กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 575

แต่การทะเลาะต่อยตีกันของเด็กรุ่นหลังครั้งนั้น ไม่ได้ก่อให้เกิดริ้วคลื่นอะไรมากมายในกำแพงเมืองปราณกระบี่ เพราะถึงอย่างไรตอนนั้นขอบเขตวิถีวรยุทธของเฉาสือก็ยังต่ำ

เรื่องที่ทำให้เหล่าเซียนกระบี่ของกำแพงเมืองปราณกระบี่ตกตะลึงได้อย่างแท้จริงก็คือการไหลเวียนของปณิธานหมัดที่ทอดยาวเป็นสายของเฉาสือขณะที่เขาเดินปล่อยหมัดกลับไปกลับมาบนหัวกำแพงทุกวันหลังจากที่มาสร้างกระท่อมพักอยู่บนนั้น

ทว่าตอนนี้เฉินผิงอันกลับมาเยือนกำแพงเมืองปราณกระบี่ด้วยฐานะผู้ฝึกยุทธขอบเขตร่างทอง จากนั้นก็เดินเข้ามาในจวนหนิงภายใต้สายตาจับจ้องของคนมากมาย แน่นอนว่านี่เป็นเรื่องดีใหญ่เทียมฟ้า แต่แท้จริงแล้วกลับเป็นเรื่องยุ่งยากที่ไม่เล็กไม่ใหญ่เรื่องหนึ่ง

อีกทั้งเฉินผิงอันยังมาพักอยู่ในจวนหนิง แล้วความสัมพันธ์ระหว่างเขากับคุณหนูของตนก็แทบจะชัดเจนมากพออยู่แล้ว น่าหลันเย่สิงจึงยากที่จะวางใจได้อย่างแท้จริง

หากออกจากบ้านไป ด้วยนิสัยของเจ้าพวกบื้อที่คอยจับจ้องอยู่ด้านนอกนั้น ทั้งสองฝ่ายต้องเกิดความขัดแย้งกันอย่างแน่นอน เฉินผิงอันเลือกจะยอมให้ ก็ได้เหมือนกัน แต่นั่นก็ต้องถูกคนนอกดูแคลน กลายเป็นตัวตลกของกำแพงเมืองปราณกระบี่ หากเลือกตาต่อตาฟันต่อฟัน ต่อให้จะผ่านสองด่านแรกมาได้ คนที่ออกกระบี่ในด่านที่สามย่อมไม่ง่ายดายแล้ว อย่างน้อยที่สุดก็ต้องมีมาตรฐานเท่าเทียมกับพวกเยี่ยนจั๋ว เฉินซานชิว หรืออาจจะเป็นผู้ฝึกกระบี่โอสถทองอายุน้อยที่เก่งกาจกว่าด้วยซ้ำ อีกทั้งอายุจะยังต่ำกว่าสามสิบปีด้วย อย่างมากที่สุดก็ไม่มีทางเกินสามสิบปีห้า คนผู้นั้นถูกกำหนดมาแล้วว่าต้องเป็นตัวอ่อนกระบี่ก่อนกำเนิดที่มีประสบการณ์การเข่นฆ่าสูงอย่างถึงที่สุด ยกตัวอย่างเช่นเจ้าลูกกระต่ายตระกูลฉีที่ยโสโอหัง นับตั้งแต่เด็กก็ไม่เคยเห็นหัวใครผู้นั้น

น่าหลันเย่สิงชำเลืองตามองหญิงชราที่อยู่ข้างกายแวบหนึ่ง

ป๋ายเลี่ยนซวงคือคนที่ได้ครอบครองโชคชะตาบู๊ยิ่งใหญ่ เพียงแต่ว่ามีนิสัยดื้อดึงดัน จงรักภักดีกับฮูหยินและตระกูลเหยามาตลอดชีวิต ไม่อย่างนั้นด้วยตบะวิถีวรยุทธของนาง หากรีบเปลี่ยนตระกูลตั้งแต่เนิ่นๆ ก็คงได้กลายเป็น ‘ป๋ายฮูหยิน’ ของตระกูลชั้นสูงไปแล้ว แต่นี่กลับกลายเป็นว่าค่อยๆ เปลี่ยนจากแม่นางน้อยที่หน้าตางดงาม เดินทีละก้าวจนกลายมาเป็นสาวเทื้อที่ชอบทำหน้าบูดบึ้งทั้งวัน แล้วก็ค่อยกลายมาเป็นหญิงชราที่เส้นผมขาวโพลน

อันที่จริงน่าหลันเย่สิงที่อายุมากกว่าและมีความอาวุโสมากกว่าล้วนเห็นอยู่ในสายตามาโดยตลอด

ความรู้สึกที่มากกว่านั้นก็คือเสียดายแทนนาง

เพราะฉะนั้นการถกเถียงกันเล็กๆ น้อยๆ ในหลายๆ ครั้ง เขาจึงยอมให้นางอยู่เสมอ

ไม่อย่างนั้นแท่นสังหารมังกรของจวนหนิงใต้ฝ่าเท้านี้ ก่อนหน้าที่นายท่านจะเติบโต ไม่ว่าทำอย่างไรก็คงรักษาไว้ไม่อยู่

หญิงชราดีดปลายเท้าพลิ้วกายออกไปนอกศาลาบนยอดเขาลูกเล็ก แล้วค่อยๆ ชะลอความเร็วลง แต่ทันใดนั้นนางก็พลันร่วงลงพื้นอย่างรวดเร็ว พื้นดินสั่นสะเทือน แล้วร่างของหญิงชราก็กลายเป็นควันเขียวกลุ่มหนึ่ง

ผู้เฒ่าหรี่ตาลง มองประเมินสถานการณ์การต่อสู้อย่างตั้งใจ

เห็นการประมือกันระหว่างผู้ฝึกกระบี่มาจนชินแล้ว การต่อสู้ระหว่างผู้ฝึกยุทธ โดยเฉพาะอย่างยิ่งป๋ายเลี่ยงซวงเป็นคนออกหมัด โอกาสแบบนี้มีไม่บ่อยจริงๆ

ต่างฝ่ายต่างแลกหนึ่งหมัดหนึ่งเท้าใส่กัน

ชุดเขียวไถลถอยกรูดออกไป ข้อศอกแตะกับกำแพงด้านหลังเบาๆ จากนั้นก็เดินหน้ามาช้าๆ

ยายแก่ป๋ายก็โดนเจ้าเด็กนั่นเตะเหมือนกันหรือ? แม้ว่าจะไม่หนักมาก แล้วก็ถูกป๋ายเลี่ยนซวงใช้พายุลมกรดที่เปี่ยมล้นกระเทือนพละกำลังที่เหลืออยู่ให้สลายไปอย่างง่ายดาย ทว่าหนึ่งเท้าเตะโดนหรือไม่โดน นั่นก็คือความต่างราวฟ้ากับเหว

โดยเฉพาะอย่างยิ่งจุดที่มีความหมายชวนให้ขบคิดนั้นไม่ได้อยู่ที่ว่าเฉินผิงอันออกหมัดโดยมีความเร็วเทียบเท่าผู้ฝึกยุทธขอบเขตเดินทางไกลขั้นสูงสุด แต่เป็นเพราะเขาสามารถเดาจุดที่เท้าของป๋ายเลี่ยนซวงจะร่วงลงและเส้นทางการออกหมัดของนางได้อย่างแม่นยำ

ผู้เฒ่ายิ้มกล่าว “เจ้าตัวดี ไม่เกรงใจป๋ายหมัวมัวของเจ้าเลยจริงๆ”

เฉินผิงอันชะลอฝีเท้า แต่กลับไม่ได้เดินตรงไปข้างหน้า เขาขยับเบี่ยงไปด้านข้างเล็กน้อย ยิ้มบางๆ กล่าวว่า “ก็แค่ป๋ายหมัวมัวประมาทเท่านั้น”

ป๋ายเลี่ยนซวงเกิดปณิธานในการต่อสู้อย่างที่หาได้ยาก ก่อนหน้านี้ตอนที่หยั่งเชิงอยู่ในระเบียง บวกกับหมัดเมื่อครู่นี้ ถึงอย่างไรนางก็ยังมองเฉินผิงอันเป็นว่าที่ท่านเขยอย่างเรียบง่ายเท่านั้น ไหนเลยจะกล้าตั้งใจออกหมัดอย่างจริงจัง

ไม่เสียแรงที่เป็นเด็กรุ่นหลังบนเส้นทางการเรียนวรยุทธที่เคยกินหมัดสามหมัดของผู้ฝึกยุทธขอบเขตสิบมาก่อน

หญิงชราเดินออกไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ก้าวย่างนั้นเล็กแคบอย่างถึงที่สุด มือทั้งสองตั้งท่าหมัด แม้จะเป็นกระบวนท่าเล็กๆ แต่กลับมีภาพบรรยากาศยิ่งใหญ่ มีปณิธานหมัดยิ่งใหญ่ นางยิ้มถามว่า “เฉินผิงอัน กล้าเป็นฝ่ายขยับเข้ามาต่อสู้ประชิดตัวเพื่อออกหมัดหรือไม่?”

เฉินผิงอันก้าวหกก้าวตามท่าเดินนิ่ง ก้าวสุดท้ายที่กระทืบลงพื้น ปณิธานหมัดของทั้งร่างก็ไหลทะลักราวกับน้ำตก

หญิงชราบิดตัว ฝ่ามือข้างหนึ่งปัดหมัดของเฉินผิงอันทิ้ง ฝ่ามืออีกข้างผลักหน้าผากของเฉินผิงอัน มองดูเหมือนเป็นท่าทางที่เรียบง่ายสบายๆ แต่แท้จริงแล้วพละกำลังกลับหนักอึ้งเหมือนค้อนใหญ่ที่ถูกห่อด้วยผ้าฝ้ายเหวี่ยงตีลงบนระฆังอย่างแรง

ต่อให้เป็นน่าหลันเย่สิงก็ยังรู้สึกว่าหมัดนี้ไม่ถือว่าออมมือเลยจริงๆ

เฉินผิงอันถูกฝ่ามือนั้นตบให้ปลิวกระเด็นไป เพียงแต่ว่าปณิธานหมัดของเขาไม่เพียงแต่ไม่ขาดสะบั้นเพราะเหตุนี้ กลับกันยังยิ่งถูกหล่อหลอมได้อย่างหนาข้น ประหนึ่งน้ำลึกไร้เสียงที่ไหลเวียนวนไปทั่วร่างกาย

เขาพลิกตัวกลับกลางอากาศ เท้าข้างหนึ่งที่สัมผัสลงพื้นก่อนไถลออกไปเบาๆ หลายจั้ง อีกทั้งยังไม่ติดขัดใดๆ ขณะที่เท้าทั้งสองกำลังจะสัมผัสพื้น เขาก็ขยับเท้าในองศาเล็กๆ อยู่หลายครั้ง ไหล่จึงขยับเบาๆ ตามไปด้วย ชุดสีเขียวเกิดริ้วคลื่นกระเพื่อม ช่วยตัดทอนพายุหมัดที่เหลืออยู่ในหมัดนั้นของหญิงชราไปอย่างที่มองไม่เห็น ขณะเดียวกันเฉินผิงอันก็ใช้กระบวนท่าเทพตีกลองสายฟ้าในมือของตัวเองมาเลียนแบบปณิธานหมัดของป๋ายหมัวมัว ด้วยการขยับมือทั้งสองเข้ามาใกล้กันอีกเล็กน้อย พยายามที่จะทดลองทำให้ถึงขอบเขตที่เก็บปณิธานหมัดได้มากก็ปล่อยออกไปได้มาก

หญิงชราอดไม่ไหวยิ้มกล่าวว่า “คุณชายเฉิน เวลาอย่างนี้ยังจะขโมยเรียนท่าหมัด ไม่เห็นผู้ฝึกยุทธขอบเขตเก้าที่ขอบเขตถดถอยอย่างข้าอยู่ในสายตาเลยสินะ?”

เฉินผิงอันยิ้มเจื่อน “เป็นความเคยชินไปเสียแล้ว”

เฉินผิงอันเตรียมจะขยายโครงท่าหมัดฟื้นคืนท่ากระบวนเทพตีกลองสายฟ้ากลับมาอีกครั้ง

หญิงชรากลับอาศัยช่องว่างนี้พุ่งมาถึงอย่างว่องไว หมัดหนึ่งแนบติดหน้าท้อง อีกหมัดหนึ่งพุ่งออกไปเป็นเส้นตรง พลังอำนาจน่าครั่นคร้ามอย่างยิ่ง

คิดไม่ถึงว่าเฉินผิงอันที่เดิมทีก็เฝ้าตอรอกระต่ายอยู่แล้วจะใช้หมัดแลกหมัด ใบหน้าของเขารับหมัดหนึ่งที่ทุบเข้ามาจังๆ แต่หมัดหนึ่งของเขาก็ต่อยเข้าที่หน้าผากของหญิงชราเต็มแรงเช่นกัน

เท้าทั้งคู่ของหญิงชราพลันหนักอึ้ง เรือนกายหยุดนิ่งไม่ขยับ เพียงแต่ว่าตรงหน้าผากกลับเริ่มเขียวและปูดนูนน้อยๆ

เฉินผิงอันยังคงเอาหลังพิงกำแพง เข่าสองข้างงอเล็กน้อย ท่าหมัดหนึ่งเปิดหนึ่งปิด ประหนึ่งเจียวหลงที่ขยับกระดูกสันหลัง สลายพายุหมัดของหญิงชราออกอีกครั้ง

ส่วนเลือดสดที่ไหลเป็นทางลงมาจากบนใบหน้า

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!