สายตาของสตรีแต่งงานแล้วเป็นประกาย จ้องเขม็งไปยังถ้วยแก้วใบเล็กที่อยู่ในมือของเซียนหลิวหลีกลางภาพ “นั่นก็คือถ้วยหลิวหลีมรดกของเซียนผู้หนึ่งหรือ?”
มารเฒ่าหมี่พลันกำฝ่ามือเข้าหากัน ไอเลือดที่อยู่ใจกลางฝ่ามือกลุ่มนั้นลอยกลับเข้าไปในร่าง หันหน้ามาส่งยิ้มเย็นชา “ทำไม คิดจะแย่งกับข้างั้นรึ?”
ริ้วคลื่นในดวงตาของสตรีแต่งงานแล้วไหลวูบวาบ ยิ้มหวานกล่าวว่า “บ่าวหรือจะกล้า”
มารเฒ่าหมี่ไม่สนใจท่าทางเสแสร้งของสตรีแต่งงานแล้ว ในใจของเขารีบชั่งน้ำหนักผลได้ผลเสียอย่างรวดเร็ว
สิ่งที่ตาเฒ่าเฉินต้องการในครั้งนี้ แรกเริ่มคือภาพจิตรกรรมฝาผนังที่อยู่ใต้เปลือกตาของเทพอภิบาลเมืองร่างทอง
ปากเขาบอกว่าอยากได้สาวงามมีชีวิตชีวาบนภาพฝาผนังซึ่งผ่านการรมควันธูปมานานหลายร้อยปี จึงบ่มเพาะให้เกิดกลิ่นอายแห่งเซียนอย่างแท้จริง
อีกอย่างหลังจากที่เขาเก็บวิญญาณหญิงสาวจากในสุสานไร้ญาติมาได้ก็สามารถเอาภาพฝาผนังนี้มาเป็นที่พักพิงของดวงวิญญาณพวกนาง ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ไม่แน่ว่าอาจจะสามารถหล่อเลี้ยงให้เกิดวัตถุหยินผีสาวอย่างสตรีสวมชุดสีสันสดใสได้อีกหลายคน
เวลานี้มารเฒ่าหมี่ถึงได้กระจ่างแจ้งอยู่ในใจ
ไม่แน่ว่า…ตราประทับที่มาจากจวนเทียนซือภูเขามังกรพยัคฆ์ชิ้นนั้นอาจจะไม่ได้อยู่ในจวนเจ้าเมืองหรือจวนเจ้า แต่อยู่ในศาลเทพอภิบาลเมืองมาตั้งแต่แรก!
และสหายเก่าแก่ของเขาคนนี้ก็คิดจะฮุบผลประโยชน์ทั้งหมดไว้คนเดียวมาตั้งแต่ต้น ไม่คิดจะทิ้งตราประทับที่พวกเขาอาจารย์และศิษย์ต้องวางแผนอย่างยากลำบากหลายปีเพื่อให้ได้มันมาครองอย่างที่ได้เคยตกลงกันไว้
ตาเฒ่าเฉิน เซียนหลิวหลีตัวดี!
สหาย ในเมื่อเจ้าไม่มีคุณธรรมก็อย่าว่าโทษว่าข้าไร้น้ำใจ!
……
ท้องฟ้าเหนือเมืองแยนจือที่เดิมทีเป็นสีฟ้าสดใสเริ่มค่อยๆ เปลี่ยนมาเป็นมืดสลัวอึมครึม เมฆดำล่องลอยมาจากสี่ทิศกดทับปกคลุมไปทั่วทั้งเมือง ทำให้ผู้คนรู้สึกกระวนกระวายไม่เป็นสุข
รถม้าคันหนึ่งขับออกไปจากประตูใหญ่ทางทิศใต้ของเมืองอย่างปลอดภัย กุนซือเฒ่ามือหนึ่งกุมเชือกบังคับม้า อีกมือหนึ่งหยิบสุรารสดีหนึ่งกาที่เตรียมมาทำท่าจะยกขึ้นดื่ม แต่กลับมองไปเห็นว่าข้างถนนทางหลวงที่ห่างออกไปไม่ไกลมีบัณฑิตยากจนคนหนึ่งกวักมือยิกๆ ปากก็ตะโกนไปด้วย “เหล่าซ่งๆ ข้าคือเพื่อนของคุณหนูใหญ่พวกเจ้า นางอยู่บนรถม้าไหม?”
ผู้เฒ่าร่างผอมสูงใจกระตุก หรือว่าปีศาจหมายตาจวนเจ้าเมืองมานานแล้ว? ตัดสินใจว่าจะตัดรากถอนโคน? แม้แต่คุณชายกับคุณหนูใหญ่ก็ยังไม่ยอมปล่อยไป?
หญิงสาวรีบเลิกผ้าม่านขึ้น กล่าวด้วยน้ำเสียงเบิกบาน “ท่านอาซ่ง นั่นเพื่อนข้าเอง เขาชื่อหลิ่วชื่อเฉิง เป็นบัณฑิตที่เดินทางมาจากแคว้นไป๋ซาน”
จากนั้นอีกศีรษะหนึ่งก็ลอดตามมา ถามอย่างสงสัย “หลิ่วชื่อเฉิง เจ้าออกจากเมืองไปตั้งนานแล้วไม่ใช่หรือ ทำไมเพิ่งเดินมาถึงตรงนี้? แอบไปเกี้ยวพาคุณหนูตระกูลใดระหว่างทางหรือไง?”
ผู้เฒ่าลังเลไปชั่วขณะ แต่ก็ยังหยุดรถม้า
เฝ้าสังเกตเหตุการณ์อยู่เงียบๆ
ได้ยินคำหยอกเย้าจากว่าที่น้องภรรยาอย่างหลิวเกาหวา หลิวชื่อเฉิงก็กลอกตา วิ่งเหยาะๆ มาเบื้องหน้า
แม้ไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆ ตาเฒ่าประหลาดถึงพลิ้วกายลงมาจากท้องฟ้ากะทันหันแล้วคืนร่างให้ตนชั่วคราว แต่หลิ่วชื่อเฉิงก็คร้านจะสนใจเรื่องพวกนี้ ถึงอย่างไรซะตาเฒ่าก็รับปากแล้วว่า ขอแค่ตนเกลี้ยกล่อมให้รถม้าคันนี้ย้อนกลับเข้าไปในเมืองได้ เขาก็สามารถแก้ไขปัญหาทุกอย่างให้ตนได้ด้วยนิ้วมือข้างเดียว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!