กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 907

หลิน​โส่ว​อี​ถึงได้​เดิน​ข้าม​ธรณีประตู​เข้าไป​ นั่ง​หมิ่น​ๆ ลง​บน​ขอบ​เตียง​เตา​ เพียงแต่​ไม่ได้​ถอด​รองเท้า​นั่งขัดสมาธิ​อย่าง​บิดา​

กังวล​ว่า​จะได้ยิน​ถ้อยคำ​ร้ายกาจ​ชวน​ให้​เจ็บ​ปวดใจ​อีก​

หลิน​โส่ว​อี​ถาม “เรื่อง​ของ​บิดา​เฉิน​ผิง​อัน​ ปี​นั้น​สรุป​แล้ว​ท่าน​ได้​เข้าร่วม​ด้วย​หรือไม่​?”

บุรุษ​กระตุก​มุมปาก​ ยก​ชามเหล้า​ขึ้น​จิบ​เหล้า​หนึ่ง​คำ​ “ปีกกล้าขาแข็ง​แล้ว​ ไม่เสียแรง​ที่​เป็น​เทพ​เซียน​บน​ภูเขา​ บิน​ไป​บิน​มาไม่เดิน​บน​พื้น​ คำพูดคำจา​จึงวางโต​ เขา​เรียก​ว่า​อะไร​แล้ว​นะ​ กิน​แสงเรืองรอง​ดื่ม​น้ำค้าง​? หรือว่า​อยู่​ข้างนอก​ไป​นับ​ใคร​เป็น​บิดา​มา ถึงได้​สอน​วิถี​แห่ง​การ​ทำตัว​เป็น​บุตร​เช่นนี้​ให้​เจ้า?”

หลังจากที่​บุรุษ​ออกจาก​ที่ว่าการ​ผู้ตรวจ​การงาน​เตาเผา​ก็​ออกจาก​บ้านเกิด​มารับหน้าที่​ใน​กอง​ชิงลี่​ฝ่าย​รถม้า​ของ​กรม​กลาโหม​เมืองหลวง​ต้า​หลี​ เพียงแต่ว่า​ทำหน้าที่​อยู่​ใน​ที่ว่าการ​ใต้​อาณัติ​ของ​ฝ่าย​รถม้า​แห่ง​หนึ่ง​ เป็น​ขุนนาง​ขั้น​เจ็ด​ แล้ว​ยัง​เป็น​ชั้น​ ‘โท​’ ด้วย​ เนื่องจาก​ไม่ได้​เป็น​ขุนนาง​จาก​การ​สอบ​เค​อจวี่​ ดังนั้น​จึงถือเป็น​ขุนนาง​น้ำ​ขุ่น​ บวก​กับ​ที่​เขา​เอง​ก็​ไม่ใช่คนใน​พื้นที่​ของ​เมืองหลวง​ ทุกวันนี้​อายุ​ก็​มาก​แล้ว​ อย่า​ว่าแต่​เป็น​หลา​งก​วาน​เลย​ แม้แต่​ตัด​คำ​ว่า​ ‘โท​’ ออก​ก็​ยัง​ยาก​แล้ว​ หลาย​ปี​มานี้​พอ​จะถือว่า​เป็น​คน​ที่​ดูแล​สถาน​รายงาน​ข่าว​ซึ่งเป็น​ที่ทำการ​น้ำ​ใสแห่ง​หนึ่ง​ได้​อย่าง​ถูไถ และ​นี่​ยัง​เป็น​เพราะ​คน​ที่​เป็น​หัว​หน้าเป็น​ลูกหลาน​ชนชั้นสูง​ที่​ไม่ค่อย​สนใจ​เรื่อง​อะไร​ เวลา​เจอ​กับ​บุรุษ​ก็​มักจะ​เรียก​เขา​คำ​แล้ว​คำ​เล่า​ว่า​เหล่า​หลิน​ จุด​พัก​ม้าแต่ละ​แห่ง​ส่งฎีกา​มายัง​เมืองหลวง​ เมื่อ​ฮ่องเต้​ตรวจสอบ​แล้ว​ กรม​กลาโหม​ก็​จะส่งไป​ยัง​สถานที่​ต่างๆ​ ซึ่งต้อง​ผ่าน​ที่ว่าการ​ที่​ไม่สะดุดตา​แห่ง​นี้​ นอกจากนี้​รายงาน​ข่าว​จาก​เมืองหลวง​ที่​ส่งไป​ยัง​สถานที่​ต่างๆ​ ก็​ล้วน​อยู่​ใน​การ​ดูแล​ของ​ที่ว่าการ​นี้​ คิดดู​แล้ว​สหาย​ร่วมงาน​ใน​ที่ว่าการ​คง​มิอาจ​จินตนาการ​ได้​เลย​ว่า​หลิน​เจิ้งเฉิงน้ำเต้า​ตัน​คน​นี้​จะกลายเป็น​บิดา​ของ​หลิน​โส่ว​อี​ที่​มีชื่อเสียง​เลื่องลือ​ไป​สอง​เมืองหลวง​ได้​

หลิน​โส่ว​อี​กลัว​บิดา​ของ​เขา​มาตั้งแต่​เด็ก​แล้ว​

อันที่จริง​ตลอด​หลาย​ปี​ที่ผ่านมา​ก็​ไม่ได้​ดีขึ้น​สัก​เท่าไร​

ออกจาก​บ้านเกิด​นาน​หลาย​ปี​ ออก​เดินทางไกล​ไป​ขอ​ศึกษา​ต่อ​ ฝึก​ตน​อย่าง​ยากลำบาก​ ดูเหมือนว่า​ก็​เพื่อ​พิสูจน์​เรื่อง​หนึ่ง​ให้​บุรุษ​เห็น​

มีบิดา​อย่าง​ท่าน​หรือไม่​ มีครอบครัว​นี้​อยู่​หรือไม่​ ข้า​หลิน​โส่ว​อี​ก็​ยังมี​อนาคต​สดใส​ได้​

ท่าน​แม่ลำเอียง​ รัก​แต่​น้องชาย​ ท่าน​พ่อ​เย็นชา​ ไม่เคย​สนใจ​เรื่อง​ใด​

แต่​พอ​อยู่​กับ​หลิน​โส่วเย่​ผู้​เป็น​น้องชาย​ ต่อให้​จะไม่มีใบหน้า​ยิ้มแย้ม​ แต่​ก็​ดีกว่า​ยาม​อยู่​กับ​หลิน​โส่ว​อี​ที่​หาก​ไม่เปิดปาก​พูด​เลย​ก็​คือ​พอ​เปิดปาก​ก็​เอ่ย​แต่​ถ้อยคำ​เหน็บแนม​ไม่น่าฟัง​

ดังนั้น​วัน​เวลา​ตอนที่​เป็น​เด็ก​ จนกระทั่ง​ถึงช่วง​ที่​ต้อง​ออกจาก​บ้านเกิด​เดินทางไกล​ หลิน​โส่ว​อี​จึงเป็น​คน​ที่​พ่อ​ไม่รัก​แม่ไม่เอ็นดู​อย่าง​แท้จริง​

เด็กหนุ่ม​เคย​เสียใจ​อย่าง​สุด​แสน​

เป็นเหตุให้​ปี​นั้น​ตอนที่​ไป​ขอ​ศึกษา​ต่อ​ที่​ต้า​สุย​ เด็กหนุ่ม​หน้าตา​คมคาย​หมดจด​พูดน้อย​เปิดใจ​กับ​เฉิน​ผิง​อัน​เป็นครั้งแรก​ จึงเอ่ย​ประโยค​ที่ว่า​ ‘ใต้​หล้า​นี่​ไม่ใช่ว่า​ทุกคน​ที่​เป็น​พ่อแม่​จะเหมือน​พ่อแม่​ของ​เจ้าทั้งหมด​’

