กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 694

ส่วนข้อที่ว่าเหตุใดหนิงเหยาถึงไม่ได้กลายเป็นผู้นำของสายสิงกวานโดยตรง อันที่จริงผู้ฝึกกระบี่ทุกคนของสายอิ่นกวานที่มีกู้เจี้ยนหลงเป็นหนึ่งในนั้นคิดแล้วก็ไม่เข้าใจ คาดว่าคงเป็นการวางแผนที่ลึกล้ำยาวไกลครั้งหนึ่งของเซียนกระบี่ใหญ่ผู้อาวุโสกับใต้เท้าอิ่นกวานกระมัง คงได้แต่อธิบายเช่นนี้แล้ว

แต่สายอิ่นกวานเองก็ไม่ค่อยรู้สึกดีเท่าใดนัก เพราะหลังจากสูญเสีย ‘กำแพงเมืองปราณกระบี่’ แห่งนั้นไป พวกเด็กๆ ที่ถือกำเนิดในนครแห่งนี้วันหน้า คนที่ได้กลายเป็นผู้ฝึกกระบี่จะยิ่งมีน้อยลงเรื่อยๆ แต่จะหันไปฝึกเวทคาถาอย่างอื่นแทน รวมไปถึงผู้ฝึกยุทธเต็มตัวที่จะยิ่งมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และวันแรกที่สายสิงกวานใหม่ล่าสุดถือกำเนิดขึ้นมาก็มีกฎเหล็กที่ไม่อาจละเมิดได้เกิดขึ้น ไม่ใช่ผู้ฝึกกระบี่ก็ห้ามเป็นสมาชิกของสิงกวาน หันกลับมาดูสายอิ่นกวานกลับไม่มีข้อห้ามเช่นนี้ ปัญหาเพียงหนึ่งเดียวในเวลานี้นั้นอยู่ที่ว่าสถานะของเหนี่ยนซินมีเมฆหมอกล้อมวนมากเกินไป จุดยืนพร่าเลือนมากเกินไป หากนางเลือกที่จะร่วมมือกับสิงกวาน สายอิ่นกวานก็จะต้องค่อนข้างปวดหัวแล้ว สักวันหนึ่งจำนวนผู้ฝึกลมปราณและผู้ฝึกยุทธในนครจะต้องมีมากกว่าผู้ฝึกกระบี่ เป็นจุดที่สถานการณ์ใหญ่มุ่งไป หากสายสิงกวานของเหนี่ยนซินร่วมแรงร่วมใจกับฉีโซ่วตลอดเวลา ไม่แน่ว่าสถานการณ์ทั้งในและนอกนครในอนาคตอาจจะค่อยๆ กลายเป็นว่าสายอิ่นกวานช่วงชิงผู้ฝึกลมปราณ สายสิงกวานครอบครองผู้ฝึกยุทธทั้งหมดไป…

เพราะถึงอย่างไรกู้เจี้ยนหลงก็อยู่ในคฤหาสน์หลบร้อนมานานหลายปี ใช้เวลาอยู่กับเจ้าพวกตะพาบน้อยอย่างหลินจวินปี้ เฉากุ่นที่สนิทสนมกันมากมานาน สำหรับภัยแฝงเหล่านี้พวกเขาจึงสามารถคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าได้นานแล้ว

หนิงเหยายืนอยู่บนขั้นบันได ยิ้มเอ่ยว่า “พวกเจ้าไม่ต้องกังวล ข้าจะทิ้งระยะห่างจากผู้ฝึกกระบี่ทุกคนสองขอบเขต หลังจากนั้น…”

ความนัยในคำพูดนี้คือ ไม่รอให้ฉีโซ่ว เกาเหย่โหวเลื่อนเป็นขอบเขตหยกดิบ นางหนิงเหยาจะต้องกลายเป็นผู้ฝึกกระบี่ขอบเขตเซียนเหรินคนแรกของฟ้าดินแห่งนี้!

กวอจู๋จิ่วกระโดดผลุงขึ้นมา ลิงโลดอย่างถึงที่สุด รับคำเอ่ยว่า “อาจารย์พ่อก็ควรจะมาหาอาจารย์แม่ได้แล้ว!”

หนิงเหยาเอ่ยกับกวอจู๋จิ่วว่า “ข้าออกเดินทางครั้งนี้พอจะมีประสบการณ์ความเข้าใจบางอย่าง ข้าพูด ลวี่ตวนเจ้าเขียน ถึงเวลานั้นจัดพิมพ์เป็นเล่มในนามของสายอิ่นกวานแล้วแจกจ่ายออกไป”

กวอจู๋จิ่วใช้ไม้เท้าปักยันพื้น “รับคำสั่ง!”

ส่วนกู้เจี้ยนหลงต้องทำงานยากลำบาก หิ้วศีรษะตัวประหลาดที่ถูกหนิงเหยาโยนไว้บนพื้น

หนิงเหยาพากวอจู๋จิ่วขี่กระบี่ไปยังจวนหนิง

ก่อนหน้านี้มีกำแพงเมืองปราณกระบี่ ภายหลังมีเขา ดังนั้นนับแต่นี้ไปหนิงเหยาจึงออกกระบี่ได้อย่างไร้พันธนาการ

หนิงเหยาชำเลืองตามองม่านฟ้าโดยไม่ได้เอ่ยคำใด

ใครไปหาใคร ยังไม่แน่

……

บนเกาะหลูฮวา

เชี่ยอวิ้นปีศาจใหญ่บนบัลลังก์กล่าวอย่างจนใจว่า “ศิษย์น้องเล็ก เจ้าทิ้งกำแพงเมืองปราณกระบี่ดีๆ ไม่ไปฝึกตน แล้วมาที่นี่ จากนั้นก็ต้องการจวนในพื้นที่ผุพังแห่งนี้น่ะหรือ? ดูยากจนข้นแค้นมากไปหน่อยหรือไม่? ไปถึงใบถงทวีปแล้วค่อยตามหาซากปรักของสำนักแห่งหนึ่งจะไม่ยิ่งดีกว่าหรอกหรือ?”

ศิษย์น้องเล็กของเชี่ยอวิ้นก็คืออันดับหนึ่งในร้อยเซียนกระบี่ของภูเขาทัวเยว่ เฟยหรานที่เรียกตัวเองว่ามือกระบี่อย่างภาคภูมิใจ

บนสนามรบในอดีต โซ่วเฉินใต้อิ่นกวานเหนือ และยังมีเฟยหรานคนนี้ ต่างก็ถือว่าเป็นคนบนเส้นทางเดียวกัน

เวลานี้เฟยหรานกับเชี่ยอวิ้นอยู่ในถ้ำแห่งวาสนาบนเกาะหลูฮวา เพียงแต่ว่าน่าเสียดายที่ปีศาจใหญ่ซึ่งอยู่ที่นี่มานานหลายปี ก่อนหน้านี้ได้ถูกจั่วโย่วที่เดินทางผ่านมาออกกระบี่สังหารไปแล้ว

เฟยหรานเอ่ย “ก่อนหน้านี้โดนกระบี่ของเว่ยจิ้นบนสนามรบไปทีหนึ่ง บาดเจ็บไม่เบา สามารถสงบใจรักษาบาดแผลอยู่ที่นี่ได้พอดี”

มาดูถ้ำแห่งวาสนาเรียบร้อยแล้วก็จากไปพร้อมกัน มายังยอดเขาของภูเขาสูงบนเกาะหลูฮวา เพราะว่าสถานที่แห่งนี้ถูกเฟยหรานเก็บเข้ามาไว้ในกระเป๋า ดังนั้นทุกคนของเกาะหลูฮวาจึงพ้นหายนะมาได้ แน่นอนว่าคนที่รนหาที่ตายเองก็ถูกเชี่ยอวิ้นจัดการจนสะอาดเอี่ยมไปเช่นกัน เฟยหรานไม่ได้ขัดขวาง แต่เมื่อเทียบกับสำนักอวี่หลงแล้ว สภาพการณ์ของเกาะหลูฮวาเล็กๆ แห่งนี้กลับดีกว่ามากนัก ทางฝั่งของสำนักอวี่หลงนั้น คนที่ถูกเชี่ยอวิ้นและเซียวสวิ้นสังหารล้วนถูกรวบรวมไปเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของป๋ายอิ๋งปีศาจใหญ่โครงกระดูกหมดแล้ว ส่วนพวกผู้ฝึกตนหญิงที่ถูกเชี่ยอวิ้นถลกหนังหน้าออกมาก็ถูกปีศาจใหญ่หย่างจื่อหล่อหลอมเป็นสาวใช้ข้างบัลลังก์ทั้งเป็น

เฟยหรานมองไปทางทิศตะวันออก ยิ้มถามว่า “ศิษย์พี่ หลังจากชิงฮวาและจิ่วเย่แล้ว คิดหาชื่อใหม่ที่ดีๆ ได้แล้วหรือยัง?”

เชี่ยอวิ้นพยักหน้ารับ “ลู่เฉินเป็นชื่อที่ดี น่าเสียดายที่ตอนนี้ยังไม่เหมาะให้เอามาใช้ รอให้ใกล้ไปถึงทวีปแดนเทพแผ่นดินกลางก่อนแล้วค่อยว่ากันเถอะ”

ตั้งชื่อว่าชิงฮวา (ลายครามบนเครื่องกระเบื้อง) เพราะต้องการเห็นกำแพงเมืองปราณกระบี่เหมือนกระเบื้องลายครามชิ้นหนึ่งที่แตกกระจาย

ตีกำแพงเมืองปราณกระบี่แตกค่อยเปลี่ยนชื่อเป็นจิ่วเย่ แน่นอนว่าก็เพราะใต้หล้าไพศาลแห่งนี้มีสาวงามและสุราชั้นเลิศมากมาย

ทักษินาตยทวีปที่เฉินฉุนอันเป็นผู้เฝ้าพิทักษ์และหรดีฝูเหยาทวีป ก่อนหน้านี้ก็วุ่นวายโกลาหลกันอย่างมาก ส่วนทิศทางที่ตอนนี้ทั้งสองฝ่ายมองไกลๆ ไปก็คืออาคเนย์ใบถงทวีปนั่นเอง

สำนักกุยหยกและสำนักใบถงขานรับกันอยู่เหนือและใต้ สำนักฝูจีและภูเขาไท่ผิงก็ขานรับกันอยู่ตะวันออกและตะวันตก ทุกวันนี้ต่างก็มีการเปิดหน้าดินทำการก่อสร้าง รีบร้อนจะสร้างค่ายกลที่ใหญ่มากแห่งหนึ่งขึ้นมา

เฟยหรานถาม “ศาลบุ๋นของลัทธิขงจื๊อมอบอำนาจให้กับใต้หล้าเช่นนี้ กลับกลายเป็นว่าทำให้เกิดสภาพการณ์กระอักกระอ่วนอย่างในปัจจุบัน นี่ถือเป็นการยกหินทุ่มเท้าตัวเองหรือไม่?”

เชี่ยอวิ้นเอ่ย “จะไปสนใจเรื่องพวกนี้ทำไม ถึงอย่างไรหลังจากใต้หล้าไพศาลเปลี่ยนเจ้านายแล้ว นอกจากผู้แข็งแกร่งบนยอดเขาที่มีจำนวนน้อยนิด ไม่ว่าจะบนภูเขาหรือล่างภูเขาก็ล้วนไม่ผ่อนคลายเช่นนี้อีกแล้ว”

เฟยหรานขยับเส้นสายตามองไปทางทักษินาตยทวีป แล้วเอ่ยว่า “เฉินฉุนอันผู้น่าสงสาร”

ทักษินาตยทวีปมีหรือไม่มีเฉินฉุนอันเฝ้าพิทักษ์อยู่ภายใน คือความแตกต่างราวฟ้ากับเหว

เชี่ยอวิ้นพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม “พวกเรายังไม่ไปตีทักษินาตยทวีปก่อน เพียงแต่แยกย้ายกันไปโจมตีใบถงทวีปและฝูเหยาทวีป อีกไม่นานเฉินฉุนอันจะตกอยู่ในสภาวะที่ต้องลำบากใจทั้งสองทาง เพื่อความปลอดภัยของหนึ่งทวีปก็ต้องคอยเฝ้าพิทักษ์อยู่ในทวีป หรือจะเป็นบัณฑิตที่ยึดมั่นในหลักแห่งการปฏิบัติตน ยอมพาตัวมาตายอย่างไม่เสียดาย จากนั้นก็ถูกส่งกลับไปฝังที่ทักษินาตยทวีป แค่รอดูงิ้วสนุกๆ ก็พอ เฉินฉุนอันจะไม่ถือสาข้อถกเถียงของพวกบัณฑิตในแผ่นดินกลางก็ได้ แต่กับพวกผู้ฝึกตนของใบถงและฝูเหยาสองทวีปที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดสนิทสนมกัน คนที่มีคุณธรรมหน่อยก็อาจจะแอบเศร้าสลดใจ แต่หากเป็นพวกที่เป็นคนแต่ไม่ทำตัวเหมือนคน ก็จะต้องด่าทอสกุลเฉินผู้รอบรู้อย่างรุนแรงแล้ว”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!