คิดจะรัก คิดถึงอดีต(เมีย) นิยาย บท 36

แน่นอนว่าไม่มีเวลาอยู่แล้ว

ในบ้านยังมีคนแก่ที่บาดเจ็บอยู่หนึ่ง เด็กน้อยอีกหนึ่ง เธอจะวางใจแล้วไปกินข้าวกับคนอื่นได้ที่ไหนกัน

เธอปฏิเสธไป จากนั้นก็ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เตรียมเลิกงานกลับบ้าน

สถานการณ์ในบ้านของเธอ คนในแผนกศัลยกรรมต่างก็เข้าใจดีทั้งนั้น หัวหน้าพยาบาลก็บอกไว้แล้วเหมือนกัน ถ้ามีเรื่องอะไร หมอคนอื่นในโรงพยาบาลไม่สามารถทำได้ ก็จะโทรศัพท์หาเธอ

คิดๆดูแล้วก็ใช่ ถ้าจู่ๆถูกเรียกมาที่โรงพยาบาลกลางดึกกลางดื่น ทิ้งคนที่พิการครึ่งซีกหนึ่งคน กับเด็กอีกหนึ่งคนไว้ที่บ้าน เธอวางใจลงไม่ได้จริงๆ

เธอไปรับมู่มู่ก่อน เด็กน้อยช่างพูดที่พอเห็นหม่ามี๊ก็ตื่นเต้นดีใจก็เริ่มการแสดงของเธออยู่ที่เบาะหลัง เด็กคนไหนฉี่ราดกางเกง ใครทำน้ำซุปหกตอนกินข้าว แล้วก็ใครที่ไม่นอนกลางวันแถมยังดึงผมหางเปียของเธออีก

เวลาส่วนใหญ่ ไป๋ซีเยว่ก็ล้วนแต่เป็นผู้ฟัง พูดตามจริง ทำงานยุ่งที่โรงพยาบาลมาตลอดทั้งวัน เธอก็เหนื่อยจนแสดงอารมณ์อะไรออกมาไม่ไหวแล้ว การที่จะคาดหวังให้เธอพูดจาฉะฉานกับมู่มู่ด้วยความดีอกดีใจนั้น มันเป็นไปไม่ได้แน่นอน

แต่ไป๋ซีเยว่จะเพิ่มคำเสริมน้ำเสียงลงไประหว่างการสนทนากันของทั้งสองคนอย่างเหมาะสม

“ว้าว!”

“ฮ่าๆ!”

“อย่างนั้นเหรอ?”

“อื้อ”

หลอกมู่มู่ว่าไม่มีปัญหา

ทั้งสองคนกลับมาถึงบ้าน ลงจากรถ มู่มู่อ้าสองแขนจะให้เธออุ้ม

ไป๋ซีเยว่อุ้มเธอลงจากรถ วางไว้บนพื้นไปตรงๆ

มู่มู่ไม่เต็มใจ กอดขาของเธอ“อุ้มๆ!หม่ามี๊อุ้ม!”

มู่มู่หนักหนึ่งกิโลครึ่งแล้ว ทั้งตัวมีแต่เนื้อล้วนๆ อุ้มไปสักพักจะรู้สึกหนักแขน ตอนผ่าตัด ไป๋ซีเยว่ก็ใช้เรี่ยวแรงพลังงานที่แขนมากเกินไปแล้ว เหนื่อยจนสภาพเป็นแบบนี้ ตอนกินข้าวเธอยังไม่อยากจะถือตะเกียบเลยด้วยซ้ำ

เธอคว้ามือที่จ้ำม่ำของมู่มู่ พร้อมกับพูดปลอบเธอ“หม่ามี๊จูงมู่มู่ ดูว่าจะบินขึ้นมาได้ไหม?”

“เริ่มแกว่ง!”

มู่มู่ถูกเบี่ยงเบนความสนใจทันที วิ่งเตาะแตะตามไป๋ซีเยว่ไป

ไม่มีทางบินขึ้นมาได้อยู่แล้ว แถมยังทำให้มู่มู่เหนื่อยจนหายใจหอบหืดอีกด้วย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คิดจะรัก คิดถึงอดีต(เมีย)