แต่​หลิน​โส่ว​อี​ใน​วันนี้​กลับ​ไม่เหมือน​วันวาน​แล้ว​

หลิน​โส่ว​อี​เอ่ย​เสียงทุ้ม​หนัก​ “หาก​ไม่เป็น​เพราะ​ข้า​ ใน​เรื่อง​ของ​การ​สืบหา​ความจริง​เรื่อง​เครื่องกระเบื้อง​แห่ง​ชะตาชีวิต​ปริ​แตก​ เฉิน​ผิง​อัน​ก็​ไม่มีทาง​จงใจอ้อม​ไป​ทาง​อื่น​ จงใจเว้น​ตระกูล​หลิน​ของ​พวกเรา​ไป​ ถึงขั้น​ที่ว่า​คราวก่อน​เฉิน​ผิง​อัน​มาถึงเมืองหลวง​แล้ว​ยัง​แสร้ง​ทำเป็น​ไม่รู้​อะไร​ ท่าน​พ่อ​ วันนี้​ท่าน​ต้อง​บอก​ข้า​มาให้​ชัดเจน​ เพราะ​ข้า​เอง​ก็​ต้อง​มีคำอธิบาย​ที่​ชัดเจน​ให้​กับ​สหาย​เหมือนกัน​!”

บุรุษ​มอง​บุตรชาย​คน​นี้​

หลิน​โส่ว​อี​สีหน้า​เคร่งขรึม​ สายตา​เด็ดเดี่ยว​ จ้อง​บิดา​เขม็ง​อยู่​อย่างนั้น​

นี่​เป็นเรื่อง​ที่​ไม่เคย​เกิดขึ้น​มาก่อน​

บุรุษ​ไม่ได้​มีไฟโทสะ​ เขา​พยักหน้า​ “ในที่สุด​ก็​พอ​จะมีท่าที​ของ​บุรุษ​ที่​พก​ไอ้​จ้อน​มาบ้าง​แล้ว​ ไม่อย่างนั้น​ข้า​ก็​นึก​ว่า​ตัวเอง​ให้กำเนิด​บุตรสาว​มาโดยตลอด​ ยัง​ต้อง​กลุ้มใจ​เรื่อง​สินเดิม​อีก​”

หลิน​โส่ว​เหวอ​ไป​เล็กน้อย​

นี่​ถือว่า​เป็น​คำชม​อย่างหนึ่ง​ได้​หรือไม่​?

บุรุษ​ผงก​ปลาย​คาง​ชี้ไป​

หลิน​โส่ว​อี​ยังคง​ไม่เข้าใจ​

บุรุษ​ถาม “เจ้าก็​ดื่มเหล้า​เป็น​ไม่ใช่หรือ​? ยัง​เป็น​ผู้ฝึก​ตน​ขอบเขต​ก่อกำเนิด​คน​หนึ่ง​ด้วย​ ทุกวันนี้​บน​ร่าง​ไม่มีวัตถุ​ฟางชุ่น​เอาไว้​เก็บ​ของ​จุกจิก​อย่าง​พวก​กา​เหล้า​จอก​เหล้า​บ้าง​เลย​หรือ​ไร​?”

หลิน​โส่ว​อี​กระอักกระอ่วน​เล็กน้อย​ “ข้า​ไม่เคย​มีวัตถุ​ฟางชุ่น​ติดตัว​”

บุรุษ​ไม่สะทกสะท้าน​ แต่กลับ​ถามว่า​ “ถ้าอย่างนั้น​จะให้​ข้า​ที่​เป็น​ลูกชาย​ช่วย​เจ้าที่​เป็น​บิดา​หยิบ​จอก​เหล้า​หรือว่า​ชามเหล้า​ดี​ล่ะ​? เจ้าบอก​มาสิ ถึงเวลา​นั้น​ข้า​จะได้​ไม่หยิบผิด​ ทำให้​บิดา​ไม่พอใจ​”

หลิน​โส่ว​อี​สูด​ลม​หายใจเข้า​ลึก​หนึ่ง​ที​ ลุกขึ้น​ยืน​เงียบๆ​ ออกจาก​ห้อง​ไป​หยิบ​ชามเหล้า​ใบ​หนึ่ง​จาก​ข้างนอก​มาด้วย​ฝีเท้า​เร่งร้อน​

บุรุษ​คน​นี้​ หาก​ไม่พูดไม่จา​เลย​ พอ​เปิดปาก​ก็​ชอบ​พูดจา​ทิ่มแทงใจ​คนอื่น​ เป็น​แบบนี้​มาโดยตลอด​

ใน​บ้าน​มีสาวใช้​อยู่​สอง​สามคน​ แต่​ล้วน​เป็น​พวก​ต้น​ขาใหญ่​สะโพก​กลม​ อีก​ทั้ง​ยัง​เป็น​ท่าน​แม่ที่​ใช้งาน​ได้​ ส่วน​ท่าน​พ่อ​ ไม่ว่า​จะเป็นงาน​เล็ก​หรือ​งานใหญ่​ก็​ล้วน​ต้อง​ทำ​ด้วยตัวเอง​ ไม่เคย​ให้​สาวใช้​หรือ​บ่าว​คนใด​มาคอย​ปรนนิบัติ​

หลิน​โส่ว​อี​กลับ​มาถึงห้อง​ก็​ริน​เหล้า​ให้​ตัวเอง​หนึ่ง​ชาม ไม่ได้​ริน​จน​เต็ม​ เขา​ยก​ชามเหล้า​ขึ้น​ด้วย​สอง​มือ​ กระดก​ดื่ม​รวดเดียว​หมด​เงียบๆ​

บุรุษ​หยก​ชามเหล้า​ขึ้น​จิบ​เหล้า​หนึ่ง​คำ​ หยิบ​ถั่วลิสง​โรย​เกลือ​มาหนึ่ง​เม็ด​ โยน​เข้า​ปากเบา​ๆ แล้ว​เคี้ยว​ เอ่ย​เนิบ​ช้าว่า​ “หาก​เจ้าบอ​กว่า​เป็น​สหาย​กับ​เฉิน​ผิง​อัน​ ถ้าอย่างนั้น​ข้า​กับ​บิดา​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​ก็​ถือว่า​เป็น​สหาย​กัน​เหมือนกัน​ อืม​ ไม่ควร​พูดว่า​ถือ​ไม่ถือ​อะไร​ ต้อง​บอ​กว่า​ใช่แล้ว​”

หลิน​โส่ว​อี​พยักหน้า​

บิดา​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​คือ​ช่างใน​เตาเผา​มังกร​แห่ง​หนึ่ง​ ฝีมือ​ดีเยี่ยม​ ทั้ง​ยัง​เป็น​คน​มีคุณธรรม​ เป็น​คน​ซื่อสัตย์​ที่​ไม่เคย​ทำความ​ชั่ว​ เดิมที​หาก​ไม่เกิดเรื่อง​ไม่คาดฝัน​ ผ่าน​ไป​อีก​แค่​ไม่กี่​ปี​ก็​จะได้​เป็น​อาจารย์​หัวหน้า​ช่างของ​เตาเผา​มังกร​แล้ว​

ส่วน​บิดา​ของ​หลิน​โส่ว​อี​ก็​รับผิดชอบ​คอย​ดูแล​งาน​เตาเผา​ ดูแล​เครื่อง​ปั้น​สำเร็จรูป​ที่​เผา​เสร็จ​แล้ว​ ตรวจสอบ​ระดับ​ขั้น​ของ​เครื่อง​ปั้น​ เนื่องจาก​ใน​อดีต​ผู้ตรวจการ​ซ่งอวี้​จางคือ​ขุนนาง​ที่​ขยันขันแข็ง​ชอบ​วิ่ง​ไป​ที่​เตาเผา​ทุกวัน​เป็น​ที่สุด​ ดังนั้น​บิดา​ของ​หลิน​โส่ว​อี​จึงต้อง​ออก​ไป​ข้างนอก​พร้อมกับ​หัวหน้า​ด้วย​ จึงมักจะ​ได้​พูดคุย​กับ​พวก​ช่างเตาเผา​บ่อยๆ​

หลิน​เจิ้งเฉิงเอ่ย​เนิบ​ช้า “บุรุษ​สอง​คน​ นอกจาก​คุย​เรื่อง​งาน​เตาเผา​ที่​เป็นการเป็นงาน​น่าเบื่อ​แล้ว​ยัง​จะคุย​เรื่อง​อะไร​กัน​ได้​อีก​ รอ​ให้​ต่าง​คน​ต่าง​มีลูกชาย​ ดื่มเหล้า​ด้วยกัน​ก็ได้​แค่​พูดคุย​เรื่อง​สัพเพเหระ​ใน​ครอบครัว​ตัวเอง​แล้ว​”

“อันที่จริง​เคย​พูด​กัน​ไว้​นาน​แล้ว​ว่า​ หาก​ครอบครัว​ของ​ข้า​และ​ของ​เขา​มีบุตรชาย​หนึ่ง​คน​บุตรสาว​หนึ่ง​คน​พอดี​ จะหมั้น​หมาย​ให้​เด็ก​ๆ เอาไว้​ก่อน​ แต่​ไม่บังเอิญ​เลย​ พวกเรา​ต่าง​ก็ได้​ลูกชาย​ หมด​ลุ้น​แล้ว​”

หลิน​โส่ว​อี​ถามอย่าง​สงสัย​ “ท่าน​อาเฉิน​ก็​ดื่มเหล้า​ด้วย​หรือ​?”

หลิน​เจิ้งเฉิงพยักหน้า​ “ดื่ม​เหมือนกัน​ ดื่มได้​ ก็​แค่​ว่า​ไม่ชอบ​ดื่ม​ ดังนั้น​ทุกครั้ง​ล้วน​เป็น​ข้า​ที่​ลาก​เขา​ให้​ไป​ดื่ม​ด้วยกัน​ อยู่​ที่​เตาเผา​มังกร​ยัง​นับว่า​ดี​ อย่าง​มาก​ก็​แค่​ล้ม​หัว​ลงนอน​ แต่​หาก​อยู่​ใน​เมือง​เล็ก​ เขา​กลับ​ชอบ​ทำตัว​ลับๆ ล่อๆ​ เหมือน​โจร​ ปี​นั้น​ข้า​ก็​สงสัย​นัก​ ไม่ใช่ว่า​ภรรยา​เขา​ควบคุม​อย่าง​เข้มงวด​เสียหน่อย​ น้อง​สะใภ้ขึ้นชื่อว่า​นิสัย​อบอุ่น​อ่อนโยน​ ข้า​จึงรู้สึก​ว่า​นาง​ไม่น่าจะ​ตำหนิ​อะไร​เขา​ แต่​ก็​ไม่เคย​มีโอกาส​ได้​ถาม มักจะ​รู้สึก​ว่า​ในอนาคต​ย่อม​มีโอกาส​ได้​ถาม ผล​คือ​จนถึง​ตอนนี้​ข้า​ก็​ยัง​ไม่เข้าใจ​”

“ตอนนั้น​ข้า​กิน​เงินหลวง​ ตระกูล​หลิน​ของ​พวกเรา​เทียบ​กับ​แซ่ใหญ่​ของ​ถนน​ฝูลู่​และ​ตรอก​เถาเย่​ไม่ได้​ แต่​ก็​ถือว่า​พอมีอันจะกิน​ มีเงิน​มากกว่า​เขา​เยอะ​ แต่​ขอ​แค่​ดื่มเหล้า​กัน​ ข้า​เลี้ยง​เขา​หนึ่ง​มื้อ​ เขา​ก็​จะต้อง​ควัก​เงิน​เลี้ยง​กลับ​หนึ่ง​มื้อ​ อีก​ทั้ง​ยัง​ไม่ได้​จงใจซื้อ​เหล้า​ดี​อะไร​มากมาย​ แค่​เป็นการ​แสดงน้ำใจ​อย่างหนึ่ง​เท่านั้น​”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!