เข้าสู่ระบบผ่าน

หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง นิยาย บท 11

เช้าวันต่อมาหยางเทียนแบกตะกร้าที่ใส่ผูเถาเอาไว้ออกจากบ้านไปตั้งแต่ยามเหม่า พร้อมด้วยหยางเทาผู้เป็นพี่ชาย เป้าหมายคือโรงเตี๊ยมเยี่ยนไหล เช้านี้ทั้งสองคนจะนำเอาผูเถาที่ลูกชายเก็บกลับมาจากภูเขาอู๋หลงเข้าไปขาย ทั้งสองคนไม่รู้ว่าจะขายได้หรือไม่ แต่หยางเสี้ยวบอกเอาไว้ว่าต้องขายได้แน่ ๆ เพียงแต่จะได้มากได้น้อยนั้นขึ้นอยู่กับราคารับซื้อของโรงเตี๊ยม

“น้องรอง ตั้งแต่เสี้ยวเอ๋อร์หายป่วยท่านพ่อบอกว่าหลานเปลี่ยนไปมากหรือ” หยางเทาถามน้องชายถึงความเปลี่ยนแปลงของหลาน

“ใช่ขอรับพี่ใหญ่ เสี้ยวเอ๋อร์เปลี่ยนไปมากจริง ๆ ข้าไม่รู้ว่าตอนที่ลูกล้มป่วยเขาไปเจอเรื่องอันใดมา แต่ไม่ว่าจะเปลี่ยนไปมากแค่ไหน เขาก็ยังคงเป็นลูกชายของข้าเสมอ”

“เจ้าเองอย่าได้คิดมากเลย การที่อาเสี้ยวเปลี่ยนไปในทางที่ดีแบบนี้ก็ดีแล้ว อายุแค่ 8 ขวบปีแต่จิตใจเข้มแข็งกล้าหาญกว่าข้าที่เป็นท่านลุงอีก อาเชวียนเล่าว่าอาเสี้ยวสอนวางกับดักด้วย เสียดายที่พวกเราไม่มีเงินส่งเสียให้ลูกได้เรียนหนังสือ ด้วยความฉลาดของพวกเขาข้าคิดว่าต้องสอบได้เป็นซิ่วไฉแน่”

“ไม่แน่ว่าในอนาคตชีวิตของพวกเราอาจจะดีขึ้นก็ได้ ข้าเองรู้สึกละอายใจมาก ข้ารู้สึกว่าข้าเป็นบิดาที่ไม่ได้เรื่องได้ราวอะไร ตอนนี้คงต้องมาพึ่งพาลูกชายอายุเพียงแค่ 8 ขวบปีหาเงิน ข้าเป็นพ่อแท้ ๆ แต่กลับคิดอะไรไม่ได้เท่าอาเสี้ยว”

“เจ้าอย่าคิดมากเลยน้องรอง นับว่าสวรรค์เห็นใจครอบครัวของเรา ถึงไม่พรากอาเสี้ยวไปจากเจ้า ตอนนั้นอาเชวียนบอกว่าอาเสี้ยวนอนป่วยไม่ได้สติอยู่ตั้งสามวัน เจ้าอย่าได้โทษตัวเองเลย ไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นหรอกนะ”

“ข้าเข้าใจขอรับพี่ใหญ่ การที่ข้าไม่เสียอาเสี้ยวไปนับว่าสวรรค์เมตตาข้าแล้ว”

ในระหว่างที่สองพ่อไปขายของป่าในเมือง สองลูกอย่างหยางเสี้ยวกับหยางเชวียน หลังจากกินมื้อเช้าแล้วทั้งสองคนก็เข้าป่าเช่นเคย หยางเสี้ยวยังคงหวังว่าจะพบเจออะไรก็ตามที่มันสามารถกินได้

“ทั้งสองคนอย่าได้เข้าไปในป่าลึกมากเข้าใจหรือไม่”

“ข้าเข้าใจขอรับท่านแม่”

“อาสะใภ้รองวางใจได้ พวกข้าจะระวัง”

“ท่านพี่ ท่านไม่ต้องห่วงนะ ข้าจะช่วยท่านแม่ถางหญ้าในสวนหลังบ้านเอง เสี่ยวไป๋ก็จะช่วยด้วย” หยางเสียน

“ขอบใจนะน้องเล็ก เดี๋ยวพี่ชายจะเอาผลไม้อร่อย ๆ มาฝาก”

“ท่านแม่ บ้านเรามีเมล็ดมันเทศหรือไม่ขอรับ”

“มันเทศหรือ มันเทศคือสิ่งใดแม่ไม่รู้จัก”

“แล้วเผือกเล่าขอรับ มีหรือไม่”

“เผือกหรือ ที่บ้านเราไม่มีหรอกลูก เผือกมีแต่อยู่ในป่าซึ่งหายากเข้าไปทุกวันแล้ว” เสิ่นซื่อทอดถอนใจ

“ทำไมเราไม่ปลูกเอาไว้เล่าขอรับท่านแม่”

“ปลูกหรือ ไม่มีใครเขาปลูกกันน่ะสิ”

“ขอรับข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นท่านแม่เตรียมเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดเอาไว้ให้ข้าด้วยนะขอรับ”

“ได้สิ แม่จะเตรียมเอาไว้ให้นะ”

“ขอบคุณท่านแม่ขอรับ พี่ใหญ่เชวียนเราไปกันเถอะขอรับประเดี๋ยวจะร้อนเอาได้”

“ไป รีบไปกันเถอะ อาสะใภ้รองพวกเราไปก่อนนะขอรับ”

จากการสอบถามท่านแม่ ที่แห่งนี้มีเผือก มีข้าวโพดแต่ไม่มีมันเทศและไม่น่าจะมีมันฝรั่ง เผือกมีแค่ในป่าแต่ไม่มีใครปลูก เป็นแบบนั้นก็ดี ในเมื่อไม่มีใครปลูก เขาจะเป็นคนแรกที่ปลูก ต่อไปจะได้ไม่ต้องกังวลว่าจะมีอาหารไม่พอ ก่อนอื่นต้องคุยกับท่านพ่อเรื่องซ่อมแซมบ้าน เงินไม่พอก็อาศัยไม้ในป่าก็แล้วกัน หรือจะเป็นไม้ไผ่ก็ดี เมื่อไหร่ที่มีเงินค่อยสร้างบ้านอิฐหลังคากระเบื้อง

ทางด้านหยางเทียนที่เข้าเมืองมาเพื่อขายผูเถาตอนนี้เขาก็มาถึงโรงเตี๊ยมเยี่ยนไหลแล้ว หยางเทาเองเกิดความลังเลไม่แน่ใจเขาได้แต่มองหน้าน้องชาย ในใจคิดว่าถ้าขายได้ก็ดี แต่ถ้าขายไม่ได้ก็อดเสียดายอยู่บ้าง แต่ถ้าหากขายไม่ได้จริง ๆ ก็เอากลับไปให้ลูก ๆ กิน เท่านี้ก็นับว่าไม่มีอะไรเสียหาย

“พี่ชาย ข้าขอถามหน่อยจะได้หรือไม่ ไม่ทราบว่าโรงเตี๊ยมของพวกท่านรับซื้อผลไม้ป่าหรือไม่ขอรับ” หยางเทียนถามเสี่ยวเอ้อร์ที่กำลังกวาดลานด้านหน้าอยู่

“รับสิ แต่ต้องเป็นผลไม้ที่หายากสักหน่อยนะ จำพวกซานจาหรือว่าพุทราพวกนั้นไม่รับหรอกนะ พวกเจ้ามีผลไม้อะไรมาขายล่ะ ให้ข้าดูหน่อยจะได้หรือไม่”

“เป็นผูเถาดำขอรับ”

“อะไรนะ! เจ้าพูดจริงหรือไม่ ? รีบเอาออกมาให้ข้าดูเร็วเข้า”

หยางเทียนหยิบองุ่นในตะกร้าสะพายหลังของหยางเทาออกมาหนึ่งพวง เพื่อให้เสี่ยวเอ้อร์ดู เสี่ยวเอ้อร์พอเห็นว่าเป็นผูเถาดำที่หายาก เขาจึงเด็ดชิมเสียหนึ่งลูก รสชาติหวานกรอบ อร่อยเป็นอย่างมาก เสี่ยวเอ้อร์รีบกระตือรือร้นพาสองพี่น้องไปพบกับหลงจู๊ทันที

“ไป พวกเจ้าทั้งสองคนตามข้ามา ข้าจะพาไปหาหลงจู๊ น่าจะอยู่ด้านหลังตรงลานรับซื้อของป่า พวกเจ้าเดินตามมา”

“ขอบคุณท่านมากขอรับ”

ที่สำคัญที่บ้านนอกจากพวกเขาสองพี่น้องที่เป็นเสาหลักของครอบครัวแล้ว นอกจากนั้นล้วนเป็นคนชรา ภรรยาผู้อ่อนแอและเด็กเท่านั้น พอหลงจู๊ได้ฟังเหตุผลถึงกับตบโต๊ะด้วยความโมโห และรับปากว่าจะช่วยทั้งสองคนรักษาความลับเอาไว้ หลังจากที่ได้พูดคุยกันกับหลงจู๊ถึงได้ทราบว่าครอบครัวผู้ใหญ่บ้านน่าจะทำการค้าอยู่กับโรงเตี๊ยมฟาไฉที่เป็นคู่แข่งกับโรงเตี๊ยมเยี่ยนไหลแห่งนี้

หลังจากได้รับเงินค่าผูเถามา 12 ตำลึง หยางเทียนแบ่งให้พี่ชาย 6 ตำลึง หยางเทามองเงิน 6 ตำลึงในมือ นี่เป็นเงินที่มากที่สุดในชีวิตของเขาที่เคยมี ด้วยจำนวนเงิน 6 ตำลึงนี้ ปีนี้พวกเขาคงผ่านหน้าหนาวไปได้ด้วยดี

ทุกคนในบ้านจะมีเสื้อผ้าชุดใหม่ มีผ้าห่มที่ทั้งอุ่นและหนา มีทั้งอาหารที่พอเพียง เรื่องดี ๆ แบบนี้จะไม่เกิดขึ้นเลยถ้าไม่มีความกล้าหาญของหยางเสี้ยว หยางเทาดีใจจนน้ำตาคลอหน่วย

“พี่ใหญ่ กลับบ้านกันเถอะขอรับ มีเรื่องอะไรค่อยคุยกันหลังจากกลับถึงบ้าน”

“ดูสิ ข้ามัวแต่ดีใจ กลับบ้านกันเถอะ ข้าเองก็คงต้องเรียนรู้จากหลานชายเสียแล้ว ดีใจด้วยนะน้องรองที่เจ้ามีบุตรชายที่กล้าหาญ พวกเราเสียอีกเป็นผู้ใหญ่แล้วแท้ ๆ กลับมีความกล้าไม่เท่ากับเด็ก 8 ขวบเลย ช่างน่าละอายนัก”

“พี่ใหญ่อย่าได้โทษตัวเองเลย พวกเราเป็นเพียงชาวไร่ชาวนา อีกอย่างมันก็ช่วยไม่ได้ที่พวกเราจะไม่กล้าขึ้นเขาอู๋หลง ใครใช้ให้พวกผู้ใหญ่บ้านโกหกล่ะ ไม่ใช่เพราะว่าพวกเขาเป็นถึงผู้นำของหมู่บ้านหรือยังไง พวกเราถึงได้เชื่อคำพูดโกหกพวกนั้น”

ภายในป่าลึกที่เป็นส่วนหนึ่งของภูเขาอู๋หลง หยางเสี้ยวเดินนำหน้าหยางเชวียนเข้าไปในป่า ภูเขาอู๋หลงนับว่าอุดมสมบูรณ์มาก ดูจากขนาดของเห็ดป่าที่พวกเขาเก็บ เห็ดหอมมีขนาดใหญ่เท่ากับกำปั้นเด็กเลยทีเดียว นอกจากเห็ดหอมแล้วยังมีเห็ดป่าอีกหลายอย่าง นับว่าวันนี้พวกเขาเข้าป่ามาไม่เสียเที่ยว

“เห็ดนี่ดอกใหญ่มาก กลิ่นหอมมากด้วย มิน่าเล่ามันถึงได้ชื่อว่าเห็ดหอม” หยางเชวียน

“ใช่แล้ว เห็ดหอม อร่อยมาก เราสามารถเอาไปตากแห้งเก็บเอาไว้กินในหน้าหนาวได้ด้วย ข้าชอบน้ำแกงไก่ตุ๋นเห็ดหอมมากเลยล่ะ หากวันนี้กับดักของพวกเราได้ไก่ฟ้าสักตัวก็คงจะดีไม่น้อย” หยางเสี้ยว

“ไก่ฟ้า 3 ตัวเมื่อวาน บ้านเจ้าทำอาหารไปหมดแล้วรึ” หยางเชวียนถามออกมาด้วยความสงสัย

“ยังหรอก เพราะท่านแม่ข้าเห็นว่ามันเป็นตัวเมียกับตัวผู้พอดี ก็เลยเอามันไปเลี้ยงเอาไว้ในเล้าไก่น่ะสิ หากอยากกินน้ำแกงไก่เห็นทีก็คงต้องหวังพึ่งกับดักเสียแล้วล่ะ”

“ก็คงเป็นอย่างที่เจ้าว่ามา พวกเราไปกันเถอะ ยังต้องไปตรวจกับดักอีก ไม่รู้ว่าท่านพ่อกับอารองจะขายผูเถาดำได้หรือไม่”

“ย่อมได้อยู่แล้ว เชื่อข้าสิ แต่จะได้มากได้น้อยเท่าไหร่ก็แล้วแต่ราคาที่โรงเตี๊ยมรับซื้อแล้วล่ะ ไม่ต้องกังวลไปหรอก”

“อื้ม ข้าเชื่อเจ้านะอาเสี้ยว ไปกันเถอะ ไปตรวจกับดักกัน จะได้กลับบ้านไปรอพวกท่านพ่อ”

“ตกลง”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง