เข้าสู่ระบบผ่าน

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี นิยาย บท 148

เกมทั้งสองเกมทำขึ้นมานานแล้ว มีปัญหาสะสมมากมาย ไม่รู้จะต้องเริ่มแก้ที่ตรงไหนดี

โชคดีที่บอสเผยแนะนำจุดที่ดีมากในการเริ่มต้น นั่นก็คือช่องทางการจับจ่ายในเกม!

ตัดช่องทางเก็บเงินผู้เล่นออกหมด เหลือไว้แค่อย่างเดียว

ถือว่าเป็นงานที่ยากมาก เพราะทั้งสองเกมมีช่องทางเก็บเงินผู้เล่นเป็นสิบๆ

มีทั้งกิจกรรมสะสมยอดเติมเงิน มีไอเทมให้ซื้อ รวมถึงช่องทางอื่นๆ ให้ผู้เล่นใช้เงิน…

พูดได้ว่าตรงไหนสามารถเก็บเงินได้ พวกเขาทำหมด

การจะเอาช่องทางเก็บเงินพวกนี้ออกไม่ได้ง่ายเหมือนปิดประตูห้างสรรพสินค้า

เพราะช่องทางเก็บเงินพวกนี้มีความเชื่อมโยงกับเกมทั้งเกม

เพื่อให้มั่นใจได้ว่าคนที่เติมเงินห้าร้อยหยวนจะชนะคนที่เติมเงินหนึ่งร้อยหยวนได้ ส่วนคนที่เติมเงินหนึ่งร้อยหยวนก็สามารถจัดการคนที่เติมเงินแค่สามสิบหยวนได้ พวกเขาต้องวางแผนออกแบบระบบเกมมาให้เหมาะสมเพื่อให้การันตีได้ว่าผู้เล่นจะเก่งขึ้นตามยอดการเติมเงิน

ความเก่งกาจที่เพิ่มขึ้นของผู้เล่นนั้นเชื่อมโยงกับระบบต่อสู้ภายในเกม ซึ่งจะส่งผลกับสภาพแวดล้อมในเกมด้วย ก็เหมือนมีสัตว์กินเนื้อกับสัตว์กินพืชปะปนกันอยู่ในป่า

ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าปัญหาอยู่ที่การออกแบบระบบ

เป็นเหตุผลว่าทำไมนักออกแบบระบบจึงถือว่าเป็นตำแหน่งที่สูงมากภายในประเทศ เป็นรองแค่หัวหน้าฝ่ายออกแบบ การออกแบบระบบมักจะเป็นตัวกำหนดรูปแบบการเล่นของเกมที่มีการวางเพดานค่าใช้จ่าย

การเปลี่ยนช่องทางการเก็บเงินผู้เล่นก็เท่ากับเป็นการเปลี่ยนการออกแบบระบบ หมายความว่าต้องหาทางแบ่งแยกผู้เล่นที่เติมเงินแต่ละระดับใหม่

การแบ่งแยกผู้เล่นที่ว่านี้ หากทำผิดพลาดจะทำให้ระบบที่วางไว้ล่มไม่เป็นท่า ไม่มีใครจะแก้ได้อีก

ก็เหมือนเรื่องที่เกิดขึ้นกับเกมเพลงรบโลหิต หลังจากโดนผู้เล่นด่าเปิง รายได้ก็ตกลงฮวบฮาบ หัวหน้าหลิวตั้งราคาดาบไว้แพงเกินไป ปัญหาการวางระบบง่ายๆ สร้างผลกระทบด้านลบให้เกมอย่างใหญ่หลวง

เยว่จือโจวคิดอยู่นานแล้วรู้สึกว่าเรื่องนี้เกินความสามารถของเขา

ถึงจะพอมีไอเดียอยู่บ้าง แต่ก็ไม่รู้ว่าจะทำให้เป็นจริงได้ยังไง

ด้วยเหตุนี้เยว่จือโจวจึงปรินต์เอกสารออกมาแล้วเดินไปปรึกษาหวังเสี่ยวปิน

หวังเสี่ยวปินเป็นนักวางระบบที่มีประสบการณ์ เขาขมวดคิ้วทันทีที่ได้ฟังไอเดียของเยว่จือโจว

ให้แก้ตามนี้ไม่ได้ใช้เวลาน้อยๆ

ถ้าเป็นแต่ก่อน จะเป็นหัวหน้าหลิวหรือหวังเสี่ยวปิน ซึ่งเป็นนักวางแผนที่มีประสบการณ์ย่อมรู้อยู่แล้วว่าคงแก้ตามนี้ไม่ได้แน่ และปัดแผนของเยว่จือโจวตกไปทันที

แต่ตอนนี้เยว่จือโจวเป็นหัวหน้าฝ่ายวางแผน ไม่มีใครปฏิเสธแผนของเขาได้…

แถมบอสเผยยังเป็นคนแนะนำให้ทำแบบนี้อีก!

ดังนั้นไม่ว่ายังไง พวกเขาก็ต้องคิดหาทางทำให้สำเร็จให้ได้!

หวังเสี่ยวปินบ่นอุบ “ผมคิดว่าให้แก้แบบตามนี้ดูจะบ้าเกินไปหน่อย แต่บอสเผยเป็นคนบอกให้ทำ บอสคงจะมีเหตุผลบางอย่าง เดี๋ยวผมจะลองทำทุกวิถีทางให้ออกมาสำเร็จแล้วกัน”

การตัดช่องทางการเก็บเงินผู้เล่นออกนั้นเท่ากับแก้เนื้อหาส่วนใหญ่ของเกมเลยทีเดียว

กรณีนี้แตกต่างจากเกม FPS แบบเกมฐานทัพกลางทะเล

ถึงเกมฐานทัพกลางทะเลจะขายปืนกิเลนเพลิง แต่ตัวเกมก็เป็นเกมที่ต้องแข่งขันกับผู้เล่นคนอื่นๆ ถึงจะรวยแค่ไหนก็ไม่มีทางรับมือศัตรูสองคนที่มีฝีมือทัดเทียมกันพร้อมกันได้

แต่เกมเพลงรบโลหิตเป็นเกมเก่าที่มีการวางเพดานค่าใช้จ่าย พวกวาฬสามารถสู้กับคนยี่สิบคนพร้อมกันได้สบายๆ ตัวเกมไม่มีความสมดุลเลย

เกมเพลงรบโลหิตมีแนวทางการสร้างมาจากรูปแบบการเล่นที่ไม่สมดุลนี้

จะตัดช่องทางการเก็บเงินทั้งหมดออกก็ต้องหาวิธีมาแบ่งแยกผู้เล่นออกจากกัน ถ้าตัวแปรไม่ใช่เงินก็ต้องเป็นเวลาไม่ก็ดวง

ถ้าเปลี่ยนไปใช้ตัวแปรเป็นเวลา พวกที่โหมเล่นเกมทั้งวันทั้งคืนคงจะยิ้มร่าแน่

แน่นอนว่าจะเปลี่ยนไปเป็นเกมที่ต้องซื้อการ์ดเติมเวลาเล่นก็ได้ แต่ก็จะไม่เข้ากับแนวทางการออกแบบดั้งเดิมของเกมเพลงรบโลหิต การเปลี่ยนเกมไปเป็นให้ซื้อเวลาเล่นเกมนั้นไม่ต่างอะไรกับการสร้างเกมขึ้นมาใหม่จากศูนย์ นอกจากจะทำไม่ได้จริงแล้วยังไม่ตรงกับที่บอสเผยต้องการอีก

งั้นเปลี่ยนไปใช้ตัวแปรเป็นดวงแทนเหรอ อย่างนั้นก็เข้าทางพวกดวงมหาเฮงสิ

ถ้าปรับแบบนั้นสไตล์ของเกมก็น่าจะเหมือนเดิม ยังมีความไม่สมดุลอยู่ ส่วนประสบการณ์การเล่นของผู้เล่นก็ไม่ได้ช่วยอะไร

เยว่จือโจวกับหวังเสี่ยวปินเค้นสมองคิดเรื่องนี้กันอย่างหนักหน่วง

เป็นปัญหาที่ไม่มีใครในอุตสาหกรรมเกมเคยแก้ได้

บทที่ 148 ปัญหาที่ไม่เคยมีใครแก้! 1

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี