กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 922

สรุปบท บทที่ 922.3 ยืมพันภูเขาหมื่นสายน้ำจากท่านทั้งหลาย (กลาง): กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!

สรุปตอน บทที่ 922.3 ยืมพันภูเขาหมื่นสายน้ำจากท่านทั้งหลาย (กลาง) – จากเรื่อง กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! โดย Internet

ตอน บทที่ 922.3 ยืมพันภูเขาหมื่นสายน้ำจากท่านทั้งหลาย (กลาง) ของนิยายกำลังภายในเรื่องดัง กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

หลังจากนั้น​เฉิน​ผิง​อัน​ก็​จากไป​เพียงลำพัง​ เจี่ยงชวี่​อยู่​ใน​ห้อง​ต่อ​ จางเจีย​เจิน​หิ้ว​กา​น้ำชา​บน​โต๊ะ​ขึ้น​มา ช่วย​เติม​ชาร้อน​ๆ ให้​อีก​ฝ่าย​ถ้วย​หนึ่ง​แล้วก็​เอ่ย​เสียง​เบา​ว่า​ “หากว่า​เจ้าไม่รู้สึก​อึดอัด​ใจ วันหน้า​เรื่อง​ของ​การ​ฝึก​ตน​ ถ้ามีจุด​ที่​ต้อง​ใช้เงิน​ก็​สามารถ​บอก​กับ​ข้า​สัก​คำ​ ถึงอย่างไร​เงินเดือน​ก้อน​นั้น​ของ​ข้า​เก็บ​ไว้​ก็​ไม่ได้​ทำ​อะไร​ อย่าง​มาก​สุด​ก็​แค่​นอน​กินดอกเบี้ย​เล็กน้อย​อยู่​บน​สมุดบัญชี​เท่านั้น​ เงิน​เทพ​เซียน​น้อย​นิด​แค่นี้​ต้อง​ไม่อาจ​ช่วย​งานใหญ่​อะไร​เจ้าได้​ แต่​ก็​เป็น​น้ำใจ​จาก​ข้า​”

เจี่ยงชวี่​มอง​จางเจีย​เจิน​ที่​มีสีหน้า​จริงใจ​แล้ว​พยักหน้า​ ยิ้ม​เอ่ย​ “ข้า​จะต้อง​เกรงใจ​เจ้าไป​ทำไม​”

จากนั้น​เจี่ยงชวี่​ก็​เอ่ย​หยอกล้อ​ว่า​ “คน​ที่​ให้ยืม​เงิน​ยัง​ลำบากใจ​กว่า​คน​ที่​ยืม​เงิน​เสีย​อีก​ เรียนรู้​มาจาก​ใต้เท้า​อิ่น​กวาน​หรือ​อย่างไร​?”

จางเจีย​เจิน​เพียง​คลี่​ยิ้ม​ไม่เอ่ย​อะไร​

เจี่ยงชวี่​ลังเล​เล็กน้อย​ แต่​สุดท้าย​ก็​อดไม่ไหว​เปิดปาก​ถามว่า​ “จางเจีย​เจิน​ เจ้าไม่ได้​วางแผน​ใน​ระยะยาว​บ้าง​เลย​หรือ​?”

ใน​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ ดูเหมือนว่า​จะมีเพียง​นัก​บัญชี​คน​นี้​เท่านั้น​ที่​ไม่ใช่ทั้ง​ผู้ฝึก​ตน​ แล้วก็​ไม่ใช่ทั้ง​ผู้ฝึก​ยุทธ​

ฟังความนัย​ใน​คำพูด​ของ​เจี่ยงชวี่​ออก​ จางเจีย​เจิน​จึงพยัก​หน้ายิ้ม​เอ่ย​ “มีสิ ข้า​เคย​คุย​กับ​อาจารย์​จูมานาน​แล้ว​ ดู​ว่า​ในวันหน้า​จะมีโอกาส​กลายเป็น​เทพ​ภูเขา​หรือไม่​”

เจี่ยงชวี่​ได้ยิน​เรื่อง​นี้​ก็​ตกตะลึง​ไม่น้อย​ ใคร่ครวญ​อย่าง​ละเอียด​ก่อน​เอ่ย​เนิบ​ช้าว่า​ “จางเจีย​เจิน​ เจ้ารู้​หรือไม่​ว่า​หาก​มนุษย์​ธรรมดา​อยาก​กลาย​มาเป็น​สิ่งศักดิ์สิทธิ์​ที่​เฝ้าพิทักษ์​พื้นที่​แห่ง​หนึ่ง​ไม่ได้​ง่าย​เลย​ ต่อให้​ได้รับ​การ​แต่งตั้ง​จาก​ทาง​ราชสำนัก​ หาก​เดิมที​ก็​เป็น​ผี​หรือ​วิญญาณ​วีรบุรุษ​อยู่แล้ว​ยัง​พูด​ง่าย​ แต่​หาก​เป็น​คน​ตัว​เป็น​ๆ อย่าง​เจ้า ลำพัง​ความเจ็บปวด​ทรมาน​ยาม​ที่​เลือดเนื้อ​สูญสิ้น​เหลือ​เพียง​โครงกระดูก​ตั้งอยู่​ ความทุกข์​ทน​ที่​จิตวิญญาณ​ต้อง​ได้รับ​ อย่า​ว่าแต่​ผู้ฝึก​ลมปราณ​เลย​ ผู้ฝึก​ยุทธ​เต็มตัว​ที่​เดิมที​เรือน​กาย​แข็งแกร่ง​ก็​ยัง​ไม่แน่​เสมอไป​ว่า​จะรับได้​ไหว​ หาก​ล้มเหลว​ขึ้น​มาก็​ต้อง​มีจุดจบ​ที่​จิตวิญญาณ​แหลก​สลาย​ ว่า​กัน​ว่า​แม้แต่กลับ​ไป​เกิด​ใหม่​ชาติหน้า​ก็​ยัง​ไม่มีโอกาส​แล้ว​นะ​!”

จางเจีย​เจิน​ริน​น้ำ​ชาร้อน​ให้​ตัวเอง​หนึ่ง​ถ้วย​ “เจ้าลืม​ยาทา​ที่​ร้าน​ยา​ตระกูล​หยาง​ของ​เมือง​เล็ก​ไป​แล้ว​หรือ​? แม้จะบอ​กว่า​ทุกวันนี้​ทาง​ราชสำนัก​ต้า​หลี​มีการควบคุม​อย่าง​เข้มงวด​ แต่​ด้วย​ความสัมพันธ์​ที่​ใต้เท้า​อิ่น​กวาน​กับ​ภูเขา​ลั่วพั่ว​มีต่อ​พวกเขา​ ขอ​มาให้​ข้า​สัก​ตลับ​ก็​ไม่ใช่เรื่อง​ยาก​”

ยาทา​ประเภท​นั้น​ ความมหัศจรรย์​ที่​ยิ่งใหญ่​ที่สุด​ก็​คือ​นอกจาก​จะขจัด​ความเจ็บปวด​ได้​แล้ว​ ยัง​สามารถ​ทำให้​คน​มีสติ​แจ่มชัด​ได้​ด้วย​

จางเจีย​เจิน​เอ่ย​ต่อ​อี​กว่า​ “อาจารย์​จูพูด​อย่าง​ตรงไปตรงมา​ว่า​ นี่​ยัง​เป็น​เพียงแค่​ก้าว​แรก​ของ​การกลายเป็น​เทพ​ภูเขา​เท่านั้น​ อันที่จริง​หลังจากนั้น​ยังมี​ประตูผี​อีก​สอง​บาน​ที่​ต้อง​เดินผ่าน​ แต่​ต่อให้​ข้า​จะมิอาจ​ผ่าน​ด่าน​ทั้ง​สามกลายเป็น​เทพ​ภูเขา​ได้​ ก็​ยังมี​ทางให้​ถอยหลัง​กลับ​ อย่าง​มาก​สุด​ก็​แค่​ถอย​มาเลือก​อันดับ​รอง​ แค่​อยู่​ที่​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ต่อ​ด้วย​สภาวะ​ของ​ภูตผี​วิญญาณ​หยิน​ เพียงแต่ว่า​หาก​คิด​จะขอ​การ​แต่งตั้ง​อย่าง​เป็นทางการ​จาก​ราชสำนัก​ต้า​หลี​กลับ​ค่อนข้าง​ยาก​ ได้​แต่​สร้าง​ศาล​เถื่อน​แห่ง​หนึ่ง​ขึ้น​มาให้​ข้า​ ดังนั้น​ต่อให้​มีศาล​และ​ร่าง​ทอง​ก็​ไม่ถือว่า​เป็น​ร่าง​ทอง​ที่​บริสุทธิ์​ ในอนาคต​คิด​จะเสวยสุข​กับ​ควัน​ธูป​ของ​โลก​มนุษย์​ก็​มีขีด​กำจัด​อย่าง​ใหญ่หลวง​ แต่ว่า​นี่​เป็น​แค่​ผลลัพธ์​ที่​เลวร้าย​ที่สุด​เท่านั้น​ เจ้าไม่ต้อง​เป็นกังวล​ให้​มาก​นัก​”

เจี่ยงชวี่​เงียบเสียง​ไป​

พูด​ง่ายๆ​ ก็​คือ​มนุษย์​ธรรมดา​อยาก​มีร่าง​ทอง​ เปลี่ยน​จาก​คน​ตัว​เป็น​ๆ ไป​เป็น​สิ่งศักดิ์สิทธิ์​ ก็​ไม่ต่าง​อะไร​จาก​การ​เดิน​ขึ้น​ฟ้าใน​ก้าว​เดียว​ ธรณีประตู​นั้น​สูง ระดับ​ความ​ยาก​มีมาก​จน​มิอาจ​จินตนาการ​ได้​

จางเจีย​เจิน​ยิ้ม​กล่าว​ “เรื่อง​แบบนี้​ใต้เท้า​อิ่น​กวาน​ต้อง​รู้​แต่แรก​แล้ว​แน่นอน​ แต่กลับ​ไม่เคย​พูดคุย​กับ​ข้า​ เจี่ยงชวี่​ เจ้าลอง​บอก​มาสิว่า​นี่​หมายความว่า​อย่างไร​”

เจี่ยงชวี่​กระจ่างแจ้ง​ใน​ฉับพลัน​ ต้อง​เป็น​เพราะ​ใต้เท้า​อิ่น​กวาน​มีความมั่นใจ​มาก​แล้ว​

เจี่ยงชวี่​พลัน​รู้สึก​โล่งอก​ จุ๊ปาก​เอ่ย​ “เจ้าจางเจีย​เจิน​ตัวดี​ ฉลาด​เฉียบแหลม​นัก​นะ​”

จางเจีย​เจิน​ชี้ไป​ยัง​สมุดบัญชี​ที่อยู่​บน​โต๊ะ​หนังสือ​ “คนโง่​จะเป็น​นัก​บัญชี​ได้​หรือ​?”

เฉิน​ผิง​อัน​ไป​เจอ​เสี่ยว​โม่ที่​ห้อง​ของ​หมี่​ลี่​น้อย​ บังเอิญ​ที่​ไฉอู๋​และ​ซุน​ชุน​หวัง​ต่าง​ก็​อยู่​ด้วย​ ขอ​แค่​มีเวลาว่าง​จาก​การ​ฝึก​ตน​ไฉอู๋​ก็​มักจะ​มาจิบ​เหล้า​อยู่​ที่นี่​เสมอ​

ทุกวันนี้​ใน​ห้อง​ของ​ผู้พิทักษ์​ฝ่ายขวา​ภูเขา​ลั่วพั่ว​มีตู้​หลัง​หนึ่ง​ที่​เซียน​กระบี่​ใหญ่​หมี่​ช่วย​ต่อ​ขึ้น​ให้​ด้วยตัวเอง​ วาง​กา​เหล้า​ไว้​จน​เต็ม​ ล้วน​เป็น​เหล้า​ที่​เตรียม​ไว้​ให้​ไฉอู๋​

เสี่ยว​โม่กำลัง​สอน​มรรค​กถา​และ​เวท​กระบี่​ให้​กับ​แม่นาง​น้อย​ทั้งสอง​

ถึงอย่างไร​เด็ก​ทั้งสอง​ต่าง​ก็​มีคุณสมบัติ​ดีเยี่ยม​ ง่าย​ที่จะ​ยกตัวอย่าง​เพียง​หนึ่งเดียว​ก็​อนุมาน​ไป​เป็นเรื่อง​ต่างๆ​ ได้​อีก​มากมาย​

เฉิน​ผิง​อัน​นั่ง​แทะ​เมล็ด​แตง​บน​ม้านั่ง​ตัว​ยาว​กับ​หมี่​ลี่​น้อย​

เสี่ยว​โม่กังวล​ว่า​วิถี​การ​ฝึก​ตน​ของ​ตน​จะมีความต่าง​ด้าน​ความหมาย​และ​ตัวอักษร​จาก​เวท​ลับ​ของ​ทุกวันนี้​ เพื่อ​หลีกเลี่ยง​ไม่ให้​ตัวเอง​ทำร้าย​ลูกศิษย์​ของ​ผู้อื่น​ เสี่ยว​โม่จึงตั้งใจ​สอน​บทเรียน​วิชา​ภาษาที่​หายสาบสูญ​ไป​นาน​แล้ว​บท​หนึ่ง​ให้​กับ​แม่นาง​น้อย​ทั้งสอง​ด้วย​

เวลานี้​เสี่ยว​โม่กำลัง​ถ่ายทอดวิชา​คาถา​บรรพกาล​ที่​เกี่ยวกับ​การเพ่ง​สมาธิเฝ้าดู​อย่างหนึ่ง​ ซึ่งก็​มีความแตกต่าง​จาก​คาถา​ของ​ทุกวันนี้​จริงๆ​ ยกตัวอย่างเช่น​เวลานี้​เสี่ยว​โม่กำลัง​ชี้ไป​ที่​ลำคอ​ของ​ตัวเอง​ เรียก​คอ​เป็น​หอ​เรือน​สิบ​สองชั้น​เหนือ​ตำหนัก​ชาด​บน​ผืน​นา​หัวใจ​ นอกจากนี้​อวัยวะภายใน​ทั้งหลาย​ก็​มีกอง​ฝ่าย​งาน​เป็น​ของ​ตัวเอง​ แต่ละ​ฝ่าย​มีวิธีการ​หล่อหลอม​แตก​ต่างกัน​ ของเหลว​ใน​เก้า​ช่อง​โพรง​เชื่อมโยง​ถึงกัน​ ร้อย​ชีพจร​หมุนเวียน​ถ่ายเท​ ไม่มีส่วน​ใด​ที่​ถูก​ละทิ้ง​ เสี่ยว​โม่ให้​แม่นาง​น้อย​ทั้งสอง​โคจร​ปราณ​วิญญาณ​หนึ่ง​กลุ่ม​ ไม่เหมือนกับ​การหายใจเข้า​ออก​ของ​ผู้ฝึก​ลมปราณ​ กลับ​เหมือน​ลมปราณ​แท้จริง​ที่​บริสุทธิ์​เฮือก​หนึ่ง​ของ​ผู้ฝึก​ยุทธ​มากกว่า​ จาก​บน​ลง​ล่าง​ ขณะเดียวกัน​ใน​อาณาเขต​ที่​แตกต่าง​ของ​ฟ้าดิน​เล็ก​ร่างกาย​มนุษย์​ ก็ได้​ให้​พวก​นาง​แยกกัน​จินตนาการ​ภาพ​ถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์​ที่​แตก​ต่างกัน​ตาม​กอง​งาน​ทั้งหลาย​ใน​ยุค​บรรพกาล​ ประหนึ่ง​คน​ลาดตระเวน​โลก​มนุษย์​ที่​ลง​มาจาก​ฟากฟ้า​…

สามแสงอยู่​บน​ใต้​พื้น​มีแสงเทียน​ แสงตะวัน​จันทรา​ดารา​สาดส่อง​ลง​บน​เก้า​แดน​ ตั้งแต่​บน​จรด​ล่าง​ล้วน​มีแต่​ทวยเทพ​ ตะวัน​จันทรา​โบยบิน​อยู่​ระหว่าง​หก​สมพงศ์​

กอด​เหลือง​กลับ​สู่ตันเถียน​ม่วง​ ธงมังกร​โบกสะบัด​บน​ฟ้าขว้าง​กระดิ่ง​ไฟ ฟ้าคำราม​สาย​ฟ้าแลบ​กระตุ้น​ทวยเทพ​ เซียน​ดิน​อมตะ​อยู่​ห่างไกล​จาก​ความตาย​

การ​ฝึก​ตน​ด้วย​วิชา​โบราณ​ประเภท​นี้​ก็​มีเพียง​เสี่ยว​โม่เท่านั้น​ที่​สอน​ให้ได้​

ประเด็นสำคัญ​คือ​แม่นาง​น้อย​ทั้งสอง​ ทุกครั้งที่​พิศดู​ทวยเทพ​ที่​แตก​ต่างกัน​ก็​จะมีภาพ​บรรยากาศ​ที่​ไม่ธรรมดา​ส่วนหนึ่ง​ผุด​ลอย​ขึ้น​มาเพื่อ​ขานรับ​กัน​จริงๆ​

เฉิน​ผิง​อัน​คิด​ว่า​ตอนที่​ตัวเอง​อายุ​เท่า​พวก​นาง​ หาก​ไม่ได้​ฝึก​ซ้ำไปซ้ำมา​เป็นเวลา​หนึ่ง​เดือน​ก็​อย่า​หวัง​ว่า​จะมีความเคลื่อนไหว​อย่าง​ไฉอู๋​และ​ซุน​ชุน​หวัง​ได้​

หมี่​ลี่​น้อย​ยกมือ​ป้อง​ข้าง​ปาก​ กด​เสียงต่ำ​เอ่ย​กับ​เจ้าขุนเขา​คนดี​ “ฟังไม่เข้าใจ​เลย​สัก​ประโยค​เดียว​ จะทำ​อย่างไร​ดี​?”

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​กล่าว​ “เป็น​ภาษายุค​บรรพกาล​ ฟังไม่เข้าใจ​ก็​เป็นเรื่อง​ปกติ​มาก​”

อันที่จริง​ครั้งนี้​ตอน​ที่อยู่​นคร​บิน​ทะยาน​ เฉิน​ผิง​อัน​ยัง​คัดลอก​ตำรา​กระบี่​หลาย​เล่ม​มาจาก​หอ​ถามกระบี่​ ซุน​ชุน​หวัง​เป็น​ทั้ง​ผู้ฝึก​กระบี่​ใน​ท้องถิ่น​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ และ​แม่นาง​น้อย​ก็​ยัง​เป็น​ลูกศิษย์​ที่​ได้รับ​การ​บันทึก​ชื่อ​ของ​หนิง​เหยา​ด้วย​ เรื่อง​นี้​จึงไม่ถือว่า​ผิด​กฎ​

รอ​กระทั่ง​พวก​นาง​เข้าสู่​ดินแดน​ที่​คล้ายคลึง​กับ​การ​ ‘มีสมาธิแน่นิ่ง​ก็​คือ​เจิน​เห​ริน​’

เฉิน​ผิง​อัน​เงยหน้า​มอง​ไป​ มองดู​คล้าย​ว่างเปล่า​ไร้​สิ่งใด​ แต่​แท้จริง​แล้ว​กลับ​ซุกซ่อน​ความลี้ลับ​เอาไว้​ อันที่จริง​ตลอดทั้ง​ใต้​หล้า​ไพศาล​ บางที​นอกจาก​ปรมาจารย์​มหา​ปราชญ์​และ​ห​ลี่​เซิ่งแล้วก็​มีเพียง​เขา​เฉิน​ผิง​อัน​เท่านั้น​ที่​หา​สถานที่​แห่ง​นี้​พบ​เจอ​ได้​อย่าง​ง่ายดาย​

หอ​พิทักษ์​เมือง​ทั้ง​เก้า​แห่ง​ของ​ใต้​หล้า​ไพศาล​ถูก​ศาล​บุ๋น​ตั้ง​แยกกัน​ไว้​เพื่อ​ใช้สยบ​โชคชะตา​ของ​ขุนเขา​สายน้ำ​ของ​หนึ่ง​ทวีป​

หอ​สยบ​ปีศาจ​ของ​ใบ​ถงทวีป​แห่ง​นี้​ ร่าง​จริง​คือ​ต้น​อู๋ถง​ต้น​หนึ่ง​ เล่าลือ​กัน​ว่า​ต้น​ไม้ต้น​นี้​เคย​อยู่​ใกล้​กับ​ท้องฟ้า​มาก​ เป็นเหตุให้​ทุกครั้งที่​ดวงจันทร์​ลอย​ขึ้น​มาล้วน​ไม่อาจ​สูงเกิน​ต้น​ไม้ต้น​นี้​ได้​

คราวก่อน​คน​ที่มา​เป็น​แขก​ที่นี่​คือ​มหาสมุทร​ความรู้​โจว​มี่ เฝ่ย​หรา​น​และ​เซอ​เย​ว่​

แต่​เฝ่ย​หรา​น​กับ​เซอ​เย​ว่​ในเวลานั้น​ล้วน​ถูก​โจว​มี่กักตัว​ไว้​ข้าง​กาย​ชั่วคราว​ ทั้งสองฝ่าย​ถึงได้​โชคดี​ได้​พบเห็น​ ‘ความจริง​ส่วนหนึ่ง​’ ของ​หอ​สยบ​ปีศาจ​ ต้น​อู๋ถง​ที่​มีอายุขัย​ยาวนาน​ต้น​หนึ่ง​ ตอนนั้น​ยัง​ไม่ได้​เผย​ร่าง​จริง​ ซึ่งมหา​มรรคา​ได้​จำแลง​ออกมา​เป็น​นคร​ตระหง่าน​โอฬาร​แห่ง​หนึ่ง​ กิน​อาณาเขต​นับ​พัน​ลี้​

เพียงแต่ว่า​ปี​นั้น​โจว​มี่เพียงแค่​ยื่นมือ​ไป​ลอง​หยั่งเชิง​ สามารถ​ทำลาย​ตรา​ผนึก​ขุนเขา​สายน้ำ​ได้​ แต่​สุดท้าย​กลับ​ไม่เลือก​ที่จะ​เข้าไป​ข้างใน​

โจว​มี่เคย​บอก​เรื่อง​วงใน​ที่​น่า​ตะลึงพรึงเพริด​บางอย่าง​กับ​เซอ​เย​ว่​ ยกตัวอย่างเช่น​เจ้าอาราม​ดอกบัว​จำเป็นต้อง​ตาย​ เพียงแต่ว่า​ตาย​เร็ว​กว่า​ที่​โจว​มี่คาดการณ์​เอาไว้​

และ​เซอ​เย​ว่​ก็​คือ​ ‘บรรพบุรุษ​แห่ง​ดวงจันทร์​’ เป็นเหตุให้​อยู่​ใน​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ นาง​จึงมีเหตุผล​ชอบธรรม​ยิ่งกว่า​เจ้าอาราม​ดอกบัว​ที่​ยึดครอง​และ​หล่อหลอม​ดวงจันทร์​ดวง​หนึ่ง​ได้​ แต่​เซอ​เย​ว่​กลับ​ยังคง​ไม่ใช่ผู้​ครอง​ดวงจันทร์​หนึ่ง​ใน​สิบสอง​เทพ​ชั้นสูง​ของ​ยุค​บรรพกาล​ พูด​ได้​แค่​ว่า​มีโอกาส​ โอกาส​สูงมาก​ ดังนั้น​ลูกศิษย์​ผู้สืบทอด​ของ​บรรพบุรุษ​ใหญ่​ภูเขา​ทัว​เย​ว่​อย่าง​ซิน​จวง​ถึงได้​ไป​คุย​เล่น​กับ​เซอ​เย​ว่​ใน​ดวงจันทร์​บ่อยๆ​ เพราะ​ร่าง​จริง​บน​มหา​มรรคา​ของ​ซิน​จวง​เคย​เป็น​เทพ​หญิง​ที่​รดน้ำ​ตัด​กิ่ง​กุ้ย​ใน​ตำหนัก​ดวงจันทร์​

