เยี่ยนเว่ยฉือรู้ว่าอันกั๋วกงนั้นหยิ่งผยอง
แต่คาดไม่ถึงว่าคนที่เป็นเพียงขุนนางจะหยิ่งผยองได้ถึงเพียงนี้
ฮ่องเต้ทรงยืนอยู่ตรงนี้แท้ ๆ เขากล้าฆ่าคนต่อหน้าสาธารณชนได้อย่างไร?
ทันใดนั้นเยี่ยนเว่ยฉือก็พลิกฝ่ามือ เข็มเงินสองเล่มปรากฏอยู่ที่ปลายนิ้วของนาง
ทว่าในขณะที่นางกำลังจะสู้กลับ จู่ ๆ ร่างที่ไม่สมประกอบก็ร่วงลงมาจากฟ้า และดึงเยี่ยนเว่ยฉือมาไว้ข้างหลัง
เขาผู้นั้นปกป้องเยี่ยนเว่ยฉือพลางถอยหลังไปสองก้าว แต่เยี่ยนเว่ยฉือก็ยังคงได้ยินเสียงดัง!
เป็นเสียงดาบคมเฉือนผ่านผิวหนัง!
“ชูจิ่ง?!”
“องค์รัชทายาท?!”
“เสด็จพี่ใหญ่?!”
จากนั้นก็มีเสียงอุทานจากทุกคน
ใช่แล้ว คนที่มารับการโจมตีแทนเยี่ยนเว่ยฉือไม่ใช่ใครอื่น นอกจากองค์รัชทายาทซ่างกวนซีที่บาดเจ็บสาหัสไปทั่วร่าง!
อันกั๋วกงมองคนตรงหน้าด้วยความตกใจ ปลายดาบสยบพยัคฆ์ของเขาแทงทะลุไหล่ของซ่างกวนซี
ซ่างกวนซีเช็ดเลือดตรงมุมปากพลางแค่นเสียงเย็น “อันกั๋วกง บังอาจนักนะที่กล้าลอบปลงพระชนม์องค์รัชทายาท!”
อันกั๋วกงหายใจเฮือกใหญ่อย่างหวาดกลัวและรีบดึงดาบออกมา จากนั้นก็ทำมือคำนับแล้วพูดว่า “กระหม่อมไม่กล้าพ่ะย่ะค่ะ!”
หากฆ่าเยี่ยนเว่ยฉือไปก็คงจะไม่เป็นอะไร เพราะนางยังไม่ได้ถูกแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ อีกทั้งฮ่องเต้คังอู่คงทรงไม่กล้าแตกหักกับเขา เพียงเพราะเด็กสาวที่ไม่มีที่มาแน่ชัดคนหนึ่ง
แต่การสังหารซ่างกวนซีนั้นจะกลับตาลปัตรเป็นอีกเรื่อง
เพราะนั่นคือองค์รัชทายาทแห่งแคว้นจิ่วหลี ซึ่งเป็นที่รู้จักไปทั่วหล้า
หากเขาตายด้วยน้ำมือของตนจริง ๆ กองทหารหลายแสนคนของซ่างกวนซีจะพากันมาล้อมตระกูลอันของพวกเขาเป็นแน่!
ดังนั้น การลอบสังหารองค์รัชทายาทจึงต้องลงมืออย่างลับ ๆ จะเปิดเผยออกมาไม่ได้เด็ดขาด
เมื่อดาบสยบพยัคฆ์ถูกดึงออก ก็มีเลือดพุ่งจากบาดแผลทันที
ซ่างกวนซีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ก็ขาสั่นจนแทบจะยืนไม่มั่น
เยี่ยนเว่ยฉือรีบยื่นมือไปประคองอีกฝ่าย ด้านฮ่องเต้คังอู่เองก็ทรงวิ่งไปตรัสถามด้วยอารมณ์ที่ทั้งยินดีและเป็นกังวล “ชูจิ่ง เจ้ายังมีชีวิตอยู่หรือ? เจ้ายังมีชีวิตอยู่จริง ๆ หรือ?!”
เขาจึงพยายามควบคุมสติพลางพูดว่า “เสด็จพ่อ ลูกไม่เป็นอะไรพ่ะย่ะค่ะ ลูกอยาก…”
ขณะที่ซ่างกวนซีมองเยี่ยนเว่ยฉือ เขาก็ตระหนักได้ว่าเขาลืมชื่อของนาง
เยี่ยนเว่ยฉือไม่ถือสา และพูดอย่างสุภาพ “องค์รัชทายาททรงเรียกหม่อมฉันว่าชายาที่รักก็พอเพคะ!”
ซ่างกวนซีเป็นใบ้ไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็พูดต่อ “ลูกอยากพานางกลับไปยังจวนองค์รัชทายาทพ่ะย่ะค่ะ!”
ฮ่องเต้คังอู่เองก็ทรงทราบถึงความกังวลของซ่างกวนซี หลังจากทรงครุ่นคิดไปมา ก็ทรงพยักพระพักตร์แล้วตรัสว่า “ตกลง ข้าจะให้คนพาเจ้ากลับไปส่งยังจวนองค์รัชทายาท”
บรรดาองครักษ์ที่ฝ่าบาททรงส่งมาอาจไม่ได้ภักดีต่อฝ่าบาททั้งหมด ดังนั้นซ่างกวนซีจึงปฏิเสธอีกครั้ง
“เสด็จพ่อแค่พระราชทานรถม้าให้ลูกก็พอพ่ะย่ะค่ะ!”
ฮ่องเต้คังอู่ทรงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเศร้าเมื่อเห็นซ่างกวนซีระมัดระวังมากเช่นนี้
พระองค์ทรงตบไหล่กวนซีและตรัสด้วยน้ำเสียงจนพระทัย “ได้ เช่นนี้ก็กลับไปรักษาอาการบาดเจ็บ ข้า...จะรอเจ้า!”
ประโยคนี้มีความหมายลึกซึ้ง
ดวงตาของเยี่ยนเว่ยฉือกวาดไปมาระหว่างสองพ่อลูก มักจะรู้สึกเหมือนพวกเขากำลังสื่อสารอะไรบางอย่างอย่างในใจ

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท