หลิวเสี้ยนหยางที่อยู่บนขั้นบันไดไม่ได้เงื้อกระบี่ฟันออกไปเพื่อสกัดขวางดวงจันทร์ซึ่งหล่นลงสู่มหาสมุทร เขาขยับเท้าถอยเป็นครั้งแรก ร่ายเวทหดย่อพื้นที่ ไปยังกึ่งกลางภูเขา ดวงจันทร์กลิ้งหลุนๆ ลงพื้น บดขยี้ขึ้นไปบนบันไดตลอดทาง ติดตามเรือนกายของหลิวเสี้ยนหยางไป หลิวเสี้ยนหยางจึงไม่อำพรางขอบเขตอีกต่อไป กายธรรมสูงร้อยจั้งพลันเผยกาย ยกชายแขนเสื้อขึ้น ใช้จักรวาลชายแขนเสื้อของผู้ฝึกตนขอบเขตหยกดิบมาเก็บดวงจันทร์ที่ ‘เดินขึ้นเขา’ ดวงนั้นไว้ภายในชายแขนเสื้อ ชายแขนเสื้อกว้างใหญ่สะบัดพึ่บพั่บ เสียงผ้าฉีกขาดดังแคว่กๆ ไม่หยุด ดวงจันทร์เหมือนลูกกลมที่กลิ้งชนรอบด้านอย่างสะเปะสะปะ หลิวเสี้ยนหยางยื่นนิ้วไปคีบชายแขนเสื้อเอาไว้ ดวงจันทร์ที่อยู่ในชายแขนเสื้อจึงค่อยๆ สงบลง สุดท้ายเพราะสูญเสียการควบคุมจากดวงจิตของผีหญิง จึงเหมือนน้ำที่ไร้ต้นกำเนิด พลันระเบิดแตกกระจายอยู่ในชายแขนเสื้อ สลายกลายเป็นแสงจันทร์สีขาวหิมะจำนวนนับไม่ถ้วนอยู่ในฟ้าดินเล็ก แสงจันทร์ซึมออกมาจากชายแขนเสื้อเล็กน้อย ช่างสมกับคำว่าตะวันจันทราคงนานในกาเหล้าของเซียนซือบนภูเขาจริงๆ
ส่วน ‘หลิวเสี้ยนหยาง’ อีกคนนั้นก็เดินอยู่ในแม่น้ำแห่งกาลเวลาเป็นเพื่อนผีหญิง คนทั้งสองเดินตามกระแสน้ำไปด้วยกัน มองดูภาพเหตุการณ์ในอดีตตลอดชีวิตของนาง
ผู้ฝึกกระบี่หญิงของยอดเขาหม่านเยว่ ในชีวิตการฝึกตนห้าหกร้อยปีของนาง มองดูเหมือนกาลเวลายาวนาน แต่แท้จริงแล้วกลับเป็นเพียงเวลาชั่วขณะเดียวในใจของแต่ละคน อีกทั้งหากไม่เป็นเพราะจิตของหลิวเสี้ยนหยางขยับเปลี่ยนความคิด ด้วยสภาพการณ์ที่ไม่ตระหนักรู้เสียทีว่าตัวเองอยู่ในความฝันของนาง หลิวเสี้ยนหยางออกกระบี่ง่ายๆ ในความฝันหนึ่งที อย่างน้อยที่สุดนางก็ต้องถูกหนึ่งกระบี่ลดทอนตบะไปร้อยปี อีกทั้งยังจะต้องถูกฟันจนจิตวิญญาณแตกออกเป็นเศษเสี้ยว แล้วนับประสาอะไรกับจิตวิญญาณที่เดิมทีก็เสื่อมโทรมไม่เหลือสภาพดี ราวกับว่าได้แค่ประคับประคองตัวเองไปอย่างยากลำบากเท่านั้นของนาง แล้วจะต้านทานกระบี่ในความฝันของหลิวเสี้ยนหยางได้สักกี่ครั้งกัน?
หลิวเสี้ยนหยางถอนหายใจ หยุดเดิน เอ่ยเรียกชื่อนางออกมาเบาๆ แม่น้ำแห่งกาลเวลาสายหนึ่งก็หยุดชะงักตามไปด้วย ผีหญิงที่กำลังย้อนมองชีวิตของตัวเองพลัน ‘ตกใจสะดุ้งตื่น’ กวาดตามองรอบด้านถึงสังเกตเห็นว่าตัวเองไม่ใช่ผู้ฝึกตนหญิงที่เพิ่งเลื่อนขั้นเป็นขอบเขตประตูมังกร และข้างกายก็ไม่มีศิษย์น้องหญิงที่เพิ่งจะวาดฝันถึงอนาคตอยู่ด้วยกัน ยิ่งไม่ใช่ยอดเขาหม่านเยว่อะไร นางอยากจะโคจรกระบี่บินแห่งชะตาชีวิต แต่กลับพบว่า ‘เหอเจ๋อ’ ที่มีชีวิตพึ่งพากันและกันกับเจ้าของเล่มนั้นยังคงอยู่ในช่องโพรงแห่งชะตาชีวิต แต่ไม่ว่าดวงจิตของนางจะชักนำอย่างไร กลับเหมือนมีขุนเขาใหญ่ปิดตายอยู่หน้าประตูใหญ่ของช่องโพรงลมปราณ ไม่ว่าอย่างไรกระบี่บินก็ออกจากประตูมาสังหารศัตรูไม่ได้
หลิวเสี้ยนหยางมองไปยัง ‘นอกฟ้า’ แวบหนึ่ง ยิ้มเอ่ยว่า “ยังพอมีเวลาเหลือ จะพาเจ้าไปชมทัศนียภาพบนยอดเขาที่แท้จริงก็แล้วกัน”
การที่ยอมแหกกฎก็เพราะว่าผีหญิงตนนี้อาจเป็น ‘หลิ่วอวี้’ ในอนาคตของภูเขาตะวันเที่ยง
นาทีถัดมานางก็รู้สึกเพียงว่าทัศนียภาพรอบด้านเปลี่ยนแปลงไป จากนั้นเส้นเอ็นหัวใจก็พลันขึงตึง หายใจไม่ออกขึ้นมาโดยพลัน
ทว่าเพียงเสี้ยววินาที ผีที่จะดีจะชั่วจิตแห่งกระบี่ก็ยังเป็นขอบเขตก่อกำเนิดกลับจิตแห่งมรรคาแตกสลายคาที่
บนสนามรบที่กว้างใหญ่มองไปเหมือนไร้ที่สิ้นสุดนั้น สิ่งศักดิ์สิทธิ์ร่างทองจำนวนนับไม่ถ้วนอยู่สูงขึ้นไปบนฟ้า เผ่าปีศาจเหลือคณานับอยู่บนพื้นดิน ระหว่างฟ้าดินเกิดการเข่นฆ่ากันไม่หยุดหย่อน โครงกระดูกกลาดเกลื่อนไปทั่วบริเวณ ประหนึ่งเทือกเขาที่ทอดตัวยาวไกล
ส่วนพื้นที่ที่นางกับหลิวเสี้ยนหยางยืนอยู่กลับเป็นปลายดาบของดาบอาคมที่ปีศาจใหญ่ตนหนึ่งถืออยู่ในมือ ปีศาจใหญ่ที่เรือนกายสูงใหญ่ไม่รู้กี่พันจั้งยกเท้าเหยียบลงบนขุนเขา ควงแขนตวัดดาบ สองตาเป็นสีเลือดแดงฉานฉายประกายเร่าร้อน มันแหงนหน้าขึ้นฟ้า ปณิธานแห่งการต่อสู้เหิมทะยาน
หลิวเสี้ยนหยางถามอย่างเฉยเมยว่า “ซือถูเหวินอิง เห็นแก่ที่เจ้าไม่เหมือนผู้ฝึกกระบี่ของภูเขาตะวันเที่ยง ข้าถึงได้พาเจ้ามาที่นี่ สุดท้ายนี้เจ้ายังมีอะไรอยากพูดอีกหรือไม่?”
จุดที่สายตาของคนทั้งสองมองไปเห็นมีแต่การสู้รบที่ดุเดือดโหดร้าย
เพียงแต่ว่าหลิวเสี้ยนหยางเห็นมาจนชินแล้ว ทว่าผู้ฝึกกระบี่ผีที่ชื่อว่าซือถูเหวินอิงกลับอกสั่นขวัญผวา แค่เห็นภาพเหตุการณ์นี้ก็เวียนหัวตาลาย จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์สวมเสื้อเกราะหลากสีดวงตาสีทองยืนตระหง่านอยู่บนพื้นดิน กางฝ่ามือดึงเอาธารดวงดาวพร่างพราวเส้นหนึ่งมาจากท้องฟ้า กำเอาไว้ในมือต่างแส้ยาว แล้วตวัดเหวี่ยงขึ้นสูง แส้โบยลงบนพื้นดิน พื้นดินก็ปริแตกแยกยับ ร่องลึกแผ่ลามตัดสลับกัน
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ร่างใหญ่โตมโหฬารลักษณะเป็นสตรีตนหนึ่ง ตอนที่นางทะยานร่างลงสู่พื้น ทะเลเมฆในจุดสูงมารวมตัวกันแน่นขนัด สายฟ้าสีทองนับหมื่นพากันร่วงตกลงมายังพื้นดินราวกับต้องการทำให้ฟ้าและดินเชื่อมโยงถึงกัน
มีเรือนกาย ‘เล็กจ้อย’ ของปีศาจใหญ่ที่ใช้มือหนึ่งกระชากร่างสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาแล้วฉีกออก จากนั้นก็โยนครึ่งร่างทิ้งไป อีกครึ่งที่เหลือยัดใส่ปากเคี้ยวกร้วมๆ แต่กลับถูกง้าวยาวสีทองด้ามหนึ่งที่หล่นลงมาจากฟ้าแทงทะลุหน้าอก มันกลับแสยะยิ้มเหี้ยมเกรียมแล้วเอนตัวไปด้านหน้า ฉีกทึ้งร่างของตัวเองแล้วพลิกกลับมาเป็นฝ่ายคว้าง้าวยาวเอาไว้ กระทืบพื้นหนักๆ หนึ่งที ขว้างง้าวกลับคืนไปให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ร่างทองตนหนึ่งที่อยู่บนฟ้า ก่อนที่ฝ่ายหลังจะรับเอาไว้ได้ สิ่งศักดิ์สิทธิ์หลายสิบตนที่อยู่ในระดับต่ำลงมาก็ถูกง้าวแทงทะลุไปด้วย พอสิ่งศักดิ์สิทธิ์เจ้าของง้าวรับง้าวมาไว้ในมือก็ไม่แม้แต่จะชายตามองซากศพของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่กองกันอยู่บนง้าวยาว เพียงแค่สะบัดข้อมือเบาๆ สลาย ‘ถังหูลู่’ ที่เรียงกันอยู่บนศาสตราวุธในมือทิ้งไป…
นางเอ่ยเสียงสั่น “นี่ก็คือกระบี่บินแห่งชะตาชีวิตของเจ้าหรือ?”
หลิวเสี้ยนหยางกระตุกมุมปาก “ไม่งั้น? อยู่ดีๆ ก็มีขอบเขตหยกดิบหล่นลงมาจากฟ้าแล้วถูกข้าหลิวเสี้ยนหยางคว้าไว้ในมือได้พอดีอย่างนั้นรึ?”
นางอึ้งงันไร้คำพูด เงียบไปนานมาก สุดท้ายนางที่รู้ดีว่าต้องตายแน่แล้วกลับกลายเป็นว่าหัวเราะได้ “ปิดฉากอย่างนี้ก็ถือเป็นความน่ายินดีที่ไม่คาดฝัน”
หลิวเสี้ยนหยางทรุดตัวลงนั่งยอง เอ่ยว่า “ในที่สุดข้าก็เข้าใจความหมายของคำพูดพวกนั้นแล้ว”
เมื่อวานตอนอยู่ที่หอกั้วอวิ๋น ดื่มเหล้าพลางคุยเล่นกับสหายบนเก้าอี้หวาย ถึงอย่างไรอยู่ว่างๆ ไม่มีอะไรทำ สหายรักสองคนจึงพูดเรื่องโน้นเรื่องนี้ไปเรื่อยเปื่อย ไม่ว่าเรื่องอะไรก็สรรหามาคุยกันหมด
สุดท้ายดื่มเหล้าจนเริ่มเมากรึ่มๆ เฉินผิงอันยิ้มตาหยีมองม่านฟ้า เอ่ยคำพูดที่อยู่ในใจบางอย่าง
เขาบอกว่าเรื่องที่น่าสนใจ เรื่องที่มีความหมาย ล้วนทำได้ไม่ง่าย
เรื่องยากที่น่าสนใจ เมื่อทำสำเร็จกลับไม่แน่เสมอไปว่าจะมีความหมายอะไร แต่เรื่องที่มีความหมายเรื่องหนึ่ง ทำสำเร็จแล้วกลับต้องน่าสนใจมากอย่างแน่นอน
……
เซียนซือหลายกลุ่มที่มาเข้าร่วมงานพิธีบนยอดเขาหม่านเยว่ถึงกับสามารถสัมผัสได้ถึงท่วงทำนองที่เหลืออยู่ของแรงสั่นสะเทือนจากพื้นดินบนยอดเขาอีเซี่ยนได้อย่างชัดเจน
ส่วนสองสถานที่อย่างยอดเขาโปอวิ๋นกับยอดเขาสุ่ยหลง มีเทพภูเขาเทพวารีสองกลุ่มที่มาจากสถานที่ต่างๆ ในหนึ่งทวีปมารวมตัวกันอยู่ พวกเขาสัมผัสได้ถึงรากภูเขาและโชคชะตาน้ำได้เฉียบคมมากยิ่งกว่า เมื่อเทียบกับผู้ฝึกตนทั่วไปแล้วจึงยิ่งแน่ใจมากกว่าว่าผลลัพธ์ที่จะตามมาในการถามกระบี่ครั้งนี้ต้องมากพอจะเปลี่ยนแปลงพื้นที่ภูมิศาสตร์ได้อย่างยาวนานแน่นอน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!