เข้าสู่ระบบผ่าน

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี นิยาย บท 176

หลี่สือสูบบุหรี่เงียบๆ จนหมดมวนอยู่หน้าร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู

พอได้ยินที่ลูกน้องรายงาน หลี่สือก็เริ่มตั้งคำถามกับการตัดสินใจของตัวเอง

ถึงบริษัทลงทุนฟู่หุยจะไม่ใช่บริษัทลงทุนชั้นแนวหน้าของประเทศ แต่ในเมืองแบบจิงโจว อย่างน้อยทุกคนก็น่าจะต้องคุ้นชื่อสิ

นี่เขาอุตส่าห์ติดต่อไปหาก่อน แต่บอสเผยกลับไม่สนใจไยดี แถมยังปฏิเสธอย่างรวดเร็วอีก

ไม่เห็นจะสมเหตุสมผลเลย

เพราะยังไงในแวดวงนี้ การลงทุนแบบนี้ก็ถือเป็นเรื่องปกติ

ถ้ามีนายทุนติดต่อเข้ามา บริษัทที่เป็นเป้าหมายส่วนใหญ่มักจะลองเจรจาดูก่อนว่าข้อตกลงเป็นยังไง

ถ้าไม่พอใจก็ปฏิเสธไป อย่างมากทั้งสองฝ่ายก็แค่แยกทางกันไป อาจจะมีโอกาสได้ร่วมงานกันใหม่ในอนาคต ไม่มีฝั่งไหนเสียประโยชน์จากการเจรจาดูก่อน

การตอบปฏิเสธทันควันแบบนี้ถือเป็นเรื่องที่แปลกมาก

หลี่สือเป็นนักลงทุนมากประสบการณ์ เรื่องแค่นี้ไม่ทำให้ถอดใจหรอก เขาปัดกลิ่นบุหรี่ออกจากตัว ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู

หลี่สือเห็นว่าเผยเชียนเลือกขีดเขียนลงสมุดแล้ว แต่ยังดูเคร่งเครียดเหมือนว่ากำลังคิดอะไรอยู่

ถ้าไม่ใช่เพราะเขาเชื่อใจลูกน้องของตัวเอง หลี่สืออาจจะนึกสงสัยว่าบอสเผยได้รับการติดต่อยื่นข้อเสนอจริงๆ หรือเปล่า

“แปลกมาก เขาไม่สนใจข้อเสนอของฉันเลย

“หรือว่าฉันจะตัดสินใจพลาดไป

“ถึงบอสเผยจะกำลังตกที่นั่งลำบากจากการที่ร้านขาดทุนอย่างต่อเนื่อง เขาก็ยังหัวรั้นคิดว่าจะพลิกกลับมาทำกำไรได้อย่างนั้นเหรอ

“ทั้งๆ ที่ฉันให้เงินทุนก้อนโตพร้อมโอกาสในการร่วมทำงานร่วมกันได้แท้ๆ หรือบอสเผยจะคิดว่าการมีอำนาจควบคุมทุกอย่างเองทั้งหมดเป็นเรื่องที่สำคัญกว่า

“ไม่ว่าจะยังไง เขาก็ดูเป็นคนที่ชอบควบคุมจัดการทุกอย่างเองทั้งหมด ไม่ชอบให้ใครเข้ามาก้าวก่าย

“เด็กหนอเด็ก หวังจะทำกำไรด้วยตัวเอง ผู้ประกอบการไม่ควรจะมีทัศนคติแบบนี้”

ไม่ว่าจะพิจารณาดูจากด้านไหน หลี่สือก็ยังไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมบอสเผยถึงปฏิเสธข้อเสนอของเขาอย่างไม่ไยดีแบบนี้

ประเด็นคือบอสเผยปฏิเสธทันควัน ไม่ยอมฟังรายละเอียดอะไรเลย

หลี่สือคิดได้แค่ว่าบอสเผยเป็นคนหุนหันพลันแล่นและหัวรั้นมาก เขาชอบควบคุมทุกอย่างเองทั้งหมด ไม่ยอมให้ใครมาก้าวก่าย

แต่ในอีกมุมหนึ่งก็มองได้ว่าบอสเผยยังคงเชื่อมั่นว่าร้านของเขากำลังเดินไปในทางที่ถูกต้อง คิดว่าในอนาคตต้องทำเงินได้แน่ จึงไม่อยากแบ่งกำไรกับคนอื่น

หลี่สือสามารถเดินไปคุยกับเผยเชียนตรงๆ ได้ แต่เขาก็เลือกที่จะไม่ทำ

เขาเป็นถึงเจ้าของบริษัทลงทุน จะให้ทำแบบนั้นได้ยังไง

ถ้าเดินเข้าไปยื่นนามบัตรขอเจรจา แล้วบอสเผยปฏิเสธกลับมาอีกก็น่าขายหน้าแย่

อีกอย่าง ถ้าดูจากสิ่งที่เกิดขึ้น ก็มีโอกาสสูงที่อีกฝ่ายจะตอบปฏิเสธกลับมาอีก

“เฮ้อ เจ้าเด็กนี่ ไม่มีใครปฏิเสธข้อเสนอลงทุนจากฉันได้ แกเองก็เหมือนกัน

“ถึงจะยื่นข้อเสนอเหมือนกัน ก็มีบางบริษัทปฏิเสธ บางบริษัทตอบตกลงอย่างดีใจ ส่วนบางบริษัทก็ต้องช่วยเข็นเพิ่มสักหน่อย…”

หลี่สือเฝ้าดูเผยเชียนอยู่เงียบๆ รอยยิ้มแห่งความมั่นใจปรากฏขึ้นบนใบหน้า

วันที่ 24 มิถุนายน

ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาหลัก

แท็กซี่จอดส่งตรงประตูร้าน หม่าหยางลงจากรถแล้วเดินเข้าไปในร้าน

“บอสหม่า สอบเสร็จแล้วเหรอ เป็นยังไงบ้าง” จางหยวนเห็นหม่าหยางก็ถามไถ่อย่างอบอุ่น

หม่าหยางเดินไปนั่งเหยียดแขนเหยียดขา ใบหน้าใหญ่ยาวดูมโหฬารกว่าเดิมตอนที่เขาหาว “ไม่ใช่วิชาสำคัญอะไร น่าจะผ่านแหละครับ

“นี่ผมเอางานให้พี่เชียนลอกด้วย อย่างน้อยก็ได้สิบคะแนน ผมว่าเดือนสองเดือนนี้ พี่เขาไม่น่าจะสนใจเรื่องยอดขาดทุนของร้านอินเทอร์เน็ตกับโมหยูเดลิเวอรี่หรอก”

จางหยวนรู้สึกประทับใจ

นี่แหละที่เรียกว่า ‘อะไรๆ ก็ง่ายถ้าเป็นคนใกล้ชิด’

ก่อนหน้านี้ จางหยวนไม่เข้าใจว่าทำไมคนอย่างหม่าหยางถึงได้รับตำแหน่งสำคัญอย่างตำแหน่งผู้จัดการกลางของร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู แต่ตอนนี้เขาเข้าใจแล้ว

ทั้งยังคิดว่าเป็นเรื่องปกติและเหมาะสมดี

คนอื่นอาจจะมองว่าหม่าหยางได้ตำแหน่งสำคัญมาเพราะมีเส้นสาย แต่สำหรับจางหยวนแล้ว เขารู้สึกสบายใจที่ได้ทำงานกับบอสแบบหม่าหยาง

อย่างน้อยเขาก็ไม่ต้องห่วงว่าจะโดนบอสเผยดุด่าหรือตั้งคำถามอะไร!

พนักงานเสิร์ฟคนหนึ่งเดินมาเสิร์ฟเครื่องดื่มเย็น หม่าหยางยกดื่มพร้อมถอนหายใจ “ว่าแล้วก็ตั้งใจทำงานกันเถอะ

“เราหวังกันไว้ว่าธุรกิจเดลิเวอรี่จะช่วยพลิกให้เราทำกำไรได้ แต่มันกลับขาดทุนไปด้วยซะงั้น…”

จางหยวนได้ยินที่หม่าหยางพูดแล้วก็รู้สึกเป็นกังวล “ใช่ สองวันก่อนบอสเผยหยิบสมุดขึ้นมาเขียน ดูเครียดมาก ไม่รู้ว่าเขียนอะไรอยู่”

หม่าหยางยังทำใจไม่ได้ตั้งแต่เฉินเหล่ยโดนส่งตัวไปที่อื่น

เผยเชียนอยากหาอะไรให้หม่าหยางทำแก้ขัด จึงมอบหมายให้เขารับผิดชอบงานสำคัญอย่างโมหยูเดลิเวอรี่

ตอนแรกหม่าหยางไฟแรงมาก เขาจ้างพนักงานส่งอาหาร ซื้อจานชาม หาคนมาทำแอปพลิเคชันให้ สุดท้ายก็มาพบว่าไม่ค่อยมีคนใช้บริการเลย

เขาจ้างพนักงานมานั่งเล่นอีกหนึ่งชุด เพิ่มรายจ่ายเข้าไปอีกหนึ่งก้อน

จริงๆ ก็ไม่ใช่ว่าโมหยูเดลิเวอรี่จะไม่มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการเลย ลูกค้าบางกลุ่มชอบบริการนี้มาก แต่การจะหาเงินมากลบทุนตั้งต้นได้ก็เป็นเรื่องที่ยากไม่น้อย

ปัญหามีอยู่หลายอย่าง

บอสเผยไม่ชอบวิธีการโฆษณาอย่างการแจกใบปลิว ทำให้มีคนรู้จักโมหยูเดลิเวอรี่แค่หยิบมือ

แอปโมหยูเดลิเวอรี่ให้สั่งอาหารจากร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูเท่านั้น ไม่ได้ร่วมมือกับร้านอาหารอื่นๆ จึงไม่สามารถดึงดูดลูกค้าทั่วไปได้

เมนูทั้งหมดเป็นอาหารบ้านๆ หากินได้ทั่วไป แต่ดันราคาแพงกว่าปกติ

สรุปคือพอขาดการโฆษณาและตัวธุรกิจไม่ตอบโจทย์ลูกค้าทั่วไป โมหยูเดลิเวอรี่จึงไม่ได้ให้บริการเต็มประสิทธิภาพ พนักงานหลายคนก็ไม่มีอะไรให้ทำ

ปกติแล้วพนักงานส่งของหนึ่งคนสามารถส่งอาหารได้หลายที่ในคราวเดียว ส่วนพนักงานเก็บจานก็สามารถไปตามเก็บจานจากหลายๆ ที่ได้เหมือนกัน แต่พอไม่ค่อยมีลูกค้า พนักงานส่งของกับพนักงานเก็บจานก็ทำได้แค่ส่งของและเก็บจานแค่บ้านเดียวในแต่ละรอบ

ถึงจานชามที่ใช้จะเป็นของดี แต่ก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะมีของชำรุดหรือหาย เผยเชียนสั่งไว้ว่าถ้าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นก็ไม่ต้องไปไล่เอาผิดกับลูกค้า ยกเว้นจะเกิดกรณีซ้ำเดิมบ่อยๆ

พวกเขายังไม่เจอลูกค้าแบบที่ว่า แต่หม่าหยางก็อดปวดใจไม่ได้ที่เห็นจานชามพังเสียหายกลับมาเป็นครั้งคราว

ถ้าเป็นแบบนี้ก็ไม่มีทางทำเงินได้แน่

ทั้งสองนั่งเศร้าใจกันเงียบๆ

หม่าหยางดื่มเครื่องดื่มจนหมดแล้วหันมองไปรอบร้าน ก่อนจะขมวดคิ้ว “แปลกจัง ทำไมผมรู้สึกว่าวันนี้มีลูกค้าน้อยกว่าทุกวัน”

จางหยวนผงะไป “หืม จริงเหรอ”

เขาไม่ทันสังเกต เพราะช่วงกลางวัน ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูก็ไม่ค่อยมีลูกค้าเข้าอยู่แล้ว ปกติจะมีลูกค้าประมาณสิบคนมานั่งเล่นอินเทอร์เน็ต ส่วนที่มานั่งจิบกาแฟในโซนคาเฟ่ก็มีจำนวนเท่าๆ กัน

ตอนนี้เป็นช่วงเช้าของวันธรรมดาจึงเป็นเรื่องปกติที่จะไม่ค่อยมีลูกค้า

แต่พอหม่าหยางบอกมาอย่างนั้น จางหยวนก็ตระหนักว่าวันนี้มีลูกค้าน้อยกว่าทุกวันจริงๆ!

โซนร้านอินเทอร์เน็ตมีลูกค้านั่งอยู่แค่สองคน ส่วนโซนคาเฟ่มีอยู่คนเดียว

“อาจจะบังเอิญแหละมั้ง” จางหยวนพูด

ระหว่างที่ทั้งสองกำลังนั่งสงสัย พนักงานโมหยูเดลิเวอรี่คนหนึ่งก็เปิดประตูถือใบปลิววิ่งเข้ามา

บทที่ 176 เกือบหลุดขำ 1

บทที่ 176 เกือบหลุดขำ 2

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี