“บอสเผยเป็นคนเปิดภัตตาคารนี้เหรอคะ” หลินหวานถามด้วยความตกใจ
เลขาซินพยักหน้า “ใช่ค่ะ เราเป็นลูกค้ากลุ่มแรกของครัวส่วนตัวหมิงหยุน”
เธอชี้ไปที่จานอาหารบนโต๊ะ หน้าตาของมันไม่ได้ดูโดดเด่นนัก คนธรรมดาทั่วไปอาจจะเดาไม่ถูกว่าจานนี้แพงแค่ไหน
“อาหารประมาณเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ของที่นี่ต้องนำเข้า หากินในจิงโจวไม่ได้ ต้องส่งตรงด้วยระบบจัดส่งพิเศษ ถ้าจะจัดงานเลี้ยงแบบนี้ต้องเตรียมการล่วงหน้าอย่างน้อยสองถึงสามวันเลยค่ะ”
หลินหวานครุ่นคิดเรื่องนี้ “บอสเผยตั้งใจจะใช้ที่นี่เป็นที่รับรองระดับสูงสำหรับหุ้นส่วนธุรกิจเหรอคะ”
ตอนนี้เถิงต๋ากำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ยังไงก็เลี่ยงการพูดคุยเจรจากับเจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่อื่นๆ ไม่ได้
หลินหวานรู้สึกว่าภัตตาคารทั่วไปน่าจะไม่ได้มาตรฐานตามที่บอสเผยต้องการแล้ว บอสเลยตัดสินใจเปิดภัตตาคารของตัวเองขึ้นมา
เลขาซินส่ายหน้า “ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ ตอนนี้ดูเหมือนบอสเผยจะไม่มีแผนจัดงานเลี้ยงรับรองลูกค้า แต่งานกินเลี้ยงของบริษัทจะจัดที่นี่ทั้งหมดค่ะ”
หลินหวานอึ้งไป
หรือว่าภัตตาคารส่วนตัวนี้จะมีไว้เพื่อกินเลี้ยงภายในบริษัท
เธอมองว่าภัตตาคารนี้น่าจะเป็นภัตตาคารที่ดีที่สุดในเมืองจิงโจว นอกจากอาหารจะอร่อยแล้ว บรรยากาศและการบริการก็ไร้ที่ติ เหมาะสำหรับใช้เป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงส่วนตัวรับรองลูกค้ารายใหญ่หรือเจ้าของบริษัทต่างๆ
ใช้ภัตตาคารระดับนี้เป็นที่จัดงานเลี้ยงภายในบริษัทเนี่ยนะ
หรูเกินไปแล้ว!
อีกอย่างงานเลี้ยงทุกครั้งบอสเผยเป็นคนออกเงินเองหมด จินตนาการไม่ได้เลยว่าบอสเผยหมดเงินไปกับสวัสดิการพนักงานเท่าไหร่
แต่ปกติบอสเผยก็เป็นคนแบบนี้อยู่แล้ว
หลินหวานรู้สึกตื้นตันใจขึ้นมา บอสเผยช่างเป็นคนที่ยึดมั่นในอุดมการณ์ของตัวเองจริงๆ
ถึงจะดูแลพนักงานเป็นอย่างดี เกินกว่ามาตรฐานของบริษัทหลายๆ แห่ง แต่บอสก็ยังไม่พอใจ อยากจะพัฒนาสวัสดิการขึ้นไปอีกอยู่ตลอด!
ตอนนั้นเองหลินหวานก็เกิดความรู้สึกอันแรงกล้า อยากจะช่วงแบ่งเบาภาระบอสเผย
หลินหวานรู้ว่าการเป็นเจ้านายคนมันเหนื่อยขนาดไหน
แน่นอนว่าเจ้านายแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน บางคนคาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด กินอยู่สบายตั้งแต่ยังเด็ก ทุกการตัดสินใจจะมีมืออาชีพคอยให้คำแนะนำ สถานะครอบครัวและเส้นสายที่มีทำให้มีเงินทุนใช้จ่ายและโอกาสลงทุนล้นเหลือ
เจ้านายประเภทนี้ไม่ได้เหน็ดเหนื่อยเลยสักนิด
แต่บอสเผยไม่ใช่เจ้านายประเภทนี้ บอสเป็นคนธรรมดาที่สร้างบริษัทมาจากศูนย์
บริษัทเปิดใหม่อย่างเถิงต๋ามีความกดดันเรื่องการหารายได้สูง ถึงจะจัดการได้ง่ายกว่าด้วยขนาดของบริษัท แต่ความสามารถในการแบกรับความเสี่ยงก็ถือว่าด้อยกว่า หากเกิดข้อผิดพลาดอะไร บริษัทอาจจะเจ๊งเอาได้
ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ เจ้าของบริษัทประเภทที่ว่าจึงมักจะระมัดระวังเรื่องการใช้จ่ายเงินและคอยคิดหาทางลดต้นทุนอยู่ตลอด
แน่นอนว่าการลดต้นทุนเป็นการกระทำที่ถูกต้อง แต่เจ้าของบริษัทหลายคนกลับเลือกใช้เหตุผลนี้เป็นข้ออ้างในการกดขี่พนักงานจนเกินเลยไปถึงขั้นใช้ช่องโหว่ทางกฎหมาย ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดมหันต์
เทียบกับคนเหล่านี้แล้ว บอสเผยถือได้ว่าเป็นต้นแบบ!
หลินหวานอยากช่วยบอสเผยมาก ตอนนั้นเธอเลยโทรหาหลินโจวผู้เป็นพี่ชายเพื่อขอลดค่าเช่าตึกเฉินฮว่าแกรนด์วิว
แต่หลินหวานก็คิดหาทางอื่นที่จะช่วยบอสเผยไม่ออกอีก
เนื่องจากเถิงต๋ายังเป็นบริษัทขนาดเล็ก โปรเจ็กต์หลายๆ อย่างจึงไม่ได้เกี่ยวข้องหรือมีการร่วมมือกับเฉินฮว่าคอร์เปอเรชัน
อีกอย่างตอนที่บอสเผยส่งเธอไปฉางหยางเกมส์ บอสบอกว่าอยากให้เธอใช้ความสามารถของตัวเองในการจัดการเรื่องต่างๆ อย่าเอาแต่พึ่งพาครอบครัว
ดังนั้นหลินหวานจึงคิดอยู่นานแล้วเลือกที่จะล้มเลิกความตั้งใจเรื่องนี้ไป
“รอให้ถึงโอกาสเหมาะๆ ค่อยช่วยบอสอีกดีกว่า
“หรือไม่ก็…ฉันอาจจะช่วยบอสเผยได้ด้วยความสามารถของตัวเอง!”
หลินหวานตัดสินใจได้แล้ว
…
งานเลี้ยงเป็นไปอย่างคึกคัก
หม่าอี้ฉวิน ลู่หมิงเหลียง เปาซวี่ หลี่หย่าต๋า และคนอื่นๆ กำลังคุยกันเรื่องเกมกลับใจคือฟากฝั่ง
เปาซวี่จะได้ออกเดินทางทันทีหลังจากวีซ่าได้รับการอนุมัติ เขาจึงใช้โอกาสนี้อธิบายสิ่งที่ตัวเองรู้เกี่ยวกับเกมกลับใจคือฟากฝั่งให้พวกหลี่หย่าต๋าฟัง

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี