หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป นิยาย บท 26

บทที่ 26 ไร้ความผิดแต่ดวงอาภัพ

   

ไร้สาระสิ้นดี!

   

 เจ้าบ้านั่น จะโวยวายไปถึงไหน นี่จงใจจะเผาให้นางดูหรือ

   

ยามนี้ เย่แจ๋หยิ่งเดินเข้ามาภายในห้องแล้ว นั่งบนเก้าอี้อย่างเกียจคร้าน มองดูหลานเยาเยาที่กำลังยุ่งวุ่นวายกับการยกน้ำชา ในแววตาไม่มีความอบอุ่นเลยสักนิด

   

หลานเยาเยาถือขวดกลิ่นเหม็นประหลาดขวดหนึ่งมาวางไว้ที่ปลายจมูกของพระราชธิดาจาวหยาง เพื่อให้นางฟื้นโดยเร็ว แต่กลับได้ยินเสียงดัง “พึ่บ” จากนั้นก็ได้กลิ่นไหม้ของกระดาษ

   

 นางหันศีรษะไปโดยพลัน ตั๋วเงินห้าร้อยตำลึงใบหนึ่งในมือจื่อซีถูกเผาไปแล้วเกินกว่าครึ่ง ในใจรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาทันใด

   

 เงินห้าร้อยตำลึงเชียว สูญไปเช่นนี้เลยหรือ

   

 พวกใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย!

   

 นางหันศีรษะกลับไปทันใด บอกเป็นนัยว่าตัวนางไม่อยากมอง มิเช่นนั้น ยิ่งดูก็จะยิ่งเจ็บใจ

   

 ทว่า!

   

เมื่อแรกเริ่ม กลิ่นเผากระดาษอันเลวร้ายยังคงลอยมาแตะจมูกเป็นระลอก พอเวลาผ่านไปกลิ่นก็ยิ่งคละคลุ้งขึ้นทุกที แม้แต่มือของหลานเยาเยายังสั่นเทาขึ้นมาอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัวด้วยความปวดใจ นางรู้สึกว่าหากให้นางมองตั๋วเงินจำนวนมากถูกเผาด้วยตาของนางเองนั้น นางคงจะทนไม่ไหวที่จะทะยานไปเล่นงานเขาแรง ๆ อย่างเป็นแน่

   

 เคราะห์ดีที่ยามนี้

   

คิ้วของพระราชธิดาจาวหยางขมวดเข้าหากันเล็กน้อยแล้ว นางรู้สึกเบาใจขึ้นในทันใด ในที่สุดก็สามารถขจัดความทุกข์ทรมานจากกลิ่นไหม้ของตั๋วเงินได้เสียที ดังนั้น นางจึงรวบรวมสมาธิได้อย่างรวดเร็ว

   

 จากนั้นพูดอย่างเฉยชาว่า “นางจะฟื้นแล้ว!”

   

 พอกล่าวไปเช่นนั้น

   

 จื่อซีหยุดเผาตั๋วเงิน มองดูห้องที่สว่างไสว นึกขึ้นในใจในชั่วครู่

พระราชธิดาจาวหยางไม่สามารถมองแสงสว่างได้ มิเช่นนั้นจะล้มป่วย เรื่องนี้หลานเยาเยาทราบดี ทว่าเหตุใดนางจึงยังคงทำเช่นนี้

   

 เย่แจ๋หยิ่งไม่ได้แสดงท่าทีอันใดเป็นพิเศษ สายตาจ้องมองไปยังพระราชธิดาจาวหยางที่กำลังจะฟื้นขึ้นมาในเร็ว ๆ นี้

   

ในมือของหลานเยาเยาจับเข็มเงินที่อาบยาระงับประสาทไว้แน่น นางจำเป็นที่จะต้องเตรียมพร้อมเช่นนี้ไว้ก่อน เพราะอย่างไรก็ดี น้ำเกลือขวดสุดท้ายนั้นเพิ่งจะให้ไปได้เพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้น

   

อีกทั้งยาที่ให้ในวันนี้ล้วนเป็นยาแรงที่มีฤทธิ์เข้มข้นจากวัตถุดิบล้ำยุค ยังคงเหลืออยู่อีกครึ่งขวดที่ยังไม่ได้ให้ เช่นนี้ฤทธิ์ของยาจะต้องเสื่อมลงเป็นแน่ ที่สำคัญคือนางเพิ่งจะดึงเข็มออกมา

   

ทันใดนั้นเอง

   

พระราชธิดาจาวหยางลืมตาขึ้นมาโดยพลัน พอเห็นแสงที่แยงตา แววตาของนางพลันเปลี่ยนเป็นแววตาอันลุ่มหลงขึ้นมาในทันใด จากนั้นราวกับว่านึกถึงบางสิ่งขึ้นมาได้ นางตื่นตระหนกจนขดตัวกลมทันที ทั้งร่างนั้นสั่นสะท้าน

   

“ไม่นะ ไม่ ข้าไม่อยากกลายเป็นตัวประหลาด ไม่.....”

