ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู สาขามหาวิทยาลัยฮั่นตง
พนักงานยกกาแฟสามแก้วมาเสิร์ฟ
นอกจากหลินฉางที่นั่งอยู่ตรงข้ามเผยเชียนแล้ว มีผู้หญิงอีกคนนั่งอยู่ด้วย เธออายุประมาณยี่สิบเจ็ดยี่สิบแปดปี หน้าตาดูละม้ายคล้ายหลินหวาน เพียงแต่ดูโตกว่าและเป็นผู้นำมากกว่าหน่อย
ไม่ต้องให้หลินฉางแนะนำ เผยเชียนก็รู้ทันทีว่าเธอคือหลินหยู พี่สาวของหลินหวานที่ดูแลธุรกิจมือถือของเฉินฮว่า
อาจบอกได้ว่าภูมิหลังครอบครัวจะเป็นตัวกำหนดความก้าวหน้าของเส้นทางอาชีพ
เลขาซินอายุรุ่นราวคราวเดียวกับหลินหยู แต่เธอไม่ได้มาจากตระกูลร่ำรวย ไม่ว่าจะทำงานหนักแค่ไหน อย่างมากก็เป็นได้แค่เลขาประธานบริษัท
หลินฉางดูกระตือรือร้นเหมือนอย่างเคย
หลังจากผลัดกันแนะนำตัว เผยเชียนกับหลินหยูก็คุยกันเล็กน้อยแล้วค่อยนั่งลง
“ไม่ได้เจอกันนานนะครับบอสเผย”
หลินฉางยิ้ม “ผมได้ยินจากน้องหวานมาว่าบอสเผยมีกิจการภัตตาคาร เห็นว่าได้คะแนนสูงแล้วก็ดังในฉวนหมินรีวิวมากๆ ตอนนี้เป็นภัตตาคารระดับสูงที่ดังที่สุดในจิงโจวไปแล้ว ไม่รู้ว่าพวกเราจะมีโอกาสได้ไปชิมเร็วๆ นี้รึเปล่า ไม่ต้องห่วงนะครับบอสเผย เดี๋ยวผมเลี้ยงเอง”
ครัวส่วนตัวหมิงหยุนเหรอ
เหอะ อย่าไปพูดถึงมันเลย
เผยเชียนยกกาแฟขึ้นจิบด้วยความหดหู่ “ขอโทษด้วยครับ คุณคงต้องรอวันอาทิตย์ที่ 26 ที่จะถึงนี้ เพราะร้านถูกจองยาวเลย ผมเองคิดอยากจะไปตอนไหนก็ไปไม่ได้เหมือนกัน”
“พรืด”
หลินฉางเกือบจะหลุดหัวเราะ “ดังขนาดนั้นเลยเหรอครับเนี่ย ร้านโดนจองเต็มจนถึงวันอาทิตย์เหรอครับ”
“เปล่าครับ จริงๆ แล้วผมจองร้านวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ไว้ล่วงหน้า พูดให้ถูกคือร้านเต็มยาวไปจนถึงกลางเดือนหน้าเลยครับ” เผยเชียนตอบ เขารู้สึกหดหู่ยิ่งกว่าเก่า
หลินฉางอดรู้สึกทึ่งไม่ได้ “บอสเผยนี่สุดยอดจริงๆ เลยครับ
“ผมจำได้ว่าครั้งล่าสุดที่เราเจอกัน คุณยังไม่ได้เปิดภัตตาคารนี้เลย นี่ผ่านไปแค่สองเดือนกว่าๆ ร้านก็ดังได้ขนาดนี้แล้วเหรอครับเนี่ย บอสเผยนี่ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ”
หลินฉางไม่ได้พูดเอาใจเผยเชียน เขาชมออกมาจากใจจริง
ภัตตาคารไม่สามารถแจ้งเกิดในวงการอาหารได้ด้วยเม็ดเงินเพียงอย่างเดียว
หลินฉางรู้จักใครหลายคนที่ใช้เงินเก็บเปิดภัตตาคารด้วยความมุ่งหวังว่าจะทำเงินให้ได้ แต่ส่วนใหญ่ก็ขาดทุนกันหมด
นอกจากนั้นภัตตาคารระดับสูงที่ขายอาหารราคาแพงของเผยเชียนก็มีโอกาสขาดทุนสูงกว่า
แต่ในเวลาแค่สองเดือนบอสเผยก็ทำกำไรได้ แถมยังได้รีวิวดีๆ อีก ส่วนภัตตาคารก็โดนจองเต็มยาวไปจนถึงเดือนหน้า เป็นอะไรที่สุดยอดจริงๆ
ได้ยินอย่างนั้นแล้วเผยเชียนก็รู้สึกอารมณ์ไม่ดีขึ้นมา
เป็นความรู้สึกเดียวกับตอนอาจารย์เฉียวอ่านข้อความให้กำลังใจของตัวเอง
หลินฉางไม่ได้นึกไม่พอใจอะไรที่บอสเผยบอกว่าคืนนี้พาไปภัตตาคารนิรนามไม่ได้ “ไม่เป็นไรครับ เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม รอแค่ไม่กี่วันก็ได้กินภัตตาคารหรูแล้ว เดี๋ยวผมอยู่จิงโจวต่อจนถึงวันอาทิตย์แล้วกันครับ”
เผยเชียนพยักหน้า “โอเคครับ เดี๋ยวผมเลี้ยงเอง”
หลินฉางรีบส่ายหน้า “ไม่ได้ครับไม่ได้ ผมเลี้ยงเองครับบอสเผย”
เผยเชียนพูดอย่างหนักแน่น “ผมเลี้ยงเองครับ”
เขาไม่ได้รู้สึกอยากเลี้ยงหลินฉางเป็นพิเศษหรอก
แต่ระบบเป็นคนจ่ายค่าอาหารให้ เผยเชียนย่อมไม่ยอมทิ้งโอกาสผลาญเงินไปแน่
ถ้าให้หลินฉางเป็นฝ่ายเลี้ยง เผยเชียนจะไปได้ประโยชน์อะไร
แถมยังเสียผลประโยชน์ยิ่งกว่าเดิมอีก ให้เป็นแบบนั้นไม่ได้!
