เซี่ยหย่วนชุ่ยถอนหายใจยาวเหยียด ศิษย์หลานผู้นี้จิตใจช่างร้ายกาจ เรื่องมาถึงขั้นนี้ยังสามารถพูดคุยอย่างผ่อนคลายสบายอารมณ์เช่นนี้ได้ บรรพจารย์ยอดเขาหม่านเยว่ที่ลำดับอาวุโสสูงที่สุดในภูเขาตะวันเที่ยงอย่างเขาถึงกับต้องยอมเก็บกลั้นความคิดชั่วร้ายบางอย่างลงไป ศัตรูตัวฉกาจจากไปแล้ว หากภูเขาลั่วพั่วยอมหยุดมือแต่เพียงเท่านี้จริง ยอดเขาหม่านเยว่ก็ควรจะวางอคติที่มีต่อกันกับยอดเขาอีเซี่ยนของจู๋หวงลงแล้วร่วมมือกันอย่างจริงใจนับแต่นี้ไปหรือไม่?
เทพเจ้าแห่งโชคลาภเถาแยนโปทำท่าจะพูดแต่ก็ไม่พูด
เยี่ยนฉู่ปกปิดสีหน้าตื่นตะลึงระคนยินดีไว้ไม่มิด เพราะว่าตอนที่จู๋หวงพูดประโยคนี้ได้หันมามองตนแล้วยิ้ม ไม่ได้มองเทพเจ้าแห่งโชคลาภเถาของภูเขาชิวลิ่ง
เห็นได้ชัดว่าภูเขาชิวลิ่งที่เดิมทีมีหน้ามีตาอย่างไร้ขีดจำกัดได้ถูกกำหนดมาแล้วว่าจะต้องตกต่ำ
ต้นไม้ล้มลิงค่างแตกฮือ คนจากลาน้ำชาก็เย็นชืด
แขกที่ยังอยู่ต่อมีน้อยจนนับนิ้วได้
เรือข้ามฟากที่มาเข้าร่วมงานพิธีพากันลอยจากไปเหมือนนกบินออกจากภูเขา ไล่ตามเส้นทางที่คล้ายกับเส้นทางของนกออกเดินทางไปไกล สถานที่อันตรายอย่างภูเขาตะวันเที่ยงนี้ไม่สมควรอยู่นาน
จู๋หวงพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “พอดีกับที่สามารถอาศัยโอกาสนี้ ฉวยโอกาสเวลานี้ที่ทั้งผู้ถวายงานและเค่อชิงอยู่กันครบถ้วน พวกเรามาเริ่มประชุมครั้งที่สองกันเลย”
เยี่ยนฉู่จึงใช้สถานะบรรพจารย์ผู้คุมกฎของตนตีหน้าเคร่ง โบกมือเอ่ย “พวกคนที่ไม่เกี่ยวข้องรีบลงจากภูเขาไปซะ ไปรออยู่ที่หอถิงเจี้ยน อย่าเดินไปไหนเพ่นพ่าน รอฟังคำสั่งจากศาลบรรพจารย์”
จู๋หวงยิ้มกล่าว “ในเมื่อหยวนเจินเย่ได้ถูกตัดชื่อออกแล้ว ถ้าอย่างนั้นตำแหน่งผู้ถวายงานพิทักษ์ภูเขาของภูเขาตะวันเที่ยงก็จะว่างลงชั่วคราว เถาแยนโป เจ้าคิดว่าอย่างไร?”
เกี่ยวกับหยวนเจินเย่ที่พิทักษ์ภูเขามานานเป็นพันปี จู๋หวงพูดถึงแค่เรื่องที่ถูกตัดชื่อ ไม่พูดเรื่องความเป็นความตาย
เถาแยนโปเอ่ยอย่างเศร้าสร้อย “เจ้าสำนัก เจอกับหายนะเช่นนี้ ภูเขาชิวลิ่งยากจะปัดความผิดได้ ข้ายินดีที่จะลาออกจากตำแหน่ง ปิดประตูทบทวนตัวเองเป็นเวลาหกสิบปี”
สถานการณ์ใหญ่ผ่านพ้นไปแล้ว ดิ้นรนไปก็ไร้ประโยชน์ มีแต่จะล่วงเกินให้ผู้คนเดือดดาล เดือดร้อนให้ตลอดทั้งภูเขาชิวลิ่วถูกเจ้าสำนักที่จิตใจเหี้ยมอำมหิตอย่างจู๋หวงอาฆาตแค้น
จู๋หวงจ้องเถาแยนโป เอ่ยเนิบช้าว่า “ถ้าอย่างนั้นก็ให้ผู้คุมกฎเยี่ยนมารับหน้าที่นี่ นับจากนี้ไปภูเขาชิวลิ่งปิดภูเขาร้อยปี วันหน้าผู้ฝึกกระบี่สายของภูเขาชิวลิ่งลงจากเขาไปหาประสบการณ์ต้องฟังคำสั่งจากศาลบรรพจารย์ยอดเขาอีเซี่ยน ห้ามมีความเห็นต่าง รบกวนเซียนกระบี่เถากลับไปแล้วช่วยปลอบใจทุกคนให้ดี อาจารย์ลุงเซี่ยมีชื่อเสียงคุณธรรมดีงาม ในช่วงวิกฤตเช่นนี้ก็ได้แต่รบกวนให้อาจารย์ลุงออกจากภูเขา ชะลอเรื่องการฝึกกระบี่ไว้ชั่วคราว มารับหน้าที่เป็นผู้คุมกฎของศาลบรรพจารย์”
เซี่ยหย่วนชุ่ยลูบหนวดครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “คงทำได้เพียงเท่านี้แล้ว”
แม้ว่าในใจของเยี่ยนฉู่จะยังอาลัยอาวรณ์อยู่บ้าง เดิมนึกว่าจะสามารถควบทั้งสถานะบรรพจารย์ผู้คุมกฎและเทพเจ้าแห่งโชคลาภไปพร้อมกัน แต่ได้ดูแลเรื่องเงินทองของสองสำนักบนล่างในอนาคตก็ถือว่าได้กำไรแล้ว
เถาแยนโปได้ยินประโยคนี้ก็เดือดดาลอย่างหนัก ปิดภูเขาร้อยปี ยอดเขาอีเซี่ยนรับผู้ฝึกกระบี่ทุกคนของภูเขาชิวลิ่งไปดูแล?! เจ้าจู๋หวงคิดจะใช้วิธีมีดทื่อแล่เนื้อ ต้องการจะกวาดล้างกองกำลังหลายยอดเขาของผู้ฝึกกระบี่สายภูเขาชิวลิ่งให้สิ้นซากเลยหรือ?
หากปิดภูเขาชิวลิ่งนานถึงหนึ่งร้อยปี ผู้ฝึกกระบี่ของสายนี้ โดยเฉพาะลูกศิษย์รุ่นเยาว์สองรุ่นจะไม่เปลี่ยนความคิด เอาอย่างยอดเขาชิงอู้ หันไปฝึกตนที่ยอดเขาแห่งอื่นกันหมดเลยหรือ?
เติมอิฐเพิ่มกระเบื้อง เจ้าผลักข้าดัน ต่างคนต่างมีความลำบากใจ กำแพงล้มคนช่วยกันผลัก ขนาดคนโง่ยังทำเป็น
จู๋หวงกล่าว “เถาแยนโป เจ้ามีความเห็นหรือ?”
สีหน้าเถาแยนโปเดี๋ยวมืดเดี๋ยวสว่าง เหลือบตามองแผ่นหยกที่ห้อยอยู่ตรงเอวของจู๋หวง สุดท้ายก็ยังส่ายหน้า
แม้ว่าจะเป็นการประชุมในศาลบรรพจารย์ แต่เห็นได้ชัดว่าเดิมทีจู๋หวงไม่คิดจะเปิดโอกาสให้ใครได้พูดอะไรแม้แต่คำเดียว ยอดกระบี่ที่ไม่มีศาลบรรพจารย์ วันนี้คำพูดของจู๋หวงจึงเป็นคำขาด
จู๋หวงหันหน้าไปมองบรรพจารย์หญิงจากยอดขาจูอวี๋ เอ่ยว่า “เถียนหว่าน หน้าที่ยังคงเดิม ยังคงดูแลสามส่วน บุปผาในคันฉ่องจันทราในสายน้ำ รายงานขุนเขาสายน้ำ รายงานในสำนัก”
เถียนหว่านมีสีหน้าตื่นตระหนก พูดเสียงสั่น “เจ้าสำนัก ก็เพราะว่ายอดเขาจูอวี๋รายงานข่าวผิดพลาดถึงได้ทำให้พวกเราประมาทคนหนุ่มสองคนนั้น เถียนหว่านตายร้อยรอบก็มิอาจไถ่ถอนความผิด ยินดีที่จะปิดประตูทบทวนความผิดเฉกเช่นบรรพจารย์เถา”
จู๋หวงยิ้มส่ายหน้า ปฏิเสธคำขอร้องของเถียนหว่าน
แน่นอนว่าเขารู้ว่าสตรีผู้นี้ผิดปกติอย่างมาก
จู๋หวงกล้ามั่นใจเลยว่านางกับภูเขาลั่วพั่วต้องมีความเกี่ยวข้องกันอย่างลึกลับ หรือไม่อย่างนั้นก็เป็นเพราะมีข้อตกลงบางอย่างร่วมกัน แต่ช่วยไม่ได้ นี่คือค่าตอบแทนที่ภูเขาตะวันเที่ยงจำเป็นต้องจ่าย คือความจริงใจส่วนหนึ่งที่ยอดเขาอีเซี่ยนและเขาจู๋หวงจำต้องยกสองมือประคองส่งมอบให้เจ้าขุนเขาเฉินคนนั้น
เส้นเอ็นหัวใจของเยี่ยนฉู่หดรัดตัวขึ้นมาทันที ไม่กล้าถือสาเรื่องที่ไม่ได้ควบสองตำแหน่งอะไรอีกแล้ว เพราะถึงอย่างไรยอดเขาสุ่ยหลงต่างหากถึงจะเป็นภูเขาที่ในมือกุมอำนาจใหญ่ด้านการรายงานข่าวอย่างแท้จริง
สตรีหน้าเหม็นอย่างเถียนหว่านผู้นี้ พูดเรื่องไหนไม่พูด ดันมาพูดเรื่องที่จี้ใจคนเสียได้
ส่วนยอดเขาจูอวี๋ อย่าว่าแต่ลูกศิษย์ผู้สืบทอดเลย แม้แต่ลูกศิษย์นักการสักคนก็ยังไม่มี แต่ไหนแต่ไรมาก็มีเพียงเถียนหว่านคนเดียวที่ฝึกตนอยู่ที่นั่น นี่ไม่ได้ชัดเจนว่าต้องการสาดน้ำสกปรกใส่ยอดเขาสุ่ยหลงหรอกหรือ?
อารมณ์ของจู๋หวงซับซ้อน สภาพจิตใจของเจ้าสำนักท่านนี้ไม่ได้นิ่งสงบอย่างที่แสดงออกภายนอก ในความเป็นจริงเขาเหนื่อยล้ามานานแล้ว หากยังมีลมพัดยอดหญ้าไหวแม้เพียงนิด ต่อให้เป็นจู๋หวงก็ยังรู้สึกว่าท่อนไม้แค่ท่อนเดียวก็ยากจะประคองได้ไหว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!