   

“อย่ากลัวไปเลย ท่านจะไม่กลายเป็นตัวประหลาดหรอก ท่านสามารถเป็นดังเช่นคนปกติได้ เชื่อข้าสิ”

   

หลานเยาเยาใช้มือข้างหนึ่งจับมืออันบอบบางขาวซีดของนางไว้ด้วยความระมัดระวัง ส่วนมืออีกข้างตบที่หลังนางเบา ๆ ปลอบประโลมนาง

   

“ไม่มีทางเป็นเช่นนั้น ไม่มีทาง ไม่มีทางดีขึ้นหรอก นี่ก็ผ่านมาสามปีแล้ว ทุกครั้งนางล้วนกลายเป็นตัวประหลาดทั้งสิ้น คราวนี้แน่นอนว่าจะต้องเป็นเช่นเดียวกัน เจ้ารีบไปเถอะ ข้าไม่อยากทำร้ายเจ้า” นางส่ายศีรษะสุดกำลัง

   

 สามปีมานี้ ผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้นางมองไม่เห็นความหวังอีกต่อไป

   

หลานเยาเยาเห็นว่าเป็นเรื่องธรรมดา เพราะต้องอยู่ท่ามกลางความกลัวและความสิ้นหวังมาเป็นเวลายาวนาน ทำให้เกิดอาการคัดค้านและไม่เชื่อใจขึ้น

   

ในเมื่อเป็นแพทย์ สิ่งที่ต้องรักษามิได้มีเพียงอาการป่วยทางร่างกายเท่านั้น แม้แต่อาการป่วยทางจิตใจก็จำเป็นต้องให้การรักษาด้วยเช่นกัน......

   

เช่นนั้นแล้ว ยามนี้สิ่งที่นางต้องทำคือ ใช้น้ำเสียงที่สงบและอ่อนโยนชี้ทางสว่างแก่นาง ทำให้นางกลับมามีความหวังอีกครั้งหนึ่ง

“พระราชธิดา ท่านดูสิ ตอนนี้ท่านรู้สึกตัวดี ท่านลองรับรู้ถึงแขนขาและจิตใจของท่าน ค่อย ๆ ปล่อยตัวตามสบาย จากนั้นเงยหน้ามองข้า รับรู้ถึงแสงสว่างที่ใฝ่หามาโดยตลอด”

   

น้ำเสียงอันไพเราะที่เรียบง่ายและนุ่มนวลของหลานเยาเยาค่อย ๆ แทรกซึมเข้าไปในใจของพระราชธิดาจาวหยาง ทำให้นางพลันรู้สึกสดชื่นสำราญใจดุจดั่งอาบลมในฤดูใบไม้ผลิก็มิปาน

   

 โดยไม่รีบร้อน นางค่อย ๆ เงยศีรษะขึ้นมา มองเห็นใบหน้าที่ยิ้มละมุนของหลานเยาเยา!

   

 “ข้ามองเห็นเจ้าแล้ว ข้ามองเห็นแสงสว่างแล้ว”

   

ขณะที่พูดในใจรู้สึกตื้นตันขึ้นมา ในวินาทีที่มองเห็นหน้าของหลานเยาเยาอย่างชัดเจนนั้น น้ำตาของนางคลอเบ้าก่อนจะไหลรินลงมา จากนั้นกอดนางไว้อย่างแนบแน่น คำพูดนับหมื่นพันล้วนสื่อออกมาจากน้ำตาของนางจนหมดสิ้น

   

“ไม่เป็นไรแล้ว ทุกอย่างจะดีขึ้นเอง อย่ากลัวไปเลย ยังมีข้าอยู่ทั้งคน!” นางยังคงตบหลังนางเบา ๆ พลางปลอบโยนด้วยน้ำเสียงอันแผ่วเบา

���Y)���=�^&y#�

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป