“ไม่เป็นไร บอกมาตามตรงเถอะ สองวันที่ผ่านมามีลูกค้าเข้าร้านกี่คน มีสั่งอาหารกี่คน แล้วมีจองร้านล่วงหน้าบ้างมั้ย” เผยเชียนยิงคำถามอย่างใจเย็น
หลินชั่นหรงตอบตามตรง “สองวันที่ผ่านมามีลูกค้ารวมทั้งหมดแปดคนครับ มีสามคนที่สั่งอาหารกิน มีจองร้านล่วงหน้าคืนพรุ่งนี้แค่คนเดียวครับ”
“หืม… หืมมม”
เผยเชียนพอใจกับสองจำนวนแรกมาก
แค่นี้ถือว่าเล็กน้อยจนไม่ต้องใส่ใจ
เดี๋ยวอีกสองสามวัน จางจู่ถิงก็จะโพสต์อะไรลงเว่ยป๋ออีก โพสต์เรื่องร้านจะถูกดันลงไป จากนั้นก็จะไม่มีลูกค้ามาเพิ่มแล้ว
แต่กลับมีลูกค้าคนหนึ่งจองร้านล่วงหน้าคืนพรุ่งนี้ซะได้
พวกไฮโซนี่เยอะจริงๆ
เผยเชียนคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถามออกไป “เขาจองอะไรไปบ้าง”
หลินชั่นหรงไล่รายการอาหารที่เซวียเจ๋อปินสั่งให้เผยเชียนฟัง มีทั้งสเต็กโทมาฮอว์ก คาเวียร์ เห็ดมัตสึทาเกะ เขาสั่งไม่เยอะ ปริมาณประมาณสองถึงสามคนกิน แต่ทั้งหมดรวมกันแล้วราคาเกือบหนึ่งหมื่นหยวน
แถมลูกค้าคนนี้ยังจ่ายมัดจำไว้ล่วงหน้าแล้วยี่สิบเปอร์เซ็นต์
เผยเชียนเงียบไป
เขาไม่เข้าใจโลกของพวกคนรวยเลย
ถึงเผยเชียนจะสวาปามอาหารพวกนี้และพาพนักงานมากินกันอย่างสำราญใจ แต่นั่นก็เพราะเขาพยายามจะผลาญเงินให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้!
ถ้าเขาผลาญเงินจนขาดทุนได้ ระบบก็จะให้เงินกลับ แถมยังเติมเงินทุนระบบที่ใช้ไปด้วย เผยเชียนจึงใช้จ่ายมือเติบได้ไม่ต้องยั้ง
แต่ถ้าให้เผยเชียนใช้เงินตัวเองจ่ายค่าอาหารพวกนี้ แค่อาหารพื้นๆ ราคาสามสี่ร้อยหยวนก็ถือว่าแพงมากแล้ว!
แต่ลูกค้าคนนี้กลับสั่งอาหารราคารวมทะลุหมื่น
ตอนแรกเผยเชียนยังมองโลกในแง่ดีอยู่ จนถึงตอนนี้จำนวนลูกค้าที่แวะมาครัวส่วนตัวหมิงหยุนเป็นแค่เลขหลักเดียว ถือว่าเป็นสถานการณ์ในอุดมคติ
แต่ใครจะไปคิดว่าจะมีพวกไฮโซอยู่ในลูกค้ากลุ่มนี้ด้วย
เผยเชียนตะลึงงันไปพักหนึ่ง
เมื่อเห็นบอสเผยนิ่งเงียบ หลินชั่นหรงก็งุนงงเล็กน้อย ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่
เรื่องนี้น่าจะเป็นข่าวดีสิ แต่ทำไมบอสเผยถึงไม่ยิ้มเลยล่ะ
เผยเชียนคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถามขึ้น “สำเนียงเขาเป็นยังไง”
หลินชั่นหรงคิดอยู่ครู่หนึ่ง “เขาพูดจีนกลาง แต่ติดสำเนียงอยู่หน่อยๆ ครับ ไม่น่าจะใช่คนจิงโจว น่าจะมาจากผิงเฉิง”
เจ้าของเหมืองถ่านหินเหรอ
นั่นคือความคิดแรกที่ผุดขึ้นในหัวเผยเชียน
แต่เขาก็พยายามมองในแง่ดี อีกฝ่ายไม่ใช่คนจิงโจว คงจะแวะมาทำธุระที่นี่ ไม่น่าจะอยู่นานนัก
ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดีเลย
ถึงจะเป็นพวกไฮโซ แต่ก็มาที่นี่ไม่ได้บ่อยนัก อย่างมากก็คงพาแขกมาเลี้ยงและจองร้านแค่ตอนมาทำธุระที่นี่
ถ้าคิดแบบนี้ ก็ไม่น่าจะ…ทำเงินให้ครัวส่วนตัวหมิงหยุนได้มากมายนักหรอก
คิดได้แบบนี้เผยเชียนก็โล่งใจขึ้นนิดหน่อย เขารู้สึกว่าช่วงนี้ตัวเองระแวงและมองทุกคนเป็นศัตรูเกินไปหน่อย
พอเปิดภัตตาคารส่วนตัว เขาก็พาพนักงานมากินเลี้ยงที่นี่ แบบนั้นจะไปหวังไม่ให้มีใครหาร้านเจอได้ยังไง
ยังไงเรื่องการมีพวกไฮโซแวะมากินบ้างก็อยู่ในแผนเขาอยู่แล้วบ้าง แต่ในระยะยาว ภัตตาคารนี้ก็ยังจะขาดทุนเหมือนเดิม
ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรขนาดนั้น
พอได้ยินว่าลูกค้ากระเป๋าหนักคนนั้นไม่ใช่คนจิงโจว เผยเชียนก็สบายใจขึ้นเยอะ
ทั้งสองคุยกันเรื่องการให้บริการร้านจนเสี่ยวซุนขับรถกลับมาถึง
“คร่าวๆ ประมาณนี้ก่อน อย่าลืมเรื่องการให้บริการที่ผมบอกไป ถึงลูกค้าจะรวยมากก็ห้ามฝ่าฝืนกฎเด็ดขาด บอกให้พนักงานดูแลเหมือนลูกค้าธรรมดาทั่วไป
“แล้วก็ห้ามป่าวประกาศชื่อร้านด้วย”
เผยเชียนสั่งเพิ่มนิดหน่อยก่อนจะขึ้นรถไป
พอส่งบอสเผยกลับแล้ว หลินชั่นหรงก็พยายามถอดความหมายแฝงจากสิ่งที่บอสพูด
“บอสเผยพยายามบอกเราว่าเวลาเจอลูกค้ารวยมากก็ไม่ต้องเกร็ง เพราะเดี๋ยวในอนาคตจะมีแต่พวกคนรวยมาใช้บริการครัวส่วนตัวหมิงหยุนรึเปล่านะ
“ถ้าเราฝ่าฝืนกฎกับลูกค้าไฮโซคนหนึ่ง พอมีพวกคนรวยมาที่ร้านอีก กฎที่ตั้งไว้ก็จะไม่มีประโยชน์
“อืม มีเหตุผล!
“บอสเผยเป็นคนมองการณ์ไกล บอสตั้งกฎไว้เผื่อธุรกิจครัวส่วนตัวหมิงหยุนเติบโตขึ้นในอนาคต เตรียมการทุกอย่างไว้พร้อมจริงๆ
“บอสเผยย้ำกับฉันด้วยว่าอย่าพอใจกับอะไรง่ายๆ แค่มีลูกค้าคนรวยมาใช้บริการแค่คนเดียวก็ตื่นเต้นขนาดนั้นไปได้ ฉันเป็นผู้จัดการสาขา ต้องใจเย็นกว่าใคร
“ถ้ามีไฮโซมาที่ร้านอีก ฉันก็ต้องสำรวมท่าที
“ฉันจะถ่ายทอดความตั้งใจของบอสเผยให้พนักงานได้รับรู้ตามนี้”
หลินชั่นหรงมองเห็นอนาคตอันสดใสของครัวส่วนตัวหมิงหยุน เขาเดินกลับเข้าร้านอย่างเบิกบานใจเพื่อไปบอกข่าวดีกับคนอื่นๆ
…
…
วันเสาร์ที่ 21 สิงหาคม
ครัวส่วนตัวหมิงหยุนกำลังเตรียมการสำหรับมื้อเย็น
เฉียวเหลียงวางแผนจะเดินเล่นรอบๆ จิงโจวในช่วงเช้า แล้วค่อยไปทำงานล่วงเวลาเล่นเกมกลับใจคือฟากฝั่งในช่วงบ่าย
บอสเผยดีกับฉันมาก ต้องตั้งใจทำงานให้เต็มที่
ที่ฉางหยางเกมส์ การค้นคว้าและพัฒนาเกมเพลงรบโลหิตเวอร์ชันอัปเกรดเสร็จสมบูรณ์แล้ว ตอนนี้ใกล้จะทดสอบครั้งสุดท้ายแล้ว จากนั้นก็สามารถโปรโมตและเปิดให้เล่นได้อย่างเป็นทางการ
วันนี้เป็นวันเสาร์ บอสเผยสั่งเอาไว้ว่าไม่ให้พวกเขาทำงานล่วงเวลาช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์
ในฐานะผู้อำนวยการสร้าง หลินหวานพยายามบอกให้ทุกคนกลับบ้านแล้ว แต่วันปล่อยตัวเกมที่ใกล้เข้ามาทำให้หวังเสี่ยวปินกับเยว่จือโจวอยู่ไม่สุขที่บ้าน จึงยืนกรานขอทำงานล่วงเวลา หลินหวานไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมให้พวกเขาเข้ามาทำงาน
แน่นอนว่าหลินหวานเองก็อยู่ไม่สุขเหมือนกัน
พอคิดว่าเกมที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจพัฒนาขึ้นมาจะเปิดให้ผู้เล่นได้สัมผัสอย่างเป็นทางการในอีกไม่กี่สัปดาห์ ทุกคนก็รู้สึกตื่นเต้นและหวั่นใจ
สุดท้ายพวกเขาก็คุมขนาดมินิไคลแอนต์ของเกมเพลงรบโลหิตไว้ที่ 370 เมกะไบต์ ถือว่าเกินความคาดหมายที่ทุกคนวางไว้ในตอนแรก


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี