนปลาที่ต้องตก แบบนี้ไม่เท่ากับว่าเธอจงใจแกล้งเขางั้นหรือ?
“ปกเกศ ถ้าตกไม่ครบไม่ต้องมาให้ผมเห็นหน้านะ”ทาวัตเอ่ยกับปกเกศแบบไม่เห็นใจอีกฝ่ายแม้แต่น้อย ก่อนจะเอื้อมมือไปดึงร่างเล็กของวรินทรให้ลุกขึ้นและเดินจูงมืออีกฝ่ายกลับเข้าคฤหาสน์
วรินทรลอบมองมือบางของตัวเองที่ตกอยู่ในอุ้งมือใหญ่ของทาวัตก็รู้สึกเกร็งขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มเมื่อครู่ของเธอเปลี่ยนเป็นความวิตกกังวลและตกใจในทันที
เด็กชายกวินที่นั่งเรียบร้อยอยู่บนเบาะหลังคนขับเอ่ยขึ้น“อีกเดี๋ยวมามี้กับแดดดี้ของผมก็มาเจอกันที่นี่แล้วฮะ เด็กตัวเล็กๆอย่างผมมาที่นี่ต้องไม่ปลอดภัยอยู่แล้ว แต่โชคดีที่แดดดี้ของผมสนิทกับคุณลุงตำรวจหลายคน มีแดดดี้คอยปกป้องผมอยู่ ผมไม่กลัวหรอกฮะคุณลุง”
คำพูดนุ่มนวลไร้เดียงสาของเด็กน้อยทำให้คนฟังอดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้ คุณลุงขนขับรถเชื่อคำพูดของหนูน้อยหมดใจไม่คิดจะถามอะไรเพิ่มเติมอีก
“นี่เงินฮะคุณลุง”เด็กชายกวินหยิบเงินร้อยหนึ่งออกมาจากกระเป๋า จำนวนเงินพอดิบพอดีไม่มากเกินหรือน้อยเกินไปจากนั้นร่างป้อมก็เปิดประตูและลงจากรถไป
เมื่อจ่ายตังค์ลงไปจากรถเรียบร้อยแล้วเด็กน้อยก็ยืนส่งจนรถแท็กซี่คันนั้นไกลออกไปเรื่อยๆ เด็กชายกวินก็หันกายเดินไปทางทิศที่บ้านเก่าหลังนั้นตั้งอยู่
เมื่อเดินลึกเข้าไปในป่าทึบไม่นานเท่าไหร่ เด็กชายกวินก็พบว่ามีบ้านหลังหนึ่งตั้งโดดเด่นอยู่
บ้านหลังนี้ไม่มีต้นไม้ขึ้นปกคลุมอยู่รอบๆ ดูเหมือนไร้ผู้คนอาศัย แต่ในใจของกวินกลับรู้สึกว่าต้องมีใครบางคนอาศัยอยู่ในที่แห่งนี้แน่นอน
มือป้อมๆของเด็กชายปัดฝุ่นที่เกาะอยู่ตามเสื้อผ้าเล็กน้อยก่อนจะกระชับกระเป๋าที่สะพายอยู่และเดินเข้าไปในบ้านเก่าทันที
เสียงเปิดปิดประตูดังขึ้นจากชั้นล่างทำให้หลายๆคนที่หลบซ่อนตัวอยู่บนชั้นสองลอบมองผู้มาใหม่อย่างเด็กชายกวินผ่านทาง กล้องวงจรปิดรู้สึกเหลือเชื่อและตกใจอย่างมาก พวกเขาไม่อยากเชื่อว่าคนที่แอบเข้ามาในบ้านจะเป็นเพียงแค่เด็กชายตัวเล็กๆเพียงคนเดียว!
ดวงตากลมโตที่เต็มไปด้วยความไร้เดียงสากวาดตามองไปรอบๆห้องอย่างสนอกสนใจ ทำให้คนที่ซ่อนกายอยู่บนชั้นสองลอบถอนหายใจพลางหันมามองหน้ากัน
จนกระทั่งพวกเขากันกลับมาดูภาพในกล้องวงจรปิดอีกครั้งก็พบว่าเด็กชายตัวเล็กๆเมื่อครู่หายไปจากจอภาพเสียแล้ว!
พวกเขาเบิกตากว้างอย่างตกก่อนจะรีบค้นหาภาพจากกล้องวงจรปิดทุกตัวแต่ก็ไม่พบแม้แต่เงาของเด็กชายตัวน้อยจากกล้อง วงจรปิดเลยสักตัว
หลายๆคนในห้องต่างรู้สึกตื่นตัวและเริ่มเข้าสู้โหมดจริงจังอย่างไม่รู้ตัว พวกเขาเริ่มค้นหาภาพจากกล้องวงจรปิดอย่าง
ละเอียดอีกครั้ง ตราบใดที่ยังไม่พบแม้แต่เงาของเด็กชายคนนั้นพวกเขาก็ไม่กล้าเสี่ยงออกไปข้างนอกห้องนี้อย่างแน่นอน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์
ก็รู้นี่นาว่าตอนที่หายไปกำลังท้อง ทำไมไม่ถามถึงเด็ก...