คู่แฝดคู่ป่วน นิยาย บท 143

“ไม่ได้นะเจ้าคะท่านพ่อข้าจะไม่ยอมให้พวกมันจับตัวท่านไปทรมานเหมือนอย่างที่ท่านเคยโดนมาแล้วเป็นแน่” เย่วซินเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่ยินยอมในคำพูดของบิดา ตนจะต้องปกป้องบิดาและคนที่รักให้ดีที่สุดแม้ชีวิตของตนเองจะหาไม่ก็ตาม ความตายสำหรับตนเองนั้นมันเป็นเรื่องที่เล็กน้อยมาก ตนเคยตายมาแล้วหนหนึ่งจะตายอีกสักครั้งจะเป็นไรเพื่อแลกกับลมหายใจของคนที่รัก

“ใช่ข้าก็ไม่ยอมเป็นแน่” จิวอิงเองก็ห่วงบิดาของนางอยู่ไม่น้อย อย่างไรเสียวันนี้นางจะปกป้องทุกคนด้วยชีวิตของนางเช่นกัน

“พวกเจ้าไม่ต้องเถียงกัน อย่างไรเสียพวกเจ้าทั้งสามคนก็ต้องไปกับข้า” เจิ้งอู่เสียงเอ่ยบอก

“ก็ได้ข้าตกลง แต่เจ้าต้องปล่อยตัวท่านยายไปก่อน” เย่วซินเอ่ยบอกอีกฝ่าย เพราะคิดว่าอย่างไรเสียพวกมันก็คงไม่มีวันยอมปล่อยพวกตนไปแน่ แต่ท่านยายเจาไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ท่านยายจะต้องปลอดภัย

“พวกเจ้าหนีไปเถิดอย่าเอาตัวเองมาแลกกับยายแก่อย่างข้าเลย ข้าจะตายวันตายพรุ่งยังไม่รู้แต่พวกเจ้ายังมีคนที่รักเจ้ารออยู่ เย่วซินอาเหว่ยรอเจ้าอยู่เขารักเจ้ามากเจ้ากลับไปเสียเถิดรีบไปกลับไป...” ซ่งอวิ๋นเอ่ยด้วยน้ำเสียงวิงวอนชีวิตของนางเพียงชีวิตเดียวไม่สมควรที่จะเอาอีกสามชีวิตมาแลก และนางก็ยังรู้มาอีกว่าทั้งสามชีวิตนั้นมีเป็นถึงเชื้อพระวงศ์แห่งแคว้นหาน นางหวังอย่างยิ่งว่าหากพวกเขายังมีชีวิตอยู่สักวันจะต้องกอบกู้บัลลังก์คืนมาจากคนชั่วได้อย่างแน่นอน ไม่ใช่เอาชีวิตมาแลกกับหญิงแก่อย่างนางที่ไม่มีค่าอะไรเช่นนี้ 

“ท่านยาย ท่านอย่าเอ่ยเช่นนั้น ท่านยายมีค่าสำหรับทุกคนโดยเฉพาะพี่ไท่เหว่ยข้าจะไม่ยอมให้เขาต้องเสียใจอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ” เย่วซินเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงที่ทำให้อีกฝ่ายผ่อนคลายลง

“ปล่อยตัวท่านยายเดี๋ยวนี้...” เย่วซินเอ่ยบอก

“เจ้าไม่มีสิทธ์มาสั่งข้า พวกเจ้าถอดแหวนจัดเก็บและอาวุธออกมาให้ข้าทั้งหมดเดี๋ยวนี้” เจิ้งอู่เสียงเอ่ยสั่ง เพราะตนรู้ดีถึงความร้ายกาจของสตรีตรงหน้า นางมีทั้งยาพิษและขลุ่ยอันร้ายกาจเขาจะต้องระวังตัวเป็นอย่างมาก

ทั้งสามเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ไม่คิดเอ่ยขัดเพราะอย่างไรเสียพวกตนก็ต้องทำตามที่พวกมันต้องการอยู่ดีโดยไม่มีข้อกังขาใด ๆ การแลกเปลี่ยนตัวประกันจะได้จบลงเสียที

ทั้งสามส่งอาวุธและแหวนจัดเก็บของตนให้กับอีกฝ่ายทันทีที่ถอดออกจากร่างกายเสร็จเรียบร้อย ทั้งสามตอนนี้มีเพียงมือเปล่าที่ไม่มีพิษภัยที่จะต่อสู้กับอีกฝ่ายได้เลย แต่เย่วซินและจิวอิงไม่กังวลเรื่องนั้นเพราะอาวุธหรือยาพิษใด ๆ พวกมันไม่สามารถทำอันตรายพวกนางทั้งสองคนได้ เพราะร่างกายที่มีใยสีรุ้งห่อหุ้มอยู่มันสามารถรักษาตัวเองได้ แต่เย่วซินเป็นห่วงบิดาเป็นอย่างมากท่านร่างกายเพิ่งจะฟื้นตัวกลับมาแข็งแรงหากต้องโดนทรมานอีกเกรงว่าครั้งนี้พวกมันคงไม่ปล่อยให้ท่านมีชีวิตรอดไปได้อย่างแน่นอน

เจิ้งอู่เสียงรับอาวุธมาจากอีกฝ่ายด้วยใบหน้ายกยิ้มพอใจ เมื่อเห็นว่าทุกอย่างเรียบร้อยเป็นไปตามที่ตนวางแผนเอาไว้ ก็สั่งให้ลูกน้องกลุ่มโจรจับตัวทั้งสามและค้นตามร่างกายอีกครั้งเพื่อความแน่ใจว่าทั้งหมดจะไม่แอบซ่อนอาวุธใด ๆ เอาไว้อีก

จากนั้นก็ให้คนของตนปล่อยตัวหญิงชราให้เป็นอิสระ แต่กระนั้นเจิ้งอู่เสียงก็ยังไม่วายที่จะสั่งให้ลูกน้องของตนป้อนยาพิษให้กับอีกฝ่าย ยาพิษชนิดนี้จะทำให้สมองเลอะเลือนและเห็นภาพหลอนคล้ายคนบ้า หากไม่ได้รับยาถอนพิษหรือได้รับการรักษาได้ทันท่วงทีหญิงชราผู้นี้ก็จะได้รับความทรมานอย่างแสนสาหัสจากภายในร่างกายและตายลงในที่สุด

“เจ้า...มันคนเจ้าเล่ห์ไหนว่าจะปล่อยตัวตัวประกันไปหากพวกเรายอมทำตามที่เจ้าต้องการ” หานเสวี่ยถังเอ่ยด้วยน้ำเสียงดุดัน คนพวกนี้มันเจ้าเล่ห์อย่างที่คิดเอาไว้ไม่มีพิษ ยาที่พวกมันป้อนเข้าปากของหญิงชราคงไม่พ้นเป็นยาพิษเป็นแน่

“ข้าก็ปล่อยอยู่นี่อย่างไรเล่า แต่ข้าไม่ได้บอกเสียหน่อยว่าจะปล่อยไปแบบไหนฮ่า ๆ ๆ” เจิ้งอู่เสียงหัวเราะออกมาด้วยความชอบใจ ที่ทำให้อีกฝ่ายทุกข์ทรมานได้ หญิงชราผู้นี้ไม่ใช่หญิงแก่ธรรมดานางเป็นถึงคนสำคัญของพรรคอินทรีย์เขาย่อมต้องทำให้อีกฝ่ายร้อนลุ่มใจไม่บ้างก็เท่านั้นเอง

“ท่านนี่มัน...” เย่วซินหมดคำจะกล่าวท้วงเพราะจะเอ่ยออกไปอย่างไรอีกฝ่ายก็ไม่ได้มีสติคิดตามอยู่ดี

“ท่านยายเป็นอย่างไรบ้าง ท่านยาย...ท่านยาย” เย่วซินหันไปเรียกท่านยายของคนรักด้วยน้ำเสียงห่วงใยเมื่อเห็นว่าท่านเริ่มมีอาการเหม่อลอยดวงตาปรือบางครั้งก็มีอาการหวาดผวาสลับกันไป เย่วซินเมื่อเห็นอาการก็คาดเดาได้อย่างไม่ต้องตรวจสอบว่ายาที่ยายเจาได้คือยาพิษประเภทใด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่แฝดคู่ป่วน