รวนซูเลิกคิ้ว โลกแคบเสียจริง
หย่าก็แล้ว ทานข้าวยังต้องเจอกันอีก
เจียงซินหยู่ที่กำลังพูดคุยกับเธอ พอฝ่ายตรงข้ามนิ่งไป ก็มองไปตามสายตาของเธอ ในตอนที่เห็นใบหน้าเย็นชาของโป๋สิงจื่อ อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา ลุกขึ้นแล้วเดินไปทางโป๋สิงจื่อ “ฉันก็นึกว่าใคร ที่แท้ก็ประธานโป๋นี่เอง”
ต้องยอมรับ ไม่กี่ปีมานี้บริษัทเภสัชกรรมไป่ซุ่ยก้าวหน้าจนติดท็อป ต่างก็เป็นผู้ดูแลของกรุ๊ปเหมือนกันทั้งนั้น
เจียงซินหยู่อยู่ตรงหน้าโป๋สิงจื่อ ก็ยังคงตื่นเต้นอยู่เล็กน้อย
สีหน้ายิ้มยินดีของเขา ในใจนั้นเดือดอยู่นานแล้ว
ผู้ชายคนนี้เกร็งหน้าทั้งวันไม่เมื่อยเลยหรือไง? ลูกพี่ทนแต่งงานอยู่กับเขาถึงสี่ปีได้ยังไงกัน?
มิน่าล่ะถึงต้องหย่า
“ประธานเจียง มาทานข้าวกับแฟนเหรอ? ทานด้วยกันไหม?” ริมฝีปากบางของโป๋สิงจื่อขยับเล็กน้อย คำพูดที่พูดออกมากลับทำให้ผู้คนตกใจ
โป๋ซื่อกับบริษัทเภสัชกรรมไป่ซุ่ยไม่เคยสนิทกันมาก่อนไม่ใช่เหรอ?
บอสใหญ่ทำไมถึงเชิญเจียงซินหยู่มาทานข้าว?
หรือว่าต่อไปโป๋ซื่อจะร่วมงานอะไรกับบริษัทเภสัชกรรมไป่ซุ่ย?
แต่ว่าสีหน้าเคร่งขรึมของบอสใหญ่ เหมือนจะไม่ใช่ท่าทางดีใจที่ได้เจอเจียงซินหยู่นี่!
ในสถานการณ์นี้มีเพียงคนเดียวที่เข้าใจ :ซ่งเอี๋ยน
คุณชายตนเองนั้นไม่สบอารมณ์ จะทำยังไงดีล่ะ?
ทั้งๆที่อยากเชิญคุณนายมาทานข้าว ก็พูดไปตรงๆสิ
ยังต้องอ้อมอีก
ในฐานะตัวแทนผู้จัดการผู้ช่วยซ่ง ซ่งเอี๋ยนก็ค่อยๆลุกขึ้น กำลังเตรียมที่จะไปเชิญรวนซูด้วยตัวเอง เพื่อเป็นตัวช่วย
โป๋สิงจื่อก็กวาดสายตามามอง “นายจะทำอะไร?”
สีหน้าของซ่งเอี๋ยนอึดอัดเล็กน้อย แล้วมองไปที่โป๋สิงจื่ออย่างระมัดระวัง ผมจะไปเชิญคุณนายมาไง!แต่ก็ได้แต่กลืนประโยคนี้ลงไป:“ผม ผมจะไปเข้าห้องน้ำครับ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ค้นรักตัวตนภรรยาเบอร์หนึ่ง