พอเห็นท่าทีจริงจังของบอสเผย หลินฉางก็เลิกเซ้าซี้ ยังไงก็แค่อาหารมื้อเดียว ไม่ใช่เงินมากมายอะไร
“แล้วทั้งสองคนมีธุระอะไรที่จิงโจวเหรอครับ หรือจะเป็นเรื่องหลินหวาน” เผยเชียนถามอย่างไม่ได้คิดอะไร
เขารู้ว่าหลินหยูกับหลินฉางมีธุระสำคัญเลยมาที่จิงโจว ธุระสำคัญที่ว่าน่าจะเกี่ยวกับหลินหวาน
หลินฉางพยักหน้า “ใช่ครับ
“พ่อของเราทำเหมือนว่าไม่สนใจ แต่จริงๆ แล้วเป็นห่วงมาก เลยส่งผมกับพี่สาวมาด้วยเหตุผลเหมือนคราวที่แล้ว
“เทียบกับครั้งที่แล้ว ปัญหารอบนี้ดูจะยากกว่าเดิม…”
เผยเชียน “…”
ก็ว่าแล้ว สถานการณ์แย่ลงกว่าเดิมจริงๆ
ตอนแรกเผยเชียนคิดว่าถ้าส่งหลินหวานไปฉางหยางเกมส์เพื่อรับผิดชอบเกมเพลงรบโลหิต ผลลัพธ์จะต้องออกมาล้มเหลวแน่นอนเลยทุ่มเงินก้อนโตไปกับเกม
เขาตั้งความหวังไว้ว่าจะได้ผลาญเงิน เกมไม่ประสบความสำเร็จ และหลินหวานสูญเสียความมั่นใจ จากนั้นเธอก็อาจจะเลิกล้มความฝันในวงการเกมแล้วกลับไปสานต่อกิจการครอบครัว
ตามหลักแล้วแผนนี้สมบูรณ์แบบมาก
แต่แผนที่วางไว้ก็ผิดเพี้ยนไปหมด
เกมเพลงรบโลหิตเวอร์ชันมือถือประสบความสำเร็จครั้งใหญ่ หลินหวานมั่นใจในตัวเองมากขึ้นกว่าแต่ก่อน
ถึงจะพยายามไล่ เขาก็ไม่แน่ใจว่าจะทำได้หรือเปล่า
ทำยังไงดี
เผยเชียนยกกาแฟขึ้นจิบเงียบๆ แย่จริง!
หลินฉางเองก็ดูไม่สบายใจอย่างเห็นได้ชัด “หลินหวานน่าจะภูมิใจในตัวเองมาก
“พ่อกับพี่สาวของผมคัดค้านการตัดสินใจของน้องหวาน พี่ชายคนรอง หลินโจว กับผมสนับสนุนน้อง แต่เราก็แค่เป็นกำลังใจให้น้องได้ออกไปหาประสบการณ์ ไม่คิดว่าน้องจะประสบความสำเร็จในวงการเกมขึ้นมาจริงๆ
“ยังไงวงการเกมก็โหดร้ายมาก น้องหวานมองโลกในแง่ดีเกินไป เพราะงั้นถึงพี่หลินโจวกับผมจะเป็นกำลังใจให้น้อง แต่พวกผมก็คิดว่าน้องจะเจอกับความโหดร้าย น้องจะได้รู้ว่าความเป็นจริงมันยากลำบากแค่ไหนแล้วกลับมาหาเราเอง”
เผยเชียนพยักหน้า ไม่พูดอะไร
ใช่ ฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน!
แต่เดี๋ยวนะ แบบนั้นก็เท่ากับว่าครอบครัวของหลินหวานคิดว่าเธอจะประสบความล้มเหลวแน่นอนน่ะสิ!
หลินโจวกับหลินฉางสนับสนุนหลินหวาน แต่ก็แค่สนับสนุนให้ลองตามฝันเฉยๆ ไม่ได้คิดว่าจะประสบความสำเร็จได้จริงๆ


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี