กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 660

ในเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายคือบุคคลใหญ่ที่ดูแลเงินทองของสำนัก ในใจเฉินหลิงจวินก็เกิดความมั่นใจขึ้นมาทันที ภูเขาตระกูลเซียนแห่งหนึ่ง มีคนสามประเภทที่ไม่อาจไปมีเรื่องด้วยได้ คนที่ดูแลกฎของสำนัก หมัดต้องแข็งอย่างแน่นอน คนที่ดูแลเงินทองก็ยิ่งไม่ใช่ตะเกียงประหยัดน้ำมัน ต้องเป็นคนจิตใจสกปรกอำมหิต ส่วนคนประเภทสุดท้ายก็คือลูกศิษย์ผู้สืบทอดศาลบรรพจารย์ที่อายุน้อยมากๆ

บอกลากับเหวยอวี่ซง ปฏิเสธคำรั้งตัวของอีกฝ่ายอย่างละมุนละม่อม ยิ่งไม่กล้ารบกวนให้อีกฝ่ายไปส่งถึงประตูภูเขา ตอนที่เฉินหลิงจวินเดินลงจากภูเขาไปเพียงลำพัง ระหว่างทางก็เจอกับสตรีวัยออกเรือนแล้วที่หน้าตาธรรมดาคนหนึ่ง สายตาที่นางมองเขาคล้ายจะผิดปกติจนเฉินหลิงจวินรู้สึกอึดอัด ข้าผู้อาวุโสไม่ใช่เว่ยป้อนั่นสักหน่อย มองอะไรกัน สตรีผู้นั้นกลับไม่มีแววตา ถึงขั้นแอบสะกดรอยตามเฉินหลิงจวินมาตลอดทาง พอไปถึงประตูภูเขา เฉินหลิงจวินก็รู้สึกกลัดกลุ้มเล็กน้อย จึงคิดจะเปลี่ยนใจเดินย้อนกลับขึ้นเขาไปอีกครั้ง พักอยู่ที่สำนักพีหมาสักสองสามวัน จะดีจะชั่วก็สลัดสตรีผู้นั้นให้หลุดก่อนแล้วค่อยออกเดินทางก็ยังไม่สาย

พอไปถึงประตูภูเขา สตรีที่พกดาบไว้ตรงเอวผู้นั้นแนะนำตัวว่าชื่อจู๋เฉวียน เฉินหลิงจวินก็เข่าอ่อนยวบ ร่างโงนเงน กว่าจะยืนให้มั่นคงได้ไม่ใช่เรื่องง่าย

จู๋เฉวียนยิ้มกล่าว “เว่ยป้อส่งกระบี่บินมาแจ้งข่าวที่ภูเขามู่อีนานแล้ว วันหน้าเรื่องของการลงน้ำ หากมีปัญหาอะไรก็สามารถแจ้งชื่อของจู๋เฉวียนแห่งสำนักพีหมาได้เลย ไม่แน่เสมอไปว่าจะช่วยชีวิตได้ แต่ต้องช่วยแก้แค้นแทนเจ้าได้แน่นอน แต่ไม่มีปัญหาย่อมดีที่สุด ทว่าก็คงจะยากมากๆ ท่องยุทธภพอยู่ในอุตรกุรุทวีปของพวกเรา หากไม่มีปัญหากองใหญ่สุมตัวจะนับเป็นการหาประสบการณ์ได้อย่างไร”

เฉินหลิงจวินเอ่ยขอบคุณอย่างระมัดระวัง จู๋เฉวียนโบกมือ เฉินหลิงจวินจึงเอ่ยลา แต่จู่ๆ จู๋เฉวียนก็ถามว่า “เฉินผิงอันจะกลับมาจากกำแพงเมืองปราณกระบี่เมื่อไหร่?”

เฉินหลิงจวินส่ายหน้า “ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน ทุกครั้งที่นายท่านของข้าออกเดินทาง จะกลับบ้านมาเมื่อไหร่ ล้วนไม่มีกำหนดเวลาที่แน่ชัด”

จู๋เฉวียนมองหีบไม้ไผ่และไม้เท้าเดินป่าของเฉินหลิงจวินแล้วก็พูดกลั้วหัวเราะเสียงดัง “ภูเขาลั่วพั่วของพวกเจ้าล้วนแต่งตัวแบบนี้ออกท่องยุทธภพหรือ?”

เฉินหลิงจวินพยักหน้ารับอย่างแรง

จู๋เฉวียนพลันทอดถอนใจ “รู้สึกอิจฉาใน…ความอิสระของเจ้าหมอนั่นแล้วแหะ”

เฉินหลิงจวินฟังถ้อยคำประหลาดที่ซุกซ่อนอยู่ท่ามกลางเมฆหมอกของบุคคลบนยอดเขาเหล่านี้ไม่เข้าใจ แต่ก็พอจะฟังออกว่าเจ้าสำนักหญิงที่ชื่อเสียงเลื่องลือไปทั้งทวีปผู้นี้มีความประทับใจที่ไม่เลวต่อนายท่านของตัวเอง ไม่อย่างนั้นนางก็ไม่จำเป็นต้องเดินทางออกจากหุบเขาผีร้ายมาที่ภูเขามู่อีเลยแม้แต่น้อย ตระกูลเซียนทั่วไปบนภูเขาพิถีพิถันในเรื่องความเท่าเทียมมากที่สุด ยามต้อนรับแขกรับรองคนจะมีกฎระเบียบยิบย่อยซับซ้อน อันที่จริงมีเหวยอวี่ซงคนเดียวที่มาพบเขาเฉินหลิงจวินก็ทำให้เฉินหลิงจวินพอใจมากแล้ว

ห้าขอบเขตบนผู้เป็นเจ้าสำนักคนหนึ่ง อีกทั้งยังกล้างัดข้อพุ่งชนกับเกาเฉิงแห่งหุบเขาผีร้ายซึ่งๆ หน้ามานานหลายปี สตรีที่เป็นผู้กล้าตัวจริงเช่นนี้กลับถึงขั้นปรากฏตัวด้วยตัวเอง นี่ทำให้เฉินหลิงจวินที่ออกมาจากภูเขามู่อีแล้วรู้สึกว่าเวลาเดินเท้าลอยเล็กน้อย

ตามเส้นทางที่กำหนดไว้ เฉินหลิงจวินจะนั่งเรือข้ามฟากลำหนึ่งของสวนน้ำค้างวสันต์เพื่อไปยังปากทางที่ลำน้ำไหลลงสู่มหาสมุทรทางทิศตะวันออก ผู้ดูแลเรือข้ามฟากก็คือซ่งหลันเฉียวผู้ฝึกตนโอสถทอง และตอนนี้ก็มีเก้าอี้ตัวหนึ่งอยู่ในศาลบรรพจารย์ของสวนน้ำค้างวสันต์แล้ว หลังจากที่เฉินหลิงจวินไปเยี่ยมเยียนอีกฝ่าย ซ่งหลันเฉียวก็มีท่าทีเกรงอกเกรงใจจนเกินเหตุไปสักหน่อย เขาไม่เพียงแต่จัดให้เฉินหลิงจวินได้เข้าพักในห้องอักษรตัวเทียน ยังมาคุยเล่นกับเฉินหลิงจวินด้วยตัวเองเป็นครึ่งๆ วัน ในถ้อยคำของเขานอกจากจะมีความกระตือรือร้นต่อเฉินผิงอันและภูเขาลั่วพั่วจากใจจริงแล้ว ยังนอบน้อมถ่อมตนเสียจนเฉินหลิงจวินรู้สึกปรับตัวไม่ทัน

ทุกวันนี้สี่ฝ่ายอย่างภูเขาลั่วพั่ว ภูเขาพีอวิ๋น สำนักพีหมาและสวนน้ำค้างวสันต์ล้วนเป็นพันธมิตรกัน หนึ่งในนั้นก็มีเหวยอวี่ซงแห่งสำนักพีหมาและถังซีแห่งสวนน้ำค้างวสันต์ที่ต่างก็เป็นผู้ดูแลกิจธุระน้อยใหญ่ ซ่งหลันเฉียวยังเป็นพันธมิตรกับถังซี เดิมทีการที่เขาสามารถกลายเป็นสมาชิกของศาลบรรพจารย์สวนน้ำค้างวสันต์ได้ก็ล้วนต้องยกคุณความชอบให้เซียนกระบี่เฉินที่อายุน้อยๆ คนนั้น แล้วนับประสาอะไรกับที่ฝ่ายหลังยังถูกชะตากับอาจารย์ผู้มีพระคุณของซ่งหลันเฉียวอย่างมาก ซ่งหลันเฉียวแทบไม่เคยเห็นอาจารย์ของตนอาลัยอาวรณ์คนคนหนึ่งมากขนาดนี้มาก่อน ถ้าอย่างนั้นนี่ก็ไม่ใช่ความเกี่ยวข้องที่ว่าจะเป็นเซียนกระบี่หรือไม่ใช่เซียนกระบี่อะไรแล้ว

ยิ่งเฉินหลิงจวินห่างไกลจากบ้านเกิดก็ยิ่งคิดถึงมันมากเท่านั้น

ไม่ว่าใครก็ล้วนคิดถึงไปหมด ขนาดนักพรตเฒ่าตาบอดที่ไปสร้างกระท่อมฝึกตนอยู่บนภูเขาหวงหู เขาก็ยังคิดถึงอยู่บ่อยๆ

ก่อนที่เว่ยป้อจะออกไปจากเรือข้ามฟากได้เอ่ยประโยคหนึ่งบอกว่า ผู้ฝึกตนออกมาอยู่นอกบ้าน ใช้ไม้ฆ่าคน ใช้พลังอำนาจสยบคน ไม่ถือว่ายากเท่าไรนัก แต่จะยากก็ตรงที่การเอาชนะใจผู้อื่น

เป็นครั้งแรกที่เฉินหลิงจวินเปิดอ่านเนื้อหาในตำราที่ก่อนหน้านี้มักข้ามผ่านไปอย่างละเอียด จากนั้นเขาก็ไปที่หอชมทัศนียภาพ ฟุบตัวบนราวระเบียงเหม่อลอย พระจันทร์ลอยสูงอยู่กลางนภา ครึ่งหนึ่งของดวงจันทร์กลมโตถูกกลบทับและสาดแสงสะท้อนอยู่กลางทะเลเมฆ ทั้งไกลและใกล้ ราวกับว่าขอแค่เรือข้ามฟากเปลี่ยนเส้นทางเล็กน้อยก็สามารถพุ่งเข้าชนมันได้แล้ว ง่ายดายเหมือนคนที่เดินผ่านระเบียงลอดเข้าไปในซุ้มประตู

นายท่านอยู่หรือไม่อยู่ภูเขาลั่วพั่ว คือบรรยากาศสองอย่างที่ไม่เหมือนกัน ข้อนี้เฉินหลิงจวินสัมผัสได้มานานแล้ว

เพียงแต่ว่าหากไม่ออกจากภูเขาลั่วพั่ว ไม่เดินทางมาในครั้งนี้ก็ยากจะเข้าใจได้ว่าเหตุใดถึงไม่เหมือนกัน ไม่เหมือนกันตรงไหน

อยู่กับนายท่านนานวันเข้า นายท่านมีขอบเขตอะไรมีตัวตนแบบใด ดูเหมือนจะถูกมองข้ามไปได้อย่างง่ายดาย รอกระทั่งเฉินหลิงจวินมาเดินอยู่บนเส้นทางขุนเขาสายน้ำที่นายท่านเคยเดินผ่านมาก่อน ถึงได้ค้นพบว่าที่แท้เด็กหนุ่มตรอกหนีผิงที่ปีนั้นตนไม่ยินดีจะติดตาม คล้ายว่าจะเปลี่ยนมาเป็นร้ายกาจอย่างมากแล้วจริงๆ

เฉินหลิงจวินเก็บความคิด เก็บสัมภาระเรียบร้อยแล้วก็ไปหาซ่งหลันเฉียวเพื่อบอกกล่าว จากนั้นเขาก็ออกจากเรือข้ามฟากไปกลางทาง มุ่งหน้าตรงไปยังศาลเทพอัคคีของเมืองสุยเจี้ย

ภายใต้การวางแผนอย่างลับๆ ของเจ้าแห่งทะเลสาบชางอวิ๋นตำหนักมังกร ศาลเทพอัคคีที่เคยกลายเป็นซากปรักได้ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ ที่ว่าการในพื้นที่ทุ่มเงินมหาศาลสร้างเทวรูปลงสีขึ้นมาองค์หนึ่ง ควันธูปโชติช่วง เฉินหลิงจวินเลือกช่วงเวลากลางดึกไปเคาะประตูเยี่ยมเยียนอย่างนอบน้อม ได้พบกับชายฉกรรจ์ที่มองดูคล้ายขอบเขตจะไม่สูงสักเท่าไร เฉินหลิงจวินเอาเหล้าหมักตระกูลเซียนออกมาจำนวนมาก ชายฉกรรจ์ที่เผยร่างที่แท้จริงดีใจมาก เพียงแต่ว่าเขากลับไม่ถามถึงเรื่องของเฉินผิงอันในปัจจุบันแม้แต่ครึ่งคำ

เฉินหลิงจวินจึงรู้สึกว่าพี่ชายคนนี้ตรงกับรสนิยมของตนยิ่งนัก เป็นคนที่มีกลิ่นอายของยุทธภพมากที่สุดเหมือนกับตน!

ดังนั้นทั้งสองฝ่ายจึงดื่มสุราอย่างสำราญโดยไม่มีใครห้ามปรามใคร

นายท่านไม่เพียงแต่เขียนลงในหนังสือ ในสมุดเท่านั้น ยังเคยกำชับกับเฉินหลิงจวินเป็นพิเศษด้วยว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำท้องถิ่นท่านนี้คือสหายของเขาเฉินผิงอัน สหายที่เขาติดเหล้าหนึ่งมื้อ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!