หนึ่งสัปดาห์ต่อมา วันอังคารที่ 18 พฤษภาคม
ฉางหยางเกมส์
การปรับแก้ตัวเกมเวอร์ชันแรกเสร็จสมบูรณ์แล้ว แต่เยว่จือโจวยังไม่อยากส่งข้อมูลและปล่อยตัวอัปเดตเกม
แค่คิดว่าเพียงคำสั่งเดียวของเขา ชะตากรรมของฉางหยางเกมส์จะเปลี่ยนไปในทิศทางใหม่ก็ทำให้มือของเขาสั่นเทิ้ม
หนึ่งสัปดาห์หลังการประชุม สิ่งที่ต้องปรับแก้ก็ปรับเรียบร้อยหมดแล้ว
ตามคำสั่งของบอสเผย พวกเขาต้องตัดช่องทางการเก็บเงินผู้เล่นของเกมนักพรตสะกดใจกับเกมเพลงรบโลหิตทั้งหมดออก เหลือไว้แค่อย่างเดียว
เกมนักพรตสะกดใจเป็นเกมแนวบริหารทรัพยากรที่ไม่มีการแข่งขันกันเองระหว่างผู้เล่น จึงแก้ไขง่ายกว่า เยว่จือโจวเลือกเก็บตั๋วเร่งความเร็วไว้เป็นช่องทางการเก็บเงินผู้เล่น
เพราะเกมนี้น่าจะไปต่อได้ไม่นาน ไม่ถือว่าเป็นเกมหลักของบริษัทอีกต่อไป
เกมหลักของฉางหยางเกมส์คือเกมเพลงรบโลหิต
หลังจากไตร่ตรองอย่างละเอียด เยว่จือโจวและหวังเสี่ยวปินก็ตัดสินใจว่าจะเก็บยาเพิ่มพลังไว้เป็นช่องทางการเก็บเงินผู้เล่น
พวกเขาขึ้นราคายาเพิ่มพลัง แต่ละคนสามารถใช้ทองซื้อได้สูงสุดวันละหนึ่งร้อยทอง หรือเท่ากับสิบหยวน
เพื่อที่จะทำตามเป้าหมายในการตัดช่องทางการเก็บเงินให้เหลือแค่อย่างเดียว หวังเสี่ยวปินต้องแก้ตัวเกมทั้งระบบ ส่วนอื่นๆ ก็ต้องปรับแก้ตามนี้ด้วยเช่นกัน พวกเขาสร้างระบบใหม่ขึ้นมาทดแทน เช่น ‘ระบบผู้ถูกเลือก’ ที่เยว่จือโจวแนะนำ
หลังจากปรับแก้แล้ว ถึงภายนอกจะดูไม่ต่างจากเดิม แต่เนื้อหาข้างในนั้นต่างไปอย่างสิ้นเชิง
หวังเสี่ยวปินนั่งลงข้างเยว่จือโจว “มีปัญหาตรงไหนรึเปล่า”
เยว่จือโจวส่ายหน้า “ไม่มีครับ ผมแค่..กังวลนิดหน่อย
“ครั้งนี้เราปรับปรุงยกเครื่องใหม่หมด แถมยังไม่มีเกมอื่นที่ประสบความสำเร็จอยู่แล้วไว้ดูเป็นแบบอย่าง เราทำตามไอเดียที่คิดขึ้นมาล้วนๆ…
“ผมไม่รู้ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นยังไง ไม่รู้อะไรเลยสักอย่าง”
ก่อนหน้านี้ ถ้ามีใครนำเสนอไอเดียอะไรในการประชุม หัวหน้าหลิวจะถามเสมอว่า ‘มีเกมไหนทำแบบนี้แล้วประสบความสำเร็จไหม’
ถ้าตอบว่าไม่ ส่วนใหญ่ไอเดียนั้นจะถูกปัดตก
เยว่จือโจวคุ้นชินกับแนวคิดแบบนี้ไปแล้ว ตอนนี้จึงรู้สึกสับสนมาก
“พี่หวัง พี่มีประสบการณ์เยอะ คิดว่ามันจะออกมาดีมั้ย”
หวังเสี่ยวปินถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เสี่ยวเยว่ ตอนนี้นายเป็นหัวหน้าฝ่ายวางแผนนะ นายต้องตัดสินใจเรื่องต่างๆ เอง นายไปไล่ถามคนอื่นไม่ได้แล้ว
“จะออกมาดีหรือไม่ดี ความสำเร็จที่เกิดขึ้นก็เป็นของนาย แต่ความรับผิดชอบก็เป็นของนายเหมือนกัน ในเมื่อเป็นหัวหน้าฝ่ายวางแผนแล้วก็ต้องเตรียมใจไว้ให้พร้อม
“จำเกมนักออกแบบเกมได้มั้ย ความเห็นของคนอื่นก็เหมือนเสียงพากย์ในเกมแหละ นอกจากกวนประสาทนายแล้วก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไร”
เยว่จือโจวพยักหน้าพร้อมถอนหายใจเบาๆ “ก็จริงครับ”
เขาเล่นเกมนักออกแบบเกมบ่อยจนจำได้ขึ้นใจว่าถ้าตอบแบบนี้ไปจะได้ฉากจบแบบไหน
ในเกมเขาสามารถเลือกตัวเลือกที่ถูกต้องไปเรื่อยๆ ได้โดยไม่สนใจเสียงพากย์
แต่ถึงจะเข้าใจเรื่องนี้ดี แต่ในความเป็นจริง เขาก็ไม่มั่นใจว่าจะเพิกเฉยต่อเสียงติชมได้ไหม
หวังเสี่ยวปินลุกยืนพร้อมพูดเสริม “เป็นเรื่องปกติที่นายจะรู้สึกสับสน จำไว้แค่ว่านายแค่ทำงานส่วนของนายตามที่ได้รับมอบหมายจากบอสเผย”
เยว่จือโจวตาเป็นประกาย
ใช่ นี่เป็นสิ่งที่บอสเผยมอบหมายให้เขาทำ!
จะออกมาดีหรือไม่ แค่ทำตามที่บอสเผยบอกก็น่าจะพอแล้วใช่ไหม
คิดได้แบบนั้น เยว่จือโจวก็ไม่นึกลังเลใจอีก เขาตรวจดูเกมอย่างรวดเร็วอีกครั้ง จากนั้นก็ส่งข้อความเข้ากลุ่ม
“อัปเดตตัวเกมได้ครับ”

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี