ตอนนี้ชายหนุ่มยังกอดเธอไว้ในอ้อมแขน แผ่นหลังเปลือยเปล่าสามารถรู้สึกได้ถึงกล้ามเนื้อหน้าอกหนั่นแน่นทรงพลัง
เวลาผ่านไปสามปี ได้มีความสัมพันธ์แนบเนื้อกับเขาอีกครั้ง
นอกจากความอับอายแล้ว ไป๋ซีเยว่ก็เกลียดที่ตัวเองไร้ความสามารถ...ความทรงจำเมื่อคืนก็จำได้เพียงแค่เรื่องเล็กๆน้อยๆ ทั้งยังวุ่นวายที่ไร้ประโยชน์ หิวนานขนาดนี้ ไม่ง่ายเลยที่จะได้กินมื้อใหญ่สักมื้อ รายละเอียดในนั้นกลับจำไม่ได้เลยสักนิด
โง่ที่สุด ช่างมันเถอะ!
จากระดับความปวดเมื่อยของร่างกายเธอ เมื่อคืนจี้เหลียนเฉิงจะต้อง...
คิดต่อไปไม่ได้แล้ว ถ้าคิดต่อไปอีก จะต้องรู้สึกอัปยศอดสูจนต้องจิกเท้าแน่ๆ
จี้เหลียนเฉิงมองหญิงสาวในอ้อมแขน มองหลังใบหูที่มีริ้วแดงของเธอเงียบๆ สุดท้ายทั้งใบหูก็แดงก่ำ
ลำคอเขาขยับไปมาอย่างไร้สุ้มเสียง
อุณหภูมิฝ่ามือใหญ่ที่โอบรอบเอวเธอแทบจะลวกผิวของเธอให้บาดเจ็บ
ทั้งสองคนล้วนไม่พูดอะไร ไป๋ซีเยว่รู้สึกเพียงแค่ว่าในอากาศเต็มไปด้วยสิ่งที่ทำให้เกิดความกระอักกระอ่วนอย่างยิ่ง
“กินน้ำมั้ย”
ชายหนุ่มอีกประโยคหนึ่ง
ไป๋ซีเยว่ใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี ถึงทำให้ตัวเองค่อยๆสงบลงได้
เธอเขยิบร่างไปด้านหน้าเงียบๆ “คุณออกไป” ...
ยังไม่ทันจบ ก็เกือบจะกัดถูกลิ้นตัวเองเข้าแล้ว
เสียงนี้
ทำไมถึงได้แหบแห้งเช่นนี้?
จี้เหลียนเฉิงเลิกผ้าห่มผืนบางลงจากเตียง พลางอธิบายว่า “ขอโทษด้วย ผมควบคุมไม่อยู่...”
ควบคุมอะไรไม่อยู่?
เธอต้องร้องครางแบบไหนกัน ถึงได้ทำให้เสียงแหบแบบนี้?
ไป๋ซีเยว่ดึงผ้าคลุมหัว กัดฟันกรีดร้องไม่มีเสียงออกมาอย่างอดไม่อยู่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คิดจะรัก คิดถึงอดีต(เมีย)