กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 127

คุมเชิง
โดย
ProjectZyphon
เว่ยจิ้นถามยิ้มๆ “เจ้าใช่คนผู้นั้นจากสำนักโม่หรือไม่?”

สีหน้าของผู้ฝึกกระบี่หนุ่มไม่ค่อยน่าดูนัก ในใจคิดว่าผู้อาวุโสอาเหลียงท่านพูดชื่อสักชื่อหนึ่งมันยากนักหรือไง?

เขาพูดกับเว่ยจิ้นว่า “รอสักครู่”

ผู้ฝึกกระบี่หนุ่มหันหน้าไปมองผีสาวที่ซ่อนตัวอยู่ในกรอบป้าย ขมวดคิ้วพูด “ฉู่ฮูหยิน เรื่องมาถึงขั้นนี้ เจ้าช่วยแสดงความจริงใจบ้างได้หรือไม่?”

ผีสาวที่ซ่อนวิญญาณอยู่ในกรอบป้ายอักษรทองพยักหน้า จากนั้นม่านฟ้าก็ค่อยๆ หายไป นี่คือปรากฎการณ์ที่ขอบเขตภูเขาและแม่น้ำกำลังจะถอยหาย คล้ายคลึงกับการเปิดประตูต้อนรับแขกของชาวบ้านทั่วไป

ต่อให้นางจะแยกตัวอยู่อย่างสันโดษแค่ไหน แต่ก็ยังเคยได้ยินเรื่องราวมหัศจรรย์มากมายของคนผู้นี้ เกิดมาในสายของจอมยุทธ์พเนจรสำนักโม่ สวามิภักดิ์ต่อต้าหลีพร้อมกับจวี้จื่อท่านหนึ่งของสำนักที่มีฐานะเลื่องลือ จึงถูกฮ่องเต้ต้าหลีปรนนิบัติเป็นแขกผู้ทรงเกียรติ ตอนนี้มีฐานะสำคัญเป็นถึงหนึ่งในผู้พิทักษ์ประตูเมืองหลวงต้าหลี คือหนึ่งในบุคคลสำคัญที่สามารถสยบขวัญกองกำลังบนภูเขาของต้าหลีได้ ว่ากันว่าหากมีเวลาว่างเมื่อไหร่ก็จะออกเดินทางท่องเที่ยวไปทั่วสารทิศเพียงลำพัง ทุกครั้งที่เห็นความมหัศจรรย์ของภูเขาและแม่น้ำก็จะจับมาผสานให้เป็นปณิธานกระบี่ของตน

เมื่อเป็นเช่นนี้ตอนที่ผู้ฝึกกระบี่หนุ่มปรากฏตัว หลางจงของกรมพิธีการกับเทพแม่น้ำซิ่วฮวาที่อยู่บนถนนใหญ่ต่างก็หันมากุมมือคารวะเขา ฝ่ายหลังทำเพียงแค่พยักหน้ารับเท่านั้น เห็นได้ชัดว่าตำแหน่งของคนผู้นี้ในต้าหลีสูงส่งเพียงใด

เทพหยินตนนั้นก็ยืนอยู่ข้างกายเฉินผิงอัน ปราณดุร้ายท่วมเทียมฟ้า เมื่อครู่นี้เขาเกือบจะทุ่มตบะทั้งหมดของตนโดยไม่เสียดายเพื่อตัดขาดรากฐานของภูเขาลูกนี้อย่างเด็ดเดี่ยว หมายจะใช้วิธีปลาตายตาข่ายขาด (เปรียบเปรยว่าต่อสู้จนตายตกไปตามกัน) กับผีสาวสวมชุดแต่งงาน หากรากฐานของภูเขาแตกทลายก็หมายความว่ายันต์คุ้มกันกายของผีสาวไม่เหลืออยู่อีกแล้ว และนางจะต้องสูญเสียความมั่นใจในการต้านทานกับนักพรตขอบเขตสิบไปอย่างสิ้นเชิง

แขนข้างหนึ่งขาวนวลงดงามเหมือนหยกมันแพะยื่นออกมาจากกรอบป้าย ชุดเจ้าสาวที่อยู่บนพื้นขยับเคลื่อนลอยล่องเข้าหากรอบป้าย เมื่อผีสาวมุดออกมาจากกรอบป้ายก็สวมชุดเจ้าสาวชุดนี้อีกครั้ง ก่อนหน้านี้เรือนกายถูกสองกระบี่ของเว่ยจิ้นแห่งหอเทพเซียนผ่าออกเป็นสี่ท่อน ทว่าต่อให้นางตกอยู่ในอันตรายจนแทบจะเอาชีวิตไม่รอด แต่ก็ยังไม่ลืมรักษาความสมบูรณ์แบบของชุดเจ้าสาวชุดนี้ เห็นได้ชัดว่าความทะนุถนอมที่นางมีต่อชุดนี้แทบจะใกล้เคียงกับคำว่ายึดติดอย่างไร้สติ

หลังจากผีสาวพลิ้วกายลงบนพื้นก็เหลือบไปเห็นหีบหนังสือด้านหลังเด็กๆ เหล่านั้น สีหน้าพลันแปรเปลี่ยนในชั่วพริบตา กลิ่นอายของความดุร้ายทั่วร่างทะยานพรวดพราด แม้ว่าจะพยายามข่มกลั้นเอาไว้แล้ว แต่ความผิดปกติของผีสาวก็ยังเปิดเผยออกมาอย่างปิดไม่มิดอยู่ดี

ผู้ฝึกกระบี่หนุ่มถอนหายใจมองไปยังเด็กหนุ่มรองเท้าแตะที่เคยมีโอกาสได้พบหน้ากันครั้งหนึ่งบนแม่น้ำซิ่วฮวา กล่าวขอร้องด้วยน้ำเสียงจริงจัง “พวกเจ้าสามคนช่วยเก็บหีบหนังสือลงไปก่อนได้หรือไม่ ความอาฆาตที่ฉู่ฮูหยินผู้นี้มีต่อคนเรียนหนังสือก็เป็นปมทางใจที่ปีนั้นนางละทิ้งตำแหน่งเทพภูเขาและแม่น้ำ ต้นสายปลายเหตุของเรื่องนี้ยากจะอธิบายให้กระจ่างเพียงประโยคเดียว เฉินผิงอัน หวังเพียงพวกเจ้าจะแสดงความเมตตา เห็นแก่ที่เรื่องราวยังไม่ร้ายแรงบานปลาย ปล่อยผ่านความแค้นครั้งนี้ไป ได้หรือไม่?”

ผู้ฝึกกระบี่หนุ่มครุ่นคิดแล้วก็เอ่ยยิ้มๆ ว่า “หากเป็นไปได้ แค่อนุญาตให้ข้าร่ายใช้เวทอำพรางตาก็พอ”

เฉินผิงอันพยักหน้ารับ “ได้สิ”

เพียงไม่นานหีบหนังสือสีเขียวมรกตใบเล็กสามใบก็หายไปจากสายตาของทุกคน แน่นอนว่าหากผู้ฝึกลมปราณเพ่งสมาธิมอง พวกมันก็จะปรากฎให้เห็น

สุดท้ายผู้ฝึกกระบี่หนุ่มหันไปมองเว่ยจิ้น นักพรตห้าขอบเขตบนที่หนุ่มที่สุดของบุรพแจกันสมบัติทวีป อีกทั้งยังเป็นผู้ฝึกกระบี่ที่พลังการต่อสู้สามารถยกระดับขึ้นไปได้อีกขั้นผู้นี้

อายุไม่ถึงสี่สิบก็เป็นห้าขอบเขตบน ไม่ว่าจะนำไปวางไว้ที่ทวีปใหญ่ใดๆ ต่อให้เป็นทวีปแดนเทพแผ่นดินกลาง ก็ถือเป็นความภาคภูมิใจแห่งสวรรค์ที่มากพอจะทำให้ผู้คนครั่นคร้ามเพียงแค่ได้ยินชื่อแล้ว

เว่ยจิ้นแห่งศาลลมหิมะ ซ่งจ่างจิ้งแห่งต้าหลีถือเป็นหยกคู่เหนือใต้ของกลุ่ม “คนหนุ่ม” ตามคำเรียกขานของนักพรตบนภูเขา ตอนนี้คนหนึ่งที่เป็นผู้ฝึกกระบี่ฝ่าขอบเขตที่สิบเลื่อนสู่ขอบเขตที่สิบเอ็ด อีกคนหนึ่งคือขอบเขตที่สิบที่เรียกว่าขอบเขตปลายทางของวิถีการต่อสู้ในตำนาน ช่างไม่ทำให้คนผิดหวังเลยจริงๆ

คนทั้งสอง “หนึ่งบุ๋นหนึ่งบู๊” ความสำเร็จในอนาคตล้วนไม่อาจประเมิน

ผู้ฝึกกระบี่หนุ่มถามยิ้มๆ “ไม่ทราบว่าเซียนกระบี่เว่ยเดินทางมาต้าหลีครั้งนี้ นอกจากคลี่คลายมรสุมในวันนี้แล้ว ยังมีความคิดอื่นอีกหรือไม่?”

เซียนกระบี่ชุดขาวที่ท่องอยู่ในยุทธภพด้วยฐานะของจอมยุทธ์มาโดยตลอดคลี่ยิ้มถามกลับ “หากไม่มีความคิดอย่างอื่นจะเป็นอย่างไร แล้วถ้ามี จะเป็นอย่างไร?”

ผู้ฝึกกระบี่หนุ่มเอ่ยอย่างตรงไปตรงมา “หากเพียงแค่เดินทางมาชมทัศนียภาพ นอกจากพื้นที่ต้องห้ามของต้าหลีแล้ว สถานที่อื่นๆ ล้วนต้อนรับเซียนกระบี่เว่ยให้ไปเยี่ยมเยือน หากไม่รังเกียจ ข้าน้อยยินดีจะเดินทางไปเป็นเพื่อน แต่หากมีเจตนาอื่นเพราะเห็นว่าสถานการณ์ของต้าหลีคลอนแคลน ถ้าเช่นนั้นข้าน้อยก็จะขวางอยู่ที่นี่ ทดลองด้วยตัวเองว่ากระบี่บินของเซียนกระบี่เว่ยเร็วแค่ไหนกันแน่”

เว่ยจิ้นเก็บกระบี่ในมือที่มีนามว่าเทียนสล้างเอาไปแขวนไว้ข้างเอว “ในศาลลมหิมะ ข้านับถืออาจารย์หร่วนมากที่สุด เพียงแต่ว่าด้วยสาเหตุหลายประการจึงไม่เคยได้พบหน้ากันเสียที คราวนี้พอได้รับข่าวจากป้ายสันติที่อาจารย์หร่วนส่งมาให้จากถ้ำสวรรค์หลีจูจึงรับภารกิจคุ้มครองเด็กๆ เหล่านี้ไปส่งที่ด่านเหย่ฟูชายแดนต้าหลี เพียงแต่ว่าระหว่างทางเจอกับผู้ฝึกกระบี่อาวุโสนามว่าอาเหลียง เขาได้ชี้แนะเวทกระบี่ให้แก่ข้า ถึงได้มีโอกาสปิดด่านฝ่าขอบเขต ดังนั้นข้าเดินทางขึ้นเหนือในครั้งนี้ เจ้าจึงไม่ต้องเป็นกังวลอะไรทั้งสิ้น”

ผู้ฝึกกระบี่หนุ่มฝั่งตรงข้ามที่มีเวทกระบี่เลิศล้ำย้ายภูเขาได้ในกระบี่เดียวปฏิบัติต่อคนอื่นด้วยความให้เกียรติ เดิมทีเว่ยจิ้นก็มีนิสัยใจกว้างตรงไปตรงมา จึงไม่ได้มองท่าทีที่ค่อนข้างแข็งกระด้างของเขาเป็นการท้าทาย และตอบด้วยความจริงใจว่า “หากเจ้าคิดจะประลองเวทกระบี่ ข้าเต็มใจอย่างมาก เดิมทีนึกว่าไม่มีความจำเป็นให้ต้องท่องเที่ยวหาประสบการณ์ในแจกันสมบัติทวีปที่เป็นบ้านเกิดแห่งนี้อีกต่อไปแล้ว ได้ยินอาเหลียงเล่าถึงเรื่องมากมายเกี่ยวกับภายนอก ข้าจึงอยากจะไปดูที่ภูเขาห้อยหัวสักครั้ง ไปยังสถานที่ที่อาเหลียงฝึกปรือฝีมือเพื่อขัดเกลาวิถีกระบี่ของตัวเองอย่างแท้จริง”

แล้วก็เพราะเคยไปเยือนมาหลายสถานที่ เคยพบเจอคนหลายคน เว่ยจิ้นถึงได้รู้ดีถึงความล้ำค่าของสองคำว่า “ยืนหยัด”

ผู้เฒ่าตาบอดหาโอกาสสอดปากไม่ได้ แล้วก็ไม่มีความกล้ามากพอให้เอื้อนเอ่ยด้วย

เว่ยจิ้นแห่งศาลลมหิมะที่มีชื่อเสียงเลื่องระบือเพียงคนเดียวก็มากพอให้นักพรตเฒ่าที่เป็นเพียงผู้ฝึกตนนอกทางรู้สึกหายใจไม่ออกแล้ว

นักพรตห้าขอบเขตบนคนหนึ่งที่อยู่ในบุรพแจกันสมบัติทวีปคือบุคคลที่หายากดุจขนหงส์เขากิเลน ต้องรู้ว่านักพรตขอบเขตสิบถือเป็นเสาหลักของหนึ่งแคว้นแล้ว ไม่มีใครที่ไม่ถูกฮ่องเต้มองเป็นผู้ประคับประคองชะตาบ้านเมือง ผู้ฝึกลมปราณห้าขอบเขตบนคนใดบ้างที่ไม่ใช่มังกรเทพเห็นหัวไม่เห็นหาง นั่นคือบุคคลที่มีความสามารถมากพอจะเปิดภูเขาตั้งสำนัก แจกันสมบัติทวีมีราชวงศ์มากมายดุจต้นไม้ในผืนป่า แต่ตระกูลเซียนที่สามารถมีคำว่าสำนักเสริมท้ายมีสักกี่ตระกูลกัน? น้อยจนนับนิ้วได้!

เว่ยจิ้นยกสองมือขึ้นกุมประสาน เอ่ยกับผู้ฝึกกระบี่หนุ่ม “ไว้เจอกันใหม่”

ผู้ฝึกกระบี่หนุ่มเองก็กุมมือคำนับกลับคืน “หวังว่าในอนาคตจะได้ยินข่าวเกี่ยวกับเจ้าที่ส่งมาจากภูเขาห้อยหัว”

ผู้ฝึกกระบี่ทั้งสองสบตาแล้วยิ้มให้กัน

คนบางคนคบกันจนผมขาวก็ยังเหมือนคนแปลกหน้า คนบางคนเพียงแค่พบหน้ากลับเหมือนสหายที่สนิทกันมานาน ก็คือหลักการนี้นี่เอง

เฉินผิงอันเอ่ยเบาๆ “ไปกันเถอะ”

หลี่เป่าผิง หลี่ไหวและหลินโส่วอีพากันพยักหน้ารับ

ผู้เฒ่าตาบอดกัดฟัน ปลุกความกล้าเอ่ยถามอย่างระมัดระวัง “เซียนซือ (คำเรียกขานเซียนที่แสดงถึงความให้เกียรติ) ท่านนี้ นักพรตผู้ต่ำต้อยมีลูกศิษย์อยู่สองคนที่ถูกฉู่ฮูหยินรั้งไว้ให้…เป็นแขกอยู่ในจวน ขอให้นักพรตผู้ต่ำต้อยพาพวกเขาจากไปด้วยได้หรือไม่? นักพรตผู้ต่ำต้อยกลัวก็แต่พวกลูกศิษย์จะเกเรไม่รู้ความ อาจจะทำลายกฎเกณฑ์ของฉู่ฮูหยินโดยไม่ทันระวัง…”

ผู้ฝึกกระบี่หนุ่มหันหน้าไปพูดกับผีสาวชุดแต่งงานด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ฉู่ฮูหยิน ปล่อยพวกเขาได้หรือไม่?”

ผีสาวชุดแต่งงานพยักหน้ารับ “ในเมื่อใต้เท้าออกปากแล้ว เชี่ยเซินจะกล้าไม่ปฏิบัติตามได้อย่างไร”

ผู้เฝ้าประตูเมืองหลวงที่เก็บซ่อนตัวลึกล้ำดันกระบี่ออกจากฝักเพียงแค่ชุ่นกว่าก็สามารถต้านรับกระบี่ที่สามของเว่ยจิ้นได้แล้ว ฝีมือของเขามีมากน้อยแค่ไหน ผีสาวชุดแต่งงานรู้ดีอยู่แก่ใจตัวเอง แต่สรุปก็คือนางไม่สามารถต้านทานได้ ต่อให้เป็นนางตอนที่อยู่ในสภาวะพร้อมรบสูงสุด ได้รับการปกป้องจากขุนเขาและแม่น้ำที่เป็นถิ่นของตน เกรงว่าก็คงยังไม่มีความหมายอะไรอยู่ดี

แล้วนับประสาอะไรกับที่นางยังไม่ใช่ขอบเขตสิบอย่างแท้จริง และสวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่าผู้ฝึกกระบี่นิสัยประหลาดที่มาจากสายจอมยุทธ์พเนจรสำนักโม่ผู้นี้จะใช่เซียนกระบี่พสุธาขอบเขตที่สิบเอ็ดอย่างเว่ยจิ้นหรือไม่

นางหรี่ตามองกลุ่มเด็กหนุ่มเด็กสาวด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย หากไม่เป็นเพราะในกลุ่มพวกเขาที่มีคนทำให้ตนจุดโคมไม่ได้ อีกทั้งเห็นสภาพน่ารังเกียจแบกหีบหนังสือออกทัศนาจรของพวกเขา นางจะตกอยู่ในสภาพชวนสังเวชอย่างในตอนนี้หรือ ไม่เพียงแต่ต้องรับสองกระบี่ของเซียนกระบี่เว่ยจิ้น แม้แต่รากฐานภูเขาและต้นกำเนิดแม่น้ำก็ยังเกือบจะถูกเทพหยินผู้นั้นทำลายล้าง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!