กามเทพน้อยสานรักของแด๊ดดี๊หม่ามี๊ นิยาย บท 559

ภายในกองถ่าย เจนนี่เก็บกระเป๋าของตัวเองก่อนจะเดินออกมาข้างนอก

ไม่อยากจะสร้างปัญหาอีกต่อไป ครั้งนี้เธอออกไปทางประตูหลัง ไม่ได้บอกใครทั้งนั้น แต่เพิ่งจะวิ่งออกมาได้ไม่กี่ก้าว ก็ได้รับโทรศัพท์จากผู้จัดการ

“เจนนี่ คุณกำลังคบกับคุณธามไทเหรอ?”จู่ๆผู้จัดการก็พูดออกมาขนาดนี้ ทำเอาเจนนี่ตกใจจนใจสั่นสะดุ้ง

เธอโบกมืออย่างไม่หยุด “ไม่ใช่ นี่มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้แน่นอนอยู่แล้ว！”

ผู้จัดการเป็นผู้จัดการมือทองที่ชาลีส่งมาให้กับเธอ เจนนี่เป็นแค่นักแสดงตัวเล็กๆที่ไม่ได้อยู่ในกระแสคนหนึ่งเท่านั้น แต่เนื่องจากคุณชาลีเป็นคนออกคำสั่งด้วยตัวเอง เธอก็เลยต้องค่อนข้างให้ความสนใจ “อาจจะเป็นเพราะว่าคุณทำให้ธามไทรู้สึกประทับใจในตัวคุณ เมื่อตะกี้ธามไทก็เลยเป็นฝ่ายกดติดตามคุณในทวิตเตอร์เองเลย ทำให้คุณขึ้นเทรนด์การค้นหายอดนิยมไปด้วย เจนนี่ คุณอาจจะโด่งดังแล้วก็ได้นะ”

เจนนี่อึ้งตะลึงไป ก่อนจะรีบดูข่าวทันที

แฟนคลับของเธอที่เดิมทีก็มีอยู่ไม่กี่ล้าน แต่ตอนนี้เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจนน่ากลัว ใกล้จะแตะสิบล้านแล้ว！

แต่ความคิดเห็นข้างล่าง ล้วนแต่ต่อว่าเธอเหมือนกันหมด บอกว่าเธอเกาะกระแส ไม่คู่ควรกับธามไท

เจนนี่หนังหัวเริ่มรู้สึกชา พบว่าตัวเองมีผู้ติดตามใหม่เพิ่มขึ้นไม่น้อย ที่เห็นได้อย่างสะดุดตาก็คือธามไท

#ธามไทเจนนี่ #ธามไทติดตามเจนนี่ #สามีมีแฟนแล้ว #คำค้นหาอื่นๆ ติดเทรนด์การค้นหายอดนิยมแล้วจริงๆ

ที่น่าแปลกที่สุดก็คือ ในอินเทอร์เน็ตยังมีภาพรั่วไหลที่ดูคลุมเครือมากๆพวกนั้นอีกด้วย เป็นภาพที่เธอนั่งต่อบทด้วยกันกับธามไทอยู่ใต้ร่มไม้ นักข่าวเล่าเรื่องตามภาพ พรรณนาความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับธามไทจนกลายเป็นเรื่องราวการแอบรักกันต่างๆนานา เจนนี่รู้สึกอยากตายแล้วจริงๆ！

เธอแค่อยากที่จะถ่ายละครอย่างเงียบๆ ไม่ได้หรือไง?

ผ่านไปนานสองนานผู้จัดการไม่ได้ยินเจนนี่พูดตอบ ได้ยินแค่เสียงสูดลมหายใจด้วยความตกใจของเธอเท่านั้น

ขณะที่กำลังจะพูดอะไรออกมานั้น ก็ได้ยินเจนนี่สบถคำหยาบออกมา ทำเอาคำพูดปลอบประโลมของเธอไหลกลับลงไปทันที

หลังจากที่พูดคุยกันเสร็จ โทรศัพท์ของเจนนี่ก็ถูกคนโทรมาจนแทบจะระเบิด บรรดานักข่าวที่นิสัยไม่ดีใส่ใจเธอซะยิ่งกว่าแม่ของเธอเสียอีก เจนนี่ปิดเครื่องไปทันทีด้วยความโมโหเกรี้ยวกราด หงุดหงิดจนอยากจะรีบกลับบ้านไปให้โดยเร็ว แล้วเปิดบัญชีสำรองเพื่อมาต่อต้านกับพวกแอนตี้แฟนพวกนี้ พวกติ่งแฟนคลับของธามไทมาร้องห่มร้องไห้ที่เธอตามปกติก็ไม่เป็นไร แต่ยังมีคนมาด่าครอบครัวของเธออีกด้วย……

เจนนี่รู้สึกอัดอั้นจะตายอยู่แล้ว

เธอรีบวิ่งไปที่ริมถนนกะที่จะโบกรถ ทางเป็นถนนเล็กๆสายหนึ่ง เงาไม้ทั้งสองข้างทางของถนนพลิ้วไหว จู่ๆก็มีมือมือหนึ่งยื่นออกมาจากข้างหลัง อุดปากของเจนนี่เอาไว้

ตอนที่เจนนี่ไม่ทันได้ตะโกนข้อความช่วยเหลือนั้น คนนั้นก็ลากเธอไปที่หลังกำแพงในที่มืด！

เจนนี่อกสั่นขวัญหาย ถลึงตาโตด้วยความตกใจกลัว มือเท้าเตะไปยังคนร้ายที่กำลังพันธนาการเธอเอาไว้

ความปลอดภัยบริเวณกองถ่ายมันย่ำแย่ขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน?

การกระทำของผู้ชายคนนี้หยาบคายรุนแรงมากๆ ถึงขนาดที่ระเบิดอารมณ์ที่ร้อนแรงออกมาอย่างหมดความอดทน สองมือค้ำเอาไว้ที่ตรงกำแพงทั้งสองข้าง ไม่ให้เวลาเธอตอบสนองกลับ รูปร่างที่สูงใหญ่ก็ปกคลุมลงมา

จากนั้นหัวก็ก้มลงมา ริมฝีปากที่เรียวบางทั้งข้างก็ประกบมาบนริมฝีปากของเจนนี่อย่างแม่นยำ

ริมฝีปากแนบเข้าด้วยกัน จูบของเขาราวกับลมพายุโหมกระหน่ำ เจนนี่ตกใจจนเหงื่อไหลเต็มแผ่นหลัง

จบแล้ว สเปรย์พริกไทยของเธอก็ใช้จนหมดเกลี้ยงแล้วด้วย

แต่ว่า……ลมหายใจนี้ทำไมมันถึงคุ้นเคยอยู่เล็กน้อยกันนะ?

เธองอศอกไปชนเข้ากับหน้าอกของผู้ชายคนนี้ สติสัมปชัญญะของชาลีพังทลายไปจนหมดแล้ว น้ำเสียงในลำคอที่แหบแห้งพูดเค้นออกมา “ผมเอง”

“ใครจะไปรู้ว่าคุณคือ……ชาลี?”น้ำเสียงของเจนนี่เปลี่ยนเป็นแข็งกระด้างขึ้นมาทันที

กลิ่นของเหล้าไวน์ที่ผสมปนเปกัน เจนนี่ผลักเขาออกด้วยความรังเกียจ ชาลีกลับยิ่งกอดแน่นมากขึ้น ยืดเอวขึ้นอย่างดุดัน “ให้ผมเถอะ！”

สีหน้าของเจนนี่แข็งทื่อ

ฝ่ามือใหญ่ที่หยาบกร้านของชาลีล้วงเข้าไปที่ชายเสื้อของเธอ ราวกับหมาป่าหิวโซที่เพิ่งออกมาจากกรง ความสั่นสะเทือนที่ทั้งแปลกหน้าทั้งคุ้นเคยนี้พุ่งพรวดออกมา เจนนี่กัดปลายลิ้นของเขาอย่างแรง ในปากคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นคาวเลือดจางๆ

ชาลีเจ็บจนสูดหายใจเข้าลึกๆ ถอยออกมาจากปากของเธอ……

เขามองเหยียดลงมา แววตาของเขาแดงก่ำ จ้องมองเธอตาเขม็ง มีเปลวไฟที่แปลกประหลาดลุกโชนขึ้นมาในตัว