ในสถานที่แห่งหนึ่งของจวนหม่า มีผู้เฒ่าวัยไม้ใกล้ฝั่งคนหนึ่งนั่ง อยู่ใต้ชายคาเรือนซอมซ่อ อยู่ที่บ้านเกิดแห่งนั้นไม่มีอนาคต หลายปี มานี้ติดตามทางตระกูลมาอยู่ที่นี่ก็ไม่ได้พึ่งใบบุญอะไรของใครเขา เวลานี้ผู้เฒ่าเอาสองมือยันไว้บนหัวไม้เท้า เล่าเรื่องของที่บ้านเกิดให้ เด็กหนุ่มคนหนึ่งที่อยู่ข้างกายฟัง ผู้เฒ่าเล่าว่าเมื่อก่อนตระกูลของ พวกเราอาศัยเตาเผาจินเอ๋อถึงได้ร่ารวยขึ้นมา ตนคือมือดีในการเผา เครื่องกระเบื้อง ได้เรียนรู ้ความสามารถที่แท้จริงมาจากช่างหนุ่มแซ่ เฉินคนหนึ่งของตรอกหนีผิงมาไม่น้อย
เด็กหนุ่มยิ้มเอ่ยว่า นี่เรียกว่าผู้ที่เชี่ยวชาญย่อมเป็ นอาจารย์ผู้อื่น ได้ ผู้เฒ่าพยักหน้ารับบอกว่าคือเหตุผลข้อนี้ หากรู ้แต่แรกตอนเด็กก็ คงไม่โดดเรียน ควรจะตั้งใจอ่านตาราอยู่ในโรงเรียนหลายๆ เล่ม หน่อย
ผู้เฒ่าหันหน้าไปมองคนหนุ่มผู้หนึ่งที่คล้ายมาหลบฝนอยู่ใต้ หลังคาเรือนของตนช ้าๆ มองใบหน้าด้านข้างของอีกฝ่ าย ผู้เฒ่า พยายามเบิกตาให้กว้าง พึมพ าว่า “เจ้าหนุ่ม เจ้าคือลูกชายของเฉิน เฉวียนหรือ?”
คนหนุ่มที่สวมกวานสีทอง สวมชุดคลุมอาคมผ้าโปร่งสีเขียวหัน หน้ามา ยิ้มถามว่า“อาจารย์ผู้เฒ่ามองออกได้อย่างไร?”
่
ผู้เฒ่ายิ้มเอ่ย “หน้าตาไม่เหมือน แต่มองแล้วเหมือนมาก หลานชายของข้าคนนี้มักจะชอบพูดภาษาในหนังสือให้ข้าฟังบ่อยๆ ใช่แล้ว นี่เรียกว่าบุคลิกท่าทาง”
เฉินผิงอันมองคนหนุ่มผู้นั้นแล้วพยักหน้า “ตระกูลที่สั่งสมคุณ ความดีแม้จะยากจนแต่ลูกหลานย่อมต้องมีโชคในภายหลัง”
ผู้เฒ่าถาม “เจ้ามาเยือนสถานที่แบบนี้ได้อย่างไร?”
ปีนั้นมีเรื่องบางอย่างที่ยิ่งขบคิดก็ยิ่งเผยให้เห็นถึงกลิ่นอายอึมค รึมน่าสะพรึงกลัว ตอนนั้นผู้เฒ่ายังอยู่ในวัยหนุ่มฉกรรจ์ทั้งยังแซ่หม่า จึงไม่กล้าพูดอะไรมาก หลายปีมานี้เขาเก็บมันไว้อยู่ในใจตลอดมา ก็ ไม่ได้รู ้สึกย่าแย่มากสักเท่าใด เพียงแค่รู ้สึกผิดปกติไม่สบายใจ ใน เมื่อในเมืองหลวงแคว้นอวี้เซวียนมีเทพเซียนที่สามารถขี่เมฆทะยาน หมอกได้ ทั้งยังมีศาลเทพอภิบาลเมืองหลายแห่งที่ว่ากันว่าดูแลเรื่อง การคิดบัญชีของคนที่ตายไปแล้ว ผู้เฒ่าจึงค่อนข้างจะเป็ นกังวล
เฉินผิงอันยิ้มเอ่ย “ผู้เยาว์จะพูดตามตรงก็แล้วกัน อาจารย์ผู้เฒ่า อย่าได้โกรธเคืองเดินวนมารอบหนึ่ง ดูเหมือนว่าคนร ้อยกว่าคนของ สกุลหม่า จวนสามหลังเชื่อมติดกัน มีเพียงสถานที่แห่งนี้ที่สะอาด พอจะท าให้รู้สึกว่าย่างเท้ามาเยือนแล้วไม่สกปรกรองเท้า”
ผู้เฒ่าถอนหายใจ คาพูดประเภทนี้ต่อคาได้ยาก เด็กหนุ่มถาม “เจ้าก็คือผู้ฝึกบ าเพ็ญตนหรือ?” เฉินผิงอันกล่าว “จะพูดว่าอย่างนี้ก็ได้”
่
เด็กหนุ่มถามอย่างสงสัย “มาทาอะไรที่นี่”
เฉินผิงอันยิ้มเอ่ย “หยิบยกเรื่องเก่ามาเล่าซ้าอีกครั้ง มาคิดบัญชี เก่าก้อนหนึ่งจากที่นี่”
เด็กหนุ่มยังอยากจะถามต่อไป ผู้เฒ่ากลับส่งเสียงกระแอมขึ้นมา ก่อน เด็กหนุ่มจึงรีบยกมือตบหลังให้ท่านปู่เบาๆ
เฉินผิงอันยิ้มถาม “ชอบดูงิ้วหรือชอบฟังเรื่องเล่า?”
เด็กหนุ่มที่สวมเสื้อผ้าสะอาดสะอ้านพยักหน้า “ชอบทั้งคู่ แต่ว่า ได้ดูได้ฟังไม่บ่อยนัก”
“เรื่องราวของคนข้างกาย งิ้วก็เหมือนชีวิตคน ความสุขความ ทุกข์การพบการพรากล้วนเป็ นบทความบนหน้ากระดาษ เจ้าไม่ต้อง คิดเป็ นจริงเป็ นจังมากนัก แค่มองผ่านไปก็พอ”
เฉินผิงอันยื่นมือจิ้มมาที่หน้าผากของเด็กหนุ่มอยู่ไกลๆ ฝ่ ายหลัง เหมือนได้เปิดเนตรสวรรค์ ได้มองเห็นภาพเหตุการณ์ภาพแล้วภาพ เล่าเหมือนตัวเขาเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย
ชิวจวินจอมยุทธหญิงคนหนึ่งที่มาจากพรรคซึ่งเป็ นผู้นาในยุทธ ภพได้ออกจากส านักมา พกกระบี่ออกเดินทางท่องอยู่ในยุทธภพ นานหลายปี คืนนี้เดินทางผ่านศาลร ้างแห่งหนึ่งนางที่ได้พบกับ ประสบการณ์แปลกประหลาดกับตัวเองมามากมายมาพักค้างแรมที่นี่ อย่างไม่คิดอะไรมาก เข้ามาในศาลที่ควันธูปเจือจางมานานหลายปี เห็นว่าบนกระถางธูปวางกระดาษสัญญาเก่าแก่ฉบับหนึ่งเอาไว้ คา
่
สาบานของสตรีเปี่ยมไปด้วยสีสันสดใส ทว่าเนื้อหาตัวอักษรของคา สาบานรักมั่นตราบฟ้ าดินสลายของบุรุษกลับแห้งเหือดไร ้สีสัน นี่ทา ให้ชิวจวินเคียดแค้นอยู่ในใจ ชีวิตนี้นางเกลียดชายทรยศที่สุด จดจา ชื่อแช่และภูมิลาเนาของสองฝ่ ายที่ให้คาสาบานต่อกันในศาลเอาไว้ แล้วนางก็หมุนกายออกไปจากที่นี่ นางเจอโถงวิญญาณของสตรีน่า สงสารที่กระอักเลือดตายก่อน ชิวจวินยืนอยู่ข้างโลงศพ สัญญาว่าจะ ช่วยกาจัดบุรุษผู้นั้น จะเอาหัวของชายทรยศที่ใจดาไร ้เมตตาผู้นั้นมา ที่นี่ มาสังเวยวิญญาณของนางที่อยู่บนสวรรค์ หลังจากนั้นชิวจวินก็ ควบม้าตะบึงไปตลอดทางไม่ได้หยุดพักทั้งวันทั้งคืน นางสืบข่าวไป เรื่อยๆ ตรงดิ่งไปที่เมืองหลวง แล้วก็ไปเจอเรือนหลังใหญ่ประตูสูงที่ แขวนโคมสีสด ที่แท้บุรุษผู้นั้นก็มีชื่อบนกระดานทองคา แล้วก็เพิ่ง แต่งทายาทหญิงสายตรงของบัณฑิตใหญ่ในราชส านักมาเป็ นภรรยา บนถนนที่รถม้าแล่นสวนกันขวักไขว่ จอมยุทธหญิงชิวจวินถือกระบี่ ควบม้าบุกกระโจนไปข้างหน้าผ่านประตูหลายบานของจวน กระทั่ง มาถึงห้องโถงที่กาลังจัดงานพิธีครึกครื้นซึ่งมีเหล่าขุนนางผู้สร ้าง คุณูปการแก่แคว้นนั่งกันอยู่เต็มห้อง นางขยับตัวหันข้างอย่าง คล่องแคล่ว เสื้อกระบี่ฟันหัวของเจ้าบ่าว แล้วใช ้ปลายกระบี่เลิกผ้า คลุมหน้าสีแดงของสตรีที่กาลังออกเรือนให้ร่วงหล่น เอาผ้าผืนนั้น คลุมทับศีรษะที่อาบโชกไปด้วยเลือด ชิวจวินพลิกตัวลงจากหลังม้า เอาห่อผ้ามาเหน็บไว้ใต้รักแร ้แล้วกลับขึ้นไปนั่งบนหลังม้าอีกครั้ง ควบ


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!