ยุค​บรรพกาล​มีดวงจันทร์​อยู่​มากมาย​ หาก​บรรยาย​มัน​ให้​กลายเป็น​ที่ว่าการ​แห่ง​หนึ่ง​ของ​หก​กรม​ เซอ​เย​ว่​ก็​คือ​ขุนนาง​ที่​มีอำนาจ​สูงที่สุด​ หาก​กลับคืน​สู่ร่าง​จริง​ก็​จะกลายเป็น​รอ​งเจ้ากรม​ หาก​ไม่เป็น​เพราะ​เซอ​เย​ว่​ถูกจับ​โยน​ไป​ไว้​ที่​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​ เดิมที​โจว​มี่จะต้อง​พา​นาง​ขึ้น​ฟ้าจากไป​ด้วยกัน​ ไป​ยึดครอง​พื้นที่​แห่ง​หนึ่ง​ใน​สรวงสวรรค์​ใหม่​ ได้​เลื่อน​ระดับ​ขั้น​ของ​เทพ​ เท่ากับ​ว่า​เลื่อนขั้น​ก้าว​กระโดด​หลาย​ขั้น​ ได้​กลายเป็น​ผู้​ครอง​ดวงจันทร์​คน​ใหม่​โดยตรง​

เฉิน​ผิง​อัน​สูด​ลม​หายใจเข้า​ลึก​หนึ่ง​ครั้ง​ หรี่ตา​มอง​ไป​ แสงแก้ว​ใสเจ็ด​สีชั้น​แล้ว​ชั้น​เล่า​เหมือน​ริ้ว​น้ำ​แผ่​กระเพื่อม​ คล้าย​เป็น​บารมี​ข่มขวัญ​และ​การตักเตือน​อย่างหนึ่ง​ที่​มีต่อ​เขา​

แบกรับ​ชื่อจริง​ของ​ปีศาจ​ใหญ่​ทั้งหลาย​ สถานที่​แห่ง​นี้​จึงเกิด​ความรังเกียจ​และ​การ​สยบ​กำราบ​โดยธรรมชาติ​

เฉิน​ผิง​อัน​ต้อง​ก้มหน้า​ค้อม​เอว​ลง​ หลัง​โก่ง​ค่อม​

ไม่ผิด​ไป​จาก​ที่​คาด​ อีก​ฝ่าย​ไม่อยาก​พบ​เจอ​ตน​ หากว่า​ตน​ไม่อาจ​เปิด​ประตู​ได้​ก็​ต้อง​กิน​น้ำแกง​ประตู​ปิด​แล้ว​

เพียงแต่ว่า​เรื่อง​อย่าง​การบุก​พัง​ประตู​เข้าไป​ ไม่ใช่การกระทำ​ที่​สมควร​เลย​

ดังนั้น​จึงมีเสี่ยว​โม่ที่​สวม​หมวก​เหลือง​รองเท้า​เขียว​มาปรากฏตัว​อยู่​ด้าน​ข้าง​ สะบัด​ชาย​แขน​เสื้อ​ทั้งสอง​ ใน​มือ​มีกระบี่​ยาว​สอง​เล่ม​เพิ่ม​มา เงย​หน้ายิ้ม​บาง​ๆ เอ่ย​ว่า​ “ต้อนรับ​สหาย​เก่า​แบบนี้​หรือ​? ถ้าอย่างนั้น​ก็​อย่า​มาโทษ​ว่า​ข้า​ไม่เห็นแก่​ความสัมพันธ์​ใน​วันวาน​ก็แล้วกัน​”

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!