คุณชายรอง ? ที่เขาลือกันว่าถูกลี่จิ่งเซินทำให้ขาหักคือใครกันเหรอคะ ?
ขณะที่ลู่หวานหว่านกำลังคิด แม่บ้านโจวก็สังเกตถึงการมาของเธอ เธออดไม่ได้ที่จะถาม: “คุณผู้หญิง คุณให้อาหารคุณชายใหญ่เสร็จแล้วเหรอคะ ?”
ลู่หวานหว่านโกหกเล็กน้อย:“.......ยังค่ะ ฉันไม่ระวังทำโจ๊กหก ดังนั้นเลยอยากจะลงมาถามคุณ ในบ้านยังมีอาหารอย่างอื่นอีกไหม ? ”
แม่บ้านโจวพูดอย่างประชดประชันว่า:“ คืนนี้คุณชายรองต้องรับรองแขก ในห้องครัวไม่มีอาหารอะไรให้คุณชายใหญ่แล้ว คุณผู้หญิงคิดหาวิธีเองเถอะ”
ไม่มีอาหารอะไรเหลือแล้ว ? งั้นจานที่อยู่ในมือคนใช้พวกนั้นคืออะไรล่ะ ?
ลู่หวานหว่านเม้มริมฝีปาก อยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เธอก็พูดเบาๆ แล้วพูดว่าช่างมันเถอะ เกรงว่ามันก็คงจะไม่เปลี่ยนอะไร ในทางกลับกันจะสร้างความขัดแย้งระหว่างลี่จิ่งเซินและจวงจิ้ง
ในขณะที่เธอกำลังจะจากไป แม่บ้านโจวก็พูดขึ้นมาอีกว่า:“ ถ้าหากคุณผู้หญิงไม่คิดอะไร ก็สามารถไปเอาอาหารที่แขกเหลือไว้หลังจากกลับไปแล้ว เอาไปให้คุณชายใหญ่ แบบนี้คุณก็สามารถทำงานให้เสร็จได้ และคุณชายใหญ่ก็ไม่หิวโหยด้วย”
แววตาของลู่หวานหว่านเย็นชา อย่าพูดถึงว่าแม่บ้านโจวเจตนารังเกียจเธอหรือไม่ ยกตัวอย่างถ้าเธอนำอาหารเหลือไปให้ลี่จิ่นเซิน เชื่อไหมว่าวินาทีถัดมาจานนั้นต้องมาอยู่บนศีรษะของเธอ ?
“ไม่ล่ะแม่บ้านโจว ฉันจะหาวิธีเอาเอง”
เมื่อเผชิญหน้ากับการปฏิเสธของเธอ แม่บ้านโจวก็พูดขึ้นโดยไม่ยิ้มว่า:“ โอ้ ? แบบนั้นก็ดี แต่ขอเตือนคุณผู้หญิงหน่อยนะ พรุ่งนี้คุณท่านจะให้หมอมาตรวจคุณชายใหญ่ ถ้าหากหมอตรวจพบว่าคุณชายใหญ่หิว แล้วกลับไปบอกคุณท่าน เขาก็คงอดไม่ได้ที่จะตำหนิพวกเราที่เป็นคนรับใช้ที่น่าสงสาร”
รอเดี๋ยว !
นี่หมายความว่าจะโยนความผิดมาให้เธอเหรอ ?
*
เมื่อลู่หวานหว่านกลับมาถึงหน้าประตูห้องลี่จิ่งเซินด้วยจิตใจที่หนักหน่วง ฉากตรงหน้าของเธอทำให้รูม่านตาของเธอหดตัวลง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณชาย ภรรยาคุณบล็อกคุณอีกแล้ว
หาอ่านได้จากแอปไหน...