ตรงทางเข้าร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูมีคนมาอออยู่มากมาย หม่าหยางกับจางหยวนวุ่นกันอยู่ด้านในเลยไม่ทันสังเกตเห็นเผยเชียนที่ยืนอยู่ด้านนอก
เผยเชียนลากเลขาซินมาด้วยเพื่อแอบสังเกตการณ์
พนักงานคนหนึ่งสังเกตเห็นเผยเชียนและตั้งใจจะบอกหม่าหยาง แต่เผยเชียนก็รีบห้ามไว้โดยทำท่าจุ๊ปากใส่
พนักงานเห็นแบบนั้นก็เข้าใจความหมายทันที
“บอสเผยจะเซอร์ไพร์สบอสหม่าใช่มั้ยครับ โอเคเลยครับถ้างั้น!”
พนักงานทำเป็นไม่สังเกตเห็นเผยเชียนแล้วตั้งหน้าตั้งตาทำงานต่อ
เผยเชียนรู้สึกเหมือนหัวใจจะวายขณะเดินไปรอบๆ ร้านอย่างเงียบเชียบ
ทางเข้าร้านอัดแน่นไปด้วยโต๊ะติดร่มพร้อมเก้าอี้ ดูหรูหรามีระดับเลยทีเดียว
ชัดเจนมากว่าหม่าหยางจัดโต๊ะแบบนี้เพื่อให้ได้บรรยากาศเมืองเล็กๆ ในแถบยุโรป
แต่เผยเชียนกลับมองแค่ว่าทำไมคนมาเยอะแยะขนาดนี้ นี่ใช่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูของฉันจริงๆ หรือเปล่า
เขารู้สึกเจ็บปวดใจเกินจะบรรยาย!
ชายหนุ่มตั้งใจจะเดินเข้าไปในร้าน แต่ก็ได้ยินเสียงกีตาร์ดังขึ้นจากด้านนอกร้านก่อน
นักร้องกำลังจะเริ่มร้องเพลง
ผู้คนด้านนอกร้านไม่ได้ตื่นเต้นอะไรมากมาย เพราะพวกเขาแค่ผ่านมาฟังเพลง ไม่ได้คลั่งนักร้องอะไรขนาดนั้น
แต่ด้านในร้านโดยเฉพาะตรงโซนบาร์ เสียงปรบมือและเสียงเชียร์ดังกระหึ่ม บรรยายกาศในร้านคึกคักสุดๆ!
ถ้าคนไม่รู้เรื่องอะไรเดินผ่านมาคงจะคิดว่าข้างในมีจัดคอนเสิร์ต
เผยเชียนกับเลขาซินเดินผ่านฝูงชนเข้าไปในร้านแล้วพบว่าที่นั่งตรงบาร์แทบจะไม่มีเหลือ มีหลายคนยืนอยู่รอบๆ
คนมากมายเดินมาตรงเคาน์เตอร์บาร์ เผยเชียนยืนมองพวกเขายื่นแบงก์สีแดง[1]ให้บาร์เทนเดอร์ แต่รับเครื่องดื่มไปแค่แก้วเดียวโดยไม่รับเงินทอน
จากนั้นชายหนุ่มก็หันไปมองบนเวที
เฉินเหล่ยกำลังเล่นกีตาร์ร้องเพลงฟังสบายๆ ถึงใบหน้าจะขึ้นสีเพราะรู้สึกเขินอายฝูงชนอยู่เล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ได้ตื่นเวทีมากเท่าไหร่นัก
ไม่แน่พอร้องๆ ไปก็อาจตกอยู่ในภวังค์แล้วลืมเรื่องตื่นเวทีไปหมด
ผนังด้านข้างมีจอสวยหรูตั้งอยู่ บนจอแสดงข้อมูลว่าโต๊ะไหน ลูกค้าคนไหนสั่งเครื่องดื่มอะไร ให้ทิปเฉินเหล่ยไปแล้วเท่าไหร่ โดยมีข้อความอวยพรขึ้นประกอบ
แถวข้อความชื่นชมอวยพรวิ่งผ่านหน้าจอไม่หยุด ส่งผลให้บรรยากาศในร้านคึกคักขึ้นไปอีก
เผยเชียนเบ้ปาก
เขาไม่เคยเห็นเฉินเหล่ยมาก่อน แต่ดูแล้วก็พอจะเดาได้ว่าเป็นนักร้องประจำคนใหม่ของร้าน
แต่ด้วยสถานการณ์ในปัจจุบัน เผยเชียนรู้สึกไม่อยากยอมรับชายคนนี้เท่าไหร่
เขาเป็นคนฉลาด คิดอยู่ครู่หนึ่งก็พอจะเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่
“ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูแสนดีงามกลายเป็นโมหยูไลฟ์สดไปแล้ว
“แบบนี้ซื้อเครื่องดื่มก็เหมือนกดให้ของขวัญเลยสิ
“ถ้าฉันมาช้าไปสักสองวัน ร้านจะไม่พลิกจากขาดทุนมาทำกำไรได้เลยเหรอ”
เผยเชียนทั้งตื่นตระหนกและกระวนกระวายใจพอเห็นตัวเลขปรากฏขึ้นบนหน้าจอไม่หยุด เขาเห็นใครสักคนซื้อค็อกเทลให้นักร้องสิบแก้วรัวๆ ซึ่งเท่ากับทิปให้ห้าร้อยหยวน
เผยเชียนไม่ได้คิดว่าคนคนนี้ผลาญเงินไปอย่างโง่เง่า เพราะเขารู้ดีว่าพวกรวยจัดทุ่มเงินให้สตรีมเมอร์หนักแค่ไหน จ่ายแค่นี้เทียบพวกนั้นไม่ได้เลยสักนิด
แถมเฉินเหล่ยก็ร้องเพลงเพราะสุดๆ สมเงินที่ทิปให้
เผยเชียนอยากจะเดินไปถามให้รู้แล้วรู้รอดว่าใครกันเป็นคนไปขุดนักร้องเสียงเทพแบบนี้ขึ้นมา ใครนะใคร!
ถึงเผยเชียนจะรู้สึกอับจนหนทาง แต่ลึกๆ ก็แอบรู้สึกว่าตนเองยังโชคดีอยู่หน่อยๆ
โชคดีที่ฉันรู้สึกหวั่นใจมาหลายวันว่ามีบางอย่างแปลกๆ แล้วขุดปัญหาเจอเร็วหน่อย
ถ้าลืมเรื่องนี้ไปแล้วทึกทักเอาเองว่าร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูน่าจะขาดทุนไปได้เรื่อยๆ เดือนละสามแสน วันปิดบัญชีรอบหน้า ฉันได้กระอักเลือดตายแน่!
ประเด็นคือมีเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ทำไมไม่มีใครแจ้งฉันเลย!
ซินไห่ลู่มองไปรอบๆ ในใจรู้สึกชื่นชม
ไม่เลว สัปดาห์ก่อนยังโล่งสุดๆ อยู่เลย มาสัปดาห์นี้ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูคึกคักได้ขนาดนี้เลยเหรอ
ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ร้านรวงแถวนี้น่าจะพลอยได้ผลประโยชน์จากการที่คนสัญจรไปมาด้วย กลายเป็นวงจรที่จะนำไปสู่สิ่งที่ดีขึ้น!
นอกจากนี้ก็แปลกที่นักร้องแค่ร้องเพลง บรรยากาศในร้านไม่ได้คึกคักเหมือนบาร์ทั่วไป แต่ทุกคนกลับใช้เงินกันอย่างหนักหน่วง ยอดขายเครื่องดื่มคืนนี้ต้องสูงมากๆ แน่

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี