ศาลเทพภูเขาที่อยู่ใกล้กับคฤหาสน์ใต้เมฆามาก คนแก่หลังค่อม ลักษณะเหมือนคนบ้านนอกบ้านนาก าลังง่วนท าอาหารอยู่ในห้องครัว ผูกผ้ากันเปื้อนไว้ตรงเอว เสียงหั่นบนเขียงดังฉับๆ เหมือนเสียงยาม สตรีทุบผ้า
เพราะเหนียงเนียงเทพภูเขาไม่เคยรับรองแขกกลับพาตาเฒ่าผู้นี้ กลับมาที่ภูเขาด้วยกัน นางยังไปยืนพิงขอบประตูมองผู้เฒ่าในห้อง ด้วยสายตาที่แฝงไว้ด้วยแววรักใคร่
ทาให้พวกสาวใช ้ผีหญิงทั้งแก่และเด็กที่อยู่ในศาลซึ่งยืนมองดูอยู่ ไกลๆ หันมามองหน้ากันเอง หรือว่าเหนียงเนียงเทพภูเขาบ้านตนหา …บิดาของนางเจอแล้ว?
จูเหลี่ยนไม่ได้หันกลับมา เพียงแค่เอาวัตถุดิบที่วางทับซ ้อนกัน เป็ นชั้นๆ วางไว้ในชามใบเล็กที่เผาจากหน่วยงานของแคว้นบ้านเกิด อย่างประณีติ ยิ้มเอ่ยว่า “แม่นางเซี่ย อันที่จริงข้าไม่ได้มีความกลัด กลุ้มที่ต้องจากบ้านเกิด ไม่มีความเจ็บปวดจากการสูญเสียบ้านเมือง เจ็บปวดต่อความยากลาบากหรือเศร ้าระทมทุกข์ใจใดๆ เดิมทีตอนที่ มีชีวิตอยู่ก็ไม่มีเรื่องอะไรให้ต้องเสียดายอยู่แล้ว เรื่องราวหลังจากที่ข้า จากไปยังจะต้องไปสนใจอีกท าไมกันหากว่าเจ้าเป็ นทุกข์เศร ้าใจแทน ข้า ข้าถึงจะยอมฝื นใจพูดคาว่ากลุ้มเพียงเพื่อให้ได้แต่งกวีบทใหม่
เท่านั้น ไม่มีความจาเป็ นเลย จริงๆ นะ เจ้าอย่าเอาแต่ขมวดคิ้วมุ่นไม่ คลายอยู่เลยคนอื่นเห็นแล้วจะรู ้สึกว่าไม่น่ามอง”
เซี่ยเถาเพียงแค่เหม่อมองเขา ไม่พูดไม่จา แต่นี่ก็คือการพูดอย่าง หนึ่ง
หวนนึกถึงในปี นั้น เซี่ยเถาที่มีชาติกาเนิดจากตระกูลชนชั้นสูง อันดับหนึ่ง ถึงขั้นที่ว่าสตรีในตระกูลของนางไม่ยินดีจะแต่งงานกับ เชื้อพระวงศ์ซึ่งถือเป็ นการ “แต่งกับคนต่ากว่าในวันเวลาที่นางยังเป็ น เด็กสาว ครั้งแรกที่นางได้เห็นจูเหลี่ยนที่อยู่แคว้นใกล้เคียงซึ่งถูกนาง มองเป็ น “คนที่สร ้างชื่อเสียงจอมปลอมได้เก่ง ทั้งยังอาศัยสิ่งนี้บ่มเพาะ ความคาดหวังเพื่อรอเวลาให้ได้ราคาดีแล้วค่อยขายต่อ” ตอนนั้นเซี่ย เถาอยู่ในคฤหาสน์แห่งหนึ่งของตระกูลตัวเองเมื่อหิมะใหญ่ผ่านพ้นไป นางอยู่ว่างไม่มีอะไรทาจึงมายืนพิงราวรั้วมองทัศนียภาพที่อยู่ฝั่งตรง ข้าม
เพราะนางมีคุณสมบัติในการฝึกวรยุทธที่ดีเยี่ยม อีกทั้งในตระกูล ยังมีอาจารย์มากฝีมือช่วยชี้แนะ และท่านลุงใหญ่ของนาง เดิมทีก็เป็ น ปรมาจารย์ที่มีชื่อเสียงเลื่องลือในยุทธภพอยู่แล้ว เป็ นเหตุให้ตอนที่ นางยังเป็ นเด็กสาวก็ได้เรียนรู ้วิชาการต่อสู้ที่ไม่ธรรมดามาแล้ว แม้กระทั่งท่านลุงใหญ่ที่ไม่ชมใครง่ายๆ ก็ยังบอกว่านางได้เดินเข้าสู่ ห้องของการเรียนวรยุทธแล้ว เซี่ยเถาจึงมีความสามารถในการ มองเห็นที่ดีมาก นางถึงได้พอจะมองเห็นลางๆ ว่าห่างไปไม่ไกลมีชาย หญิงคู่หนึ่งอยู่ในภูเขาใกล้เคียง
คุณชายจากตระกูลสูงศักดิ์สวมเสื้อคลุมหนังจิ้งจอกถือไม้เท้า เดินขึ้นเขา เดินอยู่ท่ามกลางแมกไม้เขียวหนาที่ถูกชะล้างด้วยหิมะ สาวใช ้อายุน้อยนิ้วห่อบรรจุภาพวาดและสุราเลิศรสติดตามมาข้าง กาย รูปโฉมของนางงามล้า ทั้งสีของภูเขาทั้งกลิ่นหอมของสุราล้วน เข้าคู่กันได้เป็ นอย่างดี
ระหว่างที่กลับลงจากภูเขาก็เจอหิมะตกหนักอีกครั้ง กลุ่มขุนเขา เขียวขจีดุจก้อนหยกตั้งตระหง่าน รอบด้านสว่างไสวขาวโพลน คุณชายสูงศักดิ์ใช ้ไม้เท้าไม้ไผ่แหวกหิมะก้อนหนาเท่าขนห่านให้พ้น ทาง สาวใช ้ที่อยู่ด้านหลังย่าหิมะพลางขับขานลานาบทกวีไปด้วย บุรุษและสตรีประหนึ่งเดินอยู่ท่ามกลางดินแดนเซียนอันบริสุทธิ์งดงาม
นางไม่สนใจแล้วว่าความตั้งใจเดิมและความคิดในเวลานั้นคือ อะไร เอาเป็ นว่าสุดท้ายนางก็วิ่งไปขวางทางเขาที่ตีนเขา
เพียงแต่ว่าการขวางทางครั้งนี้กลับขวางให้เกิดความรักความ คิดถึงไม่มีที่สิ้นสุดซึ่งทาให้นางเสียใจภายหลังว่าไม่ควรทาเช่นนั้น เลย
ไม่ควรไปพบเจอเขา ไม่ควรคิดเช่นนี้ ชั่วชีวิตนี้เซี่ยเถาได้แต่เดิน วนเวียนอยู่ท่ามกลางความคิดสองอย่างนี้เหมือนถูกผีบังตา
มีเพียงได้รู ้จักเขา ได้อยู่ร่วมกันแล้วถึงจะเข้าใจเขาได้อย่าง แท้จริง
เขาทาเป็ นทุกอย่างจริงๆ อีกทั้งยังเชี่ยวชาญในทุกเรื่อง แต่เขา กลับไม่เคยสนใจว่าตัวเองจะเผลอทาเรื่องน่าอาย ยกตัวอย่างเช่นพอ เขากินเผ็ดก็จะตัวสั่นเยือก ครู่เดียวก็หน้าแดงก า แต่กลับยังไม่ยอม แพ้ น้าตาไหลพลางตวัดตะเกียบเร็วราวกับบินไปด้วย กินอาหารทะเล บางอย่างก็แพ้ตุ่มแดงขึ้นไปทั้งตัว ทุกครั้งจะต้องร ้องโอดครวญ ทรมาน พูดถึงเรื่องบางอย่างที่ไม่พอใจ หรือพูดถึงคนที่ไม่ชอบขี้หน้า ก็จะด่ากราด พ่นคาพูดหยาบคายออกมารัวๆ ทั้งยังมัดหุ่นฟางที่ เหมือนคนจริง ปากก็พร่าพูดว่าฟ้ าศักดิ์สิทธิ์ดินศักดิ์สิทธิ์ หยิบเข็ม มาได้ก็แทงแล้วแทงอีก จากนั้นก็ตวัดพู่กันเร็วราวกับบิน เขียน จดหมายไปสอบถามว่าช่วงนี้สุขภาพร่างกายของใครบางคนเป็ น อย่างไรบ้างแล้ว
สาวใช ้ในศาลเทพภูเขาแห่งนี้มีอยู่ไม่มาก และเซี่ยเถาก็ไม่ยินดี จะให้พวกชายหญิงที่อยู่ใกล้เคียงเข้าศาลมาจุดธูป ไม่เพียงแค่เพราะ นางชอบความสงบสุข ยังเป็ นเพราะนางอ่อนใจอย่างมาก พวกเจ้ามา กราบข้าเพื่อจะขออะไรล่ะ ขอให้มีโชคด้านการงาน มีเงินทองไหลมา เทมา? ความคิดจินตนาการพรั่งพรูดุจน้าพุ ขยับพู่กันดุจบุปผาผลิ บาน? หรือจะขอความรัก ขอให้มีบุตรในเร็ววัน?
จูเหลี่ยนถาม “ในศาลมีควันธูปแค่นี้ มีก็เหมือนไม่มี อาศัยแค่ โชคชะตาภูเขาสายน้ามาสร ้างความมั่นคงให้ร่างทองอย่างเดียวไม่ น่าจะพอกระมัง?”
เซี่ยเถาคืนสติ พยักหน้าเอ่ย “บางครั้งร่างทองก็ส่ายไหว ทว่าข้า ไม่ได้ใส่ใจ เพียงแต่ท าให้พวกนางตกใจกันมาก หลายปีมานี้พวก นางไม่เคยได้นอนหลับสนิทกันสักคืน”
จูเหลี่ยนยิ้มเอ่ย “วัตถุอย่างเงินเหรียญทองแดงแก่นทอง ข้าเองก็ ไม่มีหน้าจะไปขอมาจากคุณชาย แล้วนับประสาอะไรกับที่นี่เป็ นแค่ ทางลัดเท่านั้น ไม่ถือเป็ นต้นกาเนิดควันธูปที่แท้จริง ในเมื่อแม่นาง เซี่ยมีความสามารถ เรียนวรยุทธก็เก่ง ปีนั้นยังเคยเป็ นคนดูแลตระกูล ครึ่งตัว ตระกูลใหญ่ถึงเพียงนั้น เจ้ากลับดูแลได้อย่างเป็ นระเบียบ คน กลุ่มใหญ่หลายร ้อยคนพวกเขากลับไม่เคยต้องกลุ้มใจเรื่องเงิน ไม่สู้ เจ้าลองใส่ใจในเรื่องของโชคชะตาบุ๋น โชคชะตาบู๊และเรื่องเงินทอง สักหน่อย หากไม่ชอบการเข่นฆ่ากันในยุทธภพ แล้วก็ไม่ยินดีจะมี ความเกี่ยวพันกับโชคชะตาแคว้นที่มาพร ้อมกับโชคชะตาบู๊ลึกล้า เกินไป ทั้งไม่ชอบให้พวกพ่อค้าที่ทั่วร่างมีแต่กลิ่นสาบเงินมาวุ่นวาย ที่นี่ให้เกะกะสายตา ถ้าอย่างนั้นก็ให้บัณฑิตมาขอให้การสอบเคอจวี่ ราบรื่นที่ศาลเทพภูเขาแห่งนี้”
เซี่ยเถาส่ายหน้า “ข้าไม่มีความคิดอยากจะทาเรื่องพวกนี้ ชีวิต ก่อนก็ยุ่งวุ่นวายกับเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว ชาตินี้ยังจะเอางิ้วบทเดิมมา เล่นซ้าอีกก็เหมือนเดินไปบนทางสายเก่า จะหาเรื่องลาบากใส่ตัวไป ไย”
เหอะ เรียกแม่นางเซี่ยค าแล้วค าเล่า เจ้าพูดว่าอะไรข้าก็จะขัดคอ พูดไปในทางตรงกันข้ามทั้งหมดนั่นแหละ
คนคือคนเดิม ความกลัดกลุ้มคือความกลัดกลุ้มใหม่ ดวงจันทร ์ ของเมื่อคืนก็คือดวงจันทร ์ในอดีต วันนี้กลับเป็ นวันใหม่อีกครั้งแล้ว
ดังนั้นเซี่ยเถาจึงเริ่มสงสัยแล้วว่าตัวเองกาลังฝันไปหรือไม่
ได้เจอกับจูเหลี่ยนจริงๆ หรือ? ไม่ใช่ว่าตนไปหาจูหลางเองหรอก นะ?
พวกสาวใช ้ที่เข้าใจนิสัยเย็นชาของเหนียงเนียงเทพภูเขาบ้านตน เป็ นอย่างดีเริ่มหันมามองกันเอง เจ้ามองข้า ข้ามองเจ้ากันอีกครั้ง เหมือนเห็นผีตอนกลางวันแสกๆ จริงๆ แล้ว
ผู้เฒ่าที่แต่งกายมอชอ รองเท้าก็ยังสวมเป็ นรองเท้าผ้าผู้นั้นเป็ น เทพเซียนจากฝ่ ายใดกันแน่ ถึงได้ทาให้เจ้านายของตนมีรอยยิ้ม เวลาพูดจายังแสดงท่าทาง “ขุ่นเคือง” มีกลิ่นอายของความเป็ นมนุษย์ เช่นนี้ได้?
จูเหลี่ยนนั่งลงบนม้านั่งตัวเล็กข้างเตาไฟ หยิบกระบอกไม้ไผ่ที่ใช ้ สาหรับเป่ าไฟขึ้นมาสะบัด จากนั้นพลิกกลับด้าน คงเป็ นเพราะมีไว้ เป็ นเครื่องประดับมานาน ในกระบอกจึงมีแต่ฝุ่ น เขาหยิบเอาตะบันไฟ และยางสนที่ส่งกลิ่นหอมสดชื่นรวยรินแผ่นหนึ่งออกมาจากชายแขน เสื้อ หันหน้ามาเอ่ยสัพยอกว่า “แม่นางเซี่ยของข้าหนอ อย่าทาตัวซึม เซาไม่กระปรี้กระเปร่าอย่างนี้สิ หรือว่าต้องกินข้าวให้อิ่มก่อนถึงจะมี เรี่ยวแรงจริงๆ? สามารถใช ้สถานะของวิญญาณวีรบุรุษกลายมาเป็ น สิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้ถือเป็ นโชคดีที่ยิ่งใหญ่ถึงเพียงใดลองมองข้าสิ ตื่นแต่
ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!