กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊ นิยาย บท 293

“ใช่!”

คำตอบของเวธัสในครั้งนี้ตรงไปตรงมาเป็นพิเศษ เขาไม่ลังเลแม้แต่น้อย

“ขอแค่เขายอมออกห่างจากคุณ ผมสามารถให้ค่าชดเชยสิบเท่าร้อยเท่ากับเขาทันที ถ้าให้ผมต้องดูคุณแต่งงานกับเขา และปล่อยให้ลูกๆ ของผมเรียกคนอื่นว่าพ่อหรอ เป็นไปไม่ได้!”

“แม้ว่าคืนนี้คุณจะไม่ตกลงจริงๆ ก็ตาม ไม่เป็นไร ถ้ารอบข้างคุณมีผู้ชายเข้ามาพัวพันเท่าไหร่ ผมก็จะจัดการให้หมด!”

“คุณบอกว่าคุณไม่เคยทรยศผม คุณบอกว่าคุณไม่ได้เป็นคนของเก้า ตอนนี้ผมพร้อมจะเชื่อคุณแล้ว แล้วคุณล่ะ? คุณไม่ให้โอกาสผมสักครั้งเลยเหรอ?”

ณิชาจ้องไปที่เขาด้วยความงุนงง ทันใดนั้นก็ไม่รู้จะยิ้มหรือจะหัวเราะดี

เขาทำแบบนั้นกับธนาและพ่อแม่ของเขา แต่เขาก็ยังไร้ยางอายได้ขนาดนี้...

ต่อให้เธอมีผู้ชายมาพัวพันกี่คน เขาจะจัดการให้หมดเหรอ?

“ผู้ชายที่มาผัวพันกับฉันมากที่สุดก็คือคุณ เธอจัดการตัวเองได้...อืม...”

เวธัสเอนตัวลงมาและจับริมฝีปากเชอร์รี่ของเธอไว้ ก่อนจะจูบอย่างไร้ยางอาย

เขาอยากบอกเธอว่าเขาคือคนที่ลากเธอไปที่ห้องมืดในคืนนั้นของเมื่อครึ่งเดือนก่อน ตอนนั้นเขาเห็นเธอและธนาอยู่ด้วยกัน เขาก็โกรธมาก จนอดไม่ได้ที่จะลากเธอไปที่คฤหาสน์สนธิไชย...

หลังจากนั้น เขาก็รู้สึกเสียใจมาก ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงแสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วส่งเธอกลับไปอย่างเงียบๆ

แต่ในสถานการณ์ตอนนี้ การพูดออกมามันจะยิ่งทำให้เธอรังเกียจมากขึ้นเท่านั้น

“อย่า...” ณิชาโดนเขาเล่นงานจนเจ็บไปหมด

เวธัสทำเหมือนกับว่าเขาไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน เขาเปิดปากของเธอ เขาราวกับสัตว์ร้ายที่อาละวาด ที่เอาแต่จะพุ่งตรงไปอย่างดุเดือด ในไม่ช้ามุมปากของพวกเขาก็ถูกกัด และกลิ่นเลือดก็แทรกซึมระหว่างริมฝีปากของพวกเขา...

ณิชาถูกเขากอดไว้แน่น จนเธอไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เลย

ความอัปยศ ความโกรธ ความน้อยเนื้อต่ำใจ ความเกลียดชัง อารมณ์นับไม่ถ้วนที่ปรากฏขึ้นมา ในที่สุด อากาศในปอดของเธอก็ดูเหมือนจะหมดลง และจูบอันเร่าร้อนในครั้งนี้ก็จบลง

เวธัสกอดเธอไว้อย่างลึกซึ้ง น้ำเสียงของเขาแหบแห้ง แต่ก็อ่อนโยนมาก “คุณพนันกับผมไหม”

สมองของณิชายังคงขาดออกซิเจนอย่างมาก ทำให้ยากต่อการคิดทบทวน

“พนันอะไร”

“พนันว่าภายในหนึ่งนาที คุณจะไม่ปฏิเสธการสวมแหวนวงนี้”

ณิชาได้สติมากขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อเธอได้ยินการเดิมพันของเขา เธอก็เยาะเย้ย

มือเป็นของเธอ เธอปฏิเสธได้ทุกที่ทุกเวลา

ก็แค่หนึ่งนาที ณิชาไม่เชื่อหรอก

เธอผลักเขาออกไป และเดินไปที่ดาดฟ้าคนเดียวเพื่อรับอากาศบริสุทธิ์

เวธัสเม้มริมฝีปากบางของเขา เขากำแหวนในมือไว้แน่นแล้วเดินตามเธอไป แต่ดวงตาของเขามองไปที่น้ำทะเลอันเงียบสงบ

ตอนนี้มันมืดสนิทแล้ว

มองออกข้างใน มีแต่คลื่นที่ระยิบระยับ

“ผมรู้ว่าคุณว่ายน้ำไม่เก่ง” เวธัสยืนข้างณิชาและทันใดนั้นเขาก็พูดขึ้นมา

ณิชาไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆเขาก็พูดแบบนี้

ทันทีหลังจากนั้น เธอเห็นว่าเขาจ้องไปที่น้ำและจ้องไปที่เธอ เขาเอื้อมมือออกมาราวกับจะผลักเธอ

ดวงตาของณิชาเบิกกว้าง เธอก้าวถอยหลังอย่างประหม่า เป็นไปได้ไหมที่เธอปฏิเสธการขอแต่งงานของเขา ดังนั้นเขาจะแก้แค้นเธอแบบนี้เลยเหรอ?

“เวธัส ฉันว่ายน้ำไม่เป็นนะ คุณอย่าทำอะไรบ้าๆ นะ...”

ดวงตาสีดำของเวธัสมืดสนิท เขายังคงดึงเธอด้วยสีหน้าที่จะยิ้มแต่ก็เหมือนจะไม่ยิ้ม “ไม่เป็นไร คุณว่ายน้ำไม่เป็นแต่ผมว่ายเป็น”

ณิชาตกใจเกินกว่าจะพูดได้ ตอนที่มือของเขากำลังจะแตะแขนเธอ เธอก็ผลักเขาออกอย่างแรงที แต่เวธัสไม่ขัดขืน และเขาก็ตกลงไปในน้ำ...

ตอนนี้เป็นฤดูใบไม้ร่วงและน้ำเย็นมาก ณิชานึกถึงบาดแผลที่แขนขวาของเขา เธอแอบรู้สึกเสียใจเล็กน้อย เธอพยายามดึงเขาด้วยความกลัว

เขาเป็นบ้าไปแล้ว!

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ณิชาไม่คาดคิดก็คือเวธัสคว้าแขนของเธอและดึงเธอเข้าไปในอ้อมแขนของเขา

ตุ้ม

ทั้งสองตกลงไปในทะเลพร้อมกัน

ณิชากลัวน้ำมาก เธอจึงพยายามตะเกียกตะกายขึ้นจากน้ำ น้ำจากคลื่นทะเลซัดเข้าจมูกของเธอเรื่อยๆ เธอสำลักจนรู้สึกแสบจมูก

“กอดผมไว้”เวธัสพยายามรักษาสมดุล และพยุงเอวเธอด้วยมือข้างเดียว

ความกลัวการจมน้ำมันเหนือกว่าทุกสิ่ง ณิชารีบเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของเวธัส มือของเธอโอบรอบคอเขา ผมยาวของเธอเปียกไปหมด ร่างกายของเขาลอยอยู่ในน้ำ เธอดูตื่นตระหนกมาก

ในที่สุดทั้งสองก็ค่อยๆ รักษาสมดุลในน้ำได้

เวธัสจับมือเธออย่างเงียบ ๆ

ภายใต้แสงจันทร์ที่สว่างไสว ณิชาไม่รู้ว่าเขาสวมแหวนเพชรลงบนนิ้วนางของเธอตอนไหน มันดูสวยงามมาก และแสงก็กระทบลงมาจนเปร่งประกายระยิบระยับ

“จับคุณไว้ได้แล้ว” เขาจับมือเธอและก้มลงจูบนิ้วนางของเธอ “ณิชา คุณแพ้พนันแล้ว”

ณิชาโกรธมากจนน้ำตาไหล เธอกัดเขาที่คอ เธออยากจะกดจนให้เขาเลือดไหลออกมาเลย และปากเธอก็เอาแต่ด่าว่าเขา “เวธัส คุณมันบ้า! ทำไมถึงได้มีคนสารเลวแบบคุณเนี่ย”

……

ในคืนนี้เอกพาปัณณ์และอรัลไปที่ร้านอาหารเพื่อกินข้าว

หลังจากกลับไปที่บ้าน ไม่ว่าจะรอยังไงณิชาก็ไม่กลับมา

ที่สำคัญที่สุดก็คือ ณิชาไม่ได้โทรหาพวกเขา

สถานการณ์แบบนี้มันผิดปกติมาก

อย่างน้อยเมื่อก่อน ต่อให้ณิชาจะต้องทำงานล่วงเวลาและไม่สามารถกลับมาได้ เธอก็จะบอกเด็กสองคนล่วงหน้า

เอกกำลังเล่นเกมกับเด็กน้อยสองคนในห้องนั่งเล่น มันเป็นเกมที่ง่ายมาก ก็คือเกมต่อสู้กับสัตว์ประหลาด แต่ทั้งสองกำลังแข่งขันกันที่ความเร็วของมือ ในหนึ่งนาทียิ่งถ้าใครต่อสู้กับสัตว์ประหลาดได้มากกว่าก็จะชนะ

เอกพบว่าเขาไม่สามารถเอาชนะคุณหนูทั้งสองคนได้!

“ไม่เล่นแล้ว” ปัณณ์ทิ้งจอยเกมในมือทิ้งก่อน และยังแอบดูถูกเล็กน้อย “คุณอาไม่ได้เรื่องเลย ผมจะไปหาหม่ามี๊”

อรัสก็วางจอยเกมในมือ และตามปัณณ์ไปเพื่อฟังโทรศัพท์

เอกรีบหยุดเด็กน้อยทั้งสอง “เดี๋ยวก่อน คุณหนู คุณณิชาอาจจะไม่กลับมาในคืนนี้ ต่อให้โทรหาก็อาจจะโทรไม่ติด ให้ผมเล่นเกมกับคุณหนูต่อเถอะนะ?”

เด็กน้อยขยับหูเล็กๆ ของเขาและจ้องมาที่เขาอย่างจดจ่อ “หมายความว่ายังไง หม่ามี๊จะไม่กลับมาคืนนี้”

“พ่อมารับหม่ามี๊ไปหรอ” อรัลคาดเดาอย่างเงียบๆ

“เอ่อ...” เอกเกาหัวเพราะกลัวว่าเด็กน้อยจะโมโห เขาจึงรีบยิ้มแล้วพูดว่า “แผลที่แขนขวาของคุณผู้ชายฉีกอีกครั้ง คุณณิชาไปที่โรงพยาบาลเพื่อดูแลเขา...”

“ถ้าไปโรงพยาบาล ทำไมโทรไปหาไม่ได้”

“คุณไม่ได้พูดความจริง” ดวงตาสีเข้มของอรัลหรี่ลงเล็กน้อย และพูดอย่างราบเรียบว่า “หม่ามี๊อยู่ที่ไหน?”

เอกใกล้จะบ้าตายแล้วจริงๆ

นี่เขาถูกเด็กสองคนบีบบังคับจนพูดไม่ออกเลยเหรอ

เขาพูดตะกุกตะกักอยู่ครู่หนึ่ง และกำลังจะหาข้ออ้างว่าไปปัสสาวะ ในตอนนั้นเขาก็ได้ยินเสียงบิดของลูกบิดประตูนอกบ้าน จากนั้นประตูก็ถูกผลักเปิด ณิชาและเวธัสก็กลับมาจากข้างนอก

ปัณณ์ดีใจจนเกือบจะกระโดดไปอ้อนเขา แจ่ก็ถูกแหวนเพชรที่นิ้วนางของณิชาดึงดูด...

รอยยิ้มบนใบหน้าเล็ก ๆ ของเขาหายไปในทันที

ดวงตาของอรัลเปร่งประกาย

เอาเถอะ เขานี่มันนกสองหัวจริงๆ

เขาหวังว่าหม่ามี๊กับพ่อจะคืนดีกันมากกว่า แบบนี้ครอบครัวเราทั้งสี่คนจะได้กลับมารวมกันอีกครั้ง

ณิชาเห็นว่าเด็กน้อยกำลังจ้องไปที่นิ้วนางของเธอ เธออยากจะปกปิดไว้ แต่เธอรู้สึกว่ามันไม่จำเป็น

ชายร่างสูงที่อยู่ข้างๆ จับมือเธอไว้ ก่อนจะประสานนิ้วกับเธอ และประกาศต่อหน้าเด็กน้อยทั้งสองคน

“ในทะเบียนบ้านมีคนเพิ่มมาอีกสองคน”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