กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 821

ในขณะที่นางกำนัลหญิงยังลังเลไม่แน่ใจอยู่นั้นเอง คิดไม่ถึงว่าบุรุษชุดเขียวสะพายกระบี่จะร่างเปล่งวูบแล้วข้ามธรณีประตู เดินเข้าไปในศาลบรรพจารย์แล้ว ส่วนแขนข้างนั้นของนางก็ได้แต่หยุดค้างเติ่งอยู่กลางอากาศ นางเก็บมือมา ร้อนใจจนใบหน้าแดงก่ำ เกือบจะหลั่งน้ำตา ปล่อยให้เกิดข้อบกพร่องขนาดนี้ใต้เปลือกตาของตนได้ หลังจบเรื่องกลับไปที่ยอดเขาฉงจือจะไม่ถูกบรรพจารย์ด่าตายหรอกหรือ นางกระทืบเท้า ได้แต่หันตัวกลับไป รีบส่งกระบี่บินไปแจ้งข่าวเจ้าสำนักจู๋หวงทันที บอกว่ามีแขกไม่รู้กฎเกณฑ์คนหนึ่ง บอกว่าตัวเองชื่อเฉินผิงอัน มาจากภูเขาลั่วพั่ว ถึงกับบุกเข้าไปในศาลบรรพจารย์ก่อนแล้ว ดูเหมือนว่าจะเริ่มเลือกเก้าอี้ตัวที่เป็นของเขาเพื่อนั่งลงแล้ว คนผู้นี้ยังพูดจาวางโตอย่างไม่ละอาย บอกว่าทางที่ดีที่สุดเจ้าสำนักควรมาคุยธุระที่นี่คนเดียว…

เฉินผิงอันเอามือหนึ่งไพล่หลัง มือหนึ่งหิ้วกระบี่ เขากำลังเลือกเก้าอี้อยู่ด้านในจริงๆ กระทั่งเดินไปถึงเก้าอี้ตรงตำแหน่งประธานตัวที่เป็นของจู๋หวงเจ้าสำนัก เนื่องจากวันนี้เป็นงานเฉลิมฉลองของต้าเซิ่งย้ายภูเขาตนนั้น ดังนั้นทางฝั่งของยอดเขาอีเซี่ยนจึงยอมแหกกฎตั้งใจจัดเก้าอี้ที่เดิมทีตั้งอยู่ช่วงหน้าๆ แล้วให้มาอยู่เป็นอันดับหนึ่งเคียงข้างกับจู๋หวง

เฉินผิงอันจึงนั่งลงบนเก้าอี้ตัวนั้น มองไปทางประตูใหญ่ ในมือถือกระบี่ยาวยันพื้น ยกขึ้นเบาๆ แล้วก็วางลง รอคอยจู๋หวงปรากฏตัวมาต้อนรับแขก

นางกำนัลจากตรอกฮวามู่คนนั้น เดิมทีก็ไม่กล้าละเมิดกฎของศาลบรรพจารย์บุกเข้าไปข้างในโดยพลการ นางจึงได้แต่ยืนอยู่ตรงหน้าประตู แล้วพอนางได้เห็นภาพในศาล สีหน้าก็พลันเปลี่ยนมาเป็นซีดเผือด แขกไม่ได้รับเชิญที่มีท่าทางเป็นมิตรผู้นี้เป็นอย่างไรกันแน่นะ ไม่ต้องการชีวิตแล้วหรือไร?

เฉินผิงอันไล่มองไปตามเก้าอี้ที่วางอยู่สองแถว เขาถึงกับรู้ว่าเป็นเก้าอี้ของใครบ้าง แม้จะบอกว่าเมื่อก่อนไม่เคยมาเยือนศาลบรรพจารย์ยอดเขาอีเซี่ยนมาก่อน ทว่ามันไม่ใช่สถานที่ที่แปลกหน้าสำหรับเขาเลย

เซี่ยหย่วนชุ่ยแห่งยอดเขาหม่านเยว่ เทพเจ้าแห่งโชคลาภเถาแห่งยอดเขาชิวลิ่ง ผู้คุมกฎเยี่ยนฉู่ เซียนกระบี่ผู้เฒ่าแห่งยอดเขาโปอวิ๋นที่เคยออกกระบี่ร่วมกับลี่ไฉ่ เซียนกระบี่หญิงจากยอดเขาเพียนเซียน เหลิ่งฉี่บรรพจารย์จากยอดเขาฉงจือ เถียนหว่านแห่งยอดเขาจูอวิ๋น อู๋ถีจิงที่เป็นหลี่ถวนจิ่งกลับชาติมาเกิดใหม่ อวี่หลิ่นแห่งยอดเขาอวี่เจี่ยวที่อาจารย์หร่วนไม่ถูกชะตา หยวนป๋ายแห่งยอดเขาตุ้ยเซวี่ยที่ข้างกายซ่อน ‘หลิวไฉผู้ฝึกกระบี่’ ไว้เกือบครึ่งตัว…

เป็นสถานที่ที่ดีที่มีเซียนกระบี่มากมายดุจก้อนเมฆอย่างแท้จริง

หากมีแค่ภูเขาตะวันเที่ยงเพียงแห่งเดียว ก็ไม่มีอะไร

แต่หากบวกรวมราชสำนักต้าหลีและเถียนหว่าน มีเถียนหว่านก็มีป๋ายฉางที่มีแผนการอันยิ่งใหญ่ มีโจวจื่อก็ยิ่งมีหลิวไฉ

ยกตัวอย่างเช่นหากพูดถึงแค่หลิวไฉคนนั้น ในช่วงเวลาที่มองดูเหมือนเฉินผิงอันฮึกเหิมมีหน้ามีตาอย่างถึงที่สุด อยู่ดีๆ กลับมีลูกศิษย์ภูเขาตะวันเที่ยงที่ไร้ชื่อเสียงคนหนึ่งโผล่ออกมาขวางทาง

เลือกที่จะจ่ายค่าตอบแทนด้วยการที่เอาชีวิตของผู้ฝึกกระบี่มาแลกกับชีวิตผู้ฝึกกระบี่ สุดท้ายทำให้อิ่นกวานคนสุดท้ายของกำแพงเมืองปราณกระบี่ไม่ได้เป็นผู้ฝึกกระบี่อีกต่อไป

สำหรับสถานการณ์ที่ซับซ้อนของหลายใต้หล้าแล้ว บางทีนี่อาจเป็นสถานการณ์ที่น่าสนใจอย่างถึงที่สุด จะเป็นตัวแปรที่สร้างความไม่คาดฝันให้เกิดขึ้นได้มากมาย

แต่สำหรับเจ้าขุนเขาหนุ่มของภูเขาลั่วพั่วแล้ว กลับเป็นจุดจบอันน่าสังเวชที่ ‘อนาคต’ ไม่อาจจินตนาการได้ถึง

และเรื่องนี้ก็ดูเหมือนว่าโจวจื่อจะได้บอกกล่าวทักทายกับเฉินผิงอันมานานแล้ว อาศัยรายชื่อของคนรุ่นเยาว์สิบคนของหลายใต้หล้า อีกทั้งยังเปิดเผยกระบี่บินแห่งชะตาชีวิตสองเล่มของหลิวไฉคล้ายตั้งใจคล้ายไม่ได้เจตนา็้็็้

ไม่แน่ว่ารายชื่อนี่ก็อาจเป็นฝีมือของโจวจื่อที่บงการอยู่เบื้องหลัง

สักวันหนึ่งเมื่อผู้ฝึกกระบี่ถามกระบี่ต่อผู้ฝึกกระบี่ จะเป็นการจับคู่เข่นฆ่าที่เปิดเผยตรงไปตรงมา

อีกทั้งยังเตือนอิ่นกวานหนุ่มอย่างเจ้าไว้ก่อนแล้วด้วย และยังยอมให้เจ้าเฉินผิงอันเตรียมตัวล่วงหน้านานหลายปี เพื่อรับมือกับการถามกระบี่ที่คู่ต่อสู้บอกทั้งชื่อและกระบี่บินแห่งชะตาชีวิตให้เจ้ารับรู้อย่างชัดเจน

เฉินผิงอันสูดลมหายใจเข้าลึกหนึ่งครั้ง เพียงแต่ยังไม่ได้รู้สึกว่านี่เป็นเรื่องเร่งด่วนเหมือนไฟไหม้ลามขนคิ้ว แต่การถามกระบี่ที่โจวจื่อมีแต่จะเป็นผู้เลือกเวลาและสถานที่ครั้งนี้ได้ถูกกำหนดมาแล้วว่าจะหลบเลี่ยงไม่ได้ หนีไม่พ้น

อันที่จริงไม่ว่าเฉินผิงอันจะคิดจนหัวแทบแตกอย่างไรก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าเหตุใดโจวจื่อผู้นั้นถึงตั้งตนเป็นปรปักษ์กับตนถึงเพียงนี้

ช่างมันเถิด

บนเส้นทางชีวิตคน ต่อให้เป็นคำว่าทำไมที่ไม่รู้ไม่เข้าใจมากมาย ควรจะทำอย่างไรก็แค่ต้องทำไปอย่างนั้นอยู่ดีไม่ใช่หรือ

มาแล้ว

เจ้าสำนักจู๋หวงแห่งภูเขาตะวันเที่ยง

แล้วก็มาแค่คนเดียวจริงๆ ด้วย

เฉินผิงอันยิ้ม ไม่ได้ลุกขึ้นยืน

จู๋หวงใช้ปราณกระบี่สกัดสร้างฟ้าดินเล็กแห่งหนึ่งขึ้นมา ยืนอยู่ตรงหน้าประตู เขาเหลือบไปเห็นกระบี่โบราณบนยอดเขาสะพายกระบี่ที่อยู่ในมือของฝ่ายตรงข้ามได้ในปราดเดียว เจ้าขุนเขาที่เป็นเซียนกระบี่ขอบเขตหยกดิบคนนี้หรี่ตาลง เอ่ยถามเสียงกร้าวกับเจ้าขุนเขาหนุ่ม “เฉินผิงอัน เจ้าคิดจะทำอะไร?”

คนผู้นั้นยังคงใช้ปลายด้านหนึ่งของฝักกระบี่เคาะพื้นเบาๆ ยิ้มบางๆ เอ่ยว่า “ขอชาดื่มก่อนสักถ้วยแล้วค่อยพูดคุยเรื่องเป็นการเป็นงานกัน?”

จู๋หวงกำยันต์หยกขาวที่สืบทอดมาหลายยุคหลายสมัยที่อยู่ในชายแขนเสื้อแน่น หัวเราะหยันเอ่ยว่า “อ้อ? เจ้าคู่ควรหรือ?”

นาทีถัดมาปราณกระบี่ทั้งหมดบนยอดกระบี่ของยอดเขาอีเซี่ยนก็พลันมารวมตัวกัน ก่อตัวขึ้นเป็นเรือนกายสูงใหญ่ที่มีไอเมฆหมอกล้อมวน ยืนอยู่ข้างกายเจ้าสำนักจู๋หวง

คนชุดเขียวยังคงนิ่งเฉยไม่สะทกสะท้าน เพียงแค่ยิ้มเอ่ยอย่างระอาใจว่า “นี่ยังไม่ทันได้เจรจาก็ตกลงกันไม่ได้แล้วหรือ?”

จู๋หวงเห็นเพียงว่าคนผู้นี้ปล่อยมือออก กระบี่พกที่เป็นของบรรพจารย์บุกเบิกภูเขาของภูเขาตะวันเที่ยง เล่มนั้นปักค้างนิ่งอยู่กับพื้น จากนั้นเจ้าหมอนั่นก็ยกมือขึ้น สะบัดชายแขนเสื้อ ศีรษะหนึ่งกลิ้งหลุนๆ หล่นออกมาจากด้านใน เขายกปลายเท้าขึ้นเตะหัวของจื๋อหลินโส่วไปที่หน้าประตูจนมันชนเข้ากับธรณีประตู “จู๋หวง เจ้าไม่ลองคิดดูเล่าว่าเหตุใดข้าถึงสามารถตัดหัวผู้ฝึกยุทธขอบเขตเก้าในถิ่นของเจ้าได้ ผลคือพอมาถึงยอดเขาอีเซี่ยนแล้วยังต้องเป็นฝ่ายทักทายก่อน เจ้าถึงเพิ่งจะรู้เรื่องนี้?”

สีหน้าของจู๋หวงเดี๋ยวมืดเดี๋ยวสว่างไม่แน่นอน

ขอบเขตเซียนเหรินที่อยู่ข้างกายเขา แท้จริงแล้วสามารถปล่อยกระบี่ใส่คนหนุ่มผู้นั้นได้ทุกเมื่อ

เฉินผิงอันผายมือข้างหนึ่งไปทางเก้าอี้ตัวที่เป็นของจู๋หวง ยิ้มร่าเอ่ยว่า “ไหนๆ เจ้าก็มาแล้ว ข้าเองก็หนีไปไหนไม่ได้สักหน่อย ไม่สู้นั่งลงพูดคุยกันดีไหม?”

จู๋หวงไม่ได้ขยับเท้า เพียงแค่ถามว่า “หลิวเสี้ยนหยางเป็นขอบเขตหยกดิบแล้วใช่หรือไม่?”

เฉินผิงอันคร้านจะพูดคุยเรื่องนี้ เจ้าแม่งก็ไม่เดาเอาเองเล่า เพียงแค่ทุบศีรษะที่อยู่ตรงหน้าประตูให้แหลกง่ายๆ จากนั้นก็ทำท่าจะลุกขึ้น ยิ้มเอ่ยว่า “ให้โอกาสเจ้าได้พูดคุยดีๆ แต่ดันไม่ยอมคุยใช่ไหม? ถ้าอย่างนั้นอีกเดี๋ยวแขกผู้มีเกียรติที่มารวมงานพิธีบนยอดเขาอีเซี่ยนซึ่งรวมถึงหลิวเสี้ยนหยางและข้าด้วย ทุกคนก็คงต้องอาบแดดอยู่บนซากปรักของศาลบรรพจารย์ด้วยกันแล้ว